พระพุทธศาสนาสอนว่า บุคคลจะได้ดีหรือชั่ว ได้รับสุขหรือทุกข์ก็เพราะกรรมหรือการกระทำของตนเองทั้งสิ้น หากเราไม่ดำเนินตามทางที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ แม้จะสวดมนต์หรือวิงวอนขอร้องก็ไม่อาจจะช่วยให้เราพบความดีและความสุขได้ ถ้ามนุษย์จะมีความสุขได้ด้วยความภักดีและวิงวอน มนุษย์เราก็คงไม่ต้องทำอะไร
สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน กรรมนั้นย่อมเป็นของเราโดยเฉพาะ และเราจะเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น จะโอนให้ผู้อื่นไม่ได้ เช่น เราทำกรรมชั่วอย่างหนึ่ง เราจะต้องรับผลของกรรมชั่วนั้นผู้ใดทำกรรมดี กรรมดีย่อมเป็นของผู้ทำ หากเราต้องการกรรมดีเป็นของเรา เราก็ต้องประกอบกรรมดีเอง เหมือนกับการรับประทานอาหาร ผู้ใดรับประทานผู้นั้นก็เป็นผู้อิ่ม
มนุษย์เรามีภาระความเป็นไปต่าง ๆ กัน เช่น ดีหรือชั่ว รวยหรือจน เจริญหรือเสื่อม สุขหรือทุกข์ ก็เนื่องมาจากกรรมของตนเองทั้งสิ้น และกรรมใดที่ทำลงไปจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม ย่อมให้ผลตอบแทนเสมอ และย่อมติดตามผู้ทำเสมือนเงาติดตามตน หรือ เหมือนกับล้อเกวียนที่หมุนตามรอยเท้าโคไปฉะนั้น
ด้วยเหตุนี้มนุษย์จึงมีกรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย หากเราทำกรรมดีเราก็ได้รับความสุขความเจริญ กรรมดีจึงเหมือนกับกัลยาณมิตรที่คอยให้ความอุปการะ และส่งเสริมให้เราประสบแต่ความสุขและความเจริญ แต่ถ้าเราทำกรรมชั่ว กรรมชั่วก็คอยล้างผลาญเราให้ประสบแต่ความทุกข์และความเสื่อม
เหตุเพราะกรรมนำเกิดตามวิถี
ทุกชีวีกรรมเก่าเป็นเจ้าของ
ใช่อยากเด่นอยากดังอยากหวังปอง
กรรมพาพ้องพบพานเนิ่นนานเนา
ก่อนตัดสินรักชังชั่งใจก่อน
โปรดโอนอ่อนอย่าตีตราว่าโฉดเขลา
มีเมตตาเอาใจเขาใส่ใจเรา
คงบรรเทาใจสงบพบสุขพลัน
จากจุดเริ่มถึงปลายทางชีวิต
ใครลิขิตตนไปถึงปลายฝัน
หรือมีใครเพียบพร้อมทุกสิ่งอัน
เข้าใจกันช่วยเตือนนะเพื่อนเกลอ
เปรียบทะเลทุกเวลายังมีคลื่น
กระทบฝั่งครืนครืนอยู่เสมอ
ชีวิตคนอุปสรรคมากพบเจอ
ใช่เพียงเธอที่ทุกข์ใจในโลกา
แม้วันนี้ยังจมระทมทุกข์
ไม่มีคนปลอบปลุกให้หรรษา
ลุกขึ้นสู้ยอมรับธรรมดา
เมื่อเวลาผ่านไปคงได้ดี
เหม่อมองฟ้าวันนี้ยังมืดมิด
แม้ชีวิตก็มืดมนต้องทนฝืน
น้ำตาเอ่อท่วมใจในค่ำคืน
ต้องพลิกฟื้นความหวังพลังใจ......
ไม่มีความเห็น