หายจากบางนี้ เพราะหนีเที่ยว


บทบันทึก และคำสารภาพ จากการห่างหาย นอกเหนือจากการอ้างอิงงาน กับการอ้างว่าไม่มีเวลา ยังมีช่วงเวลาในบทบันทึกความเรียงชิ้นนี้ เสมือนหนึ่งเขียนคำสารภาพ ต่อการห่างหายและหลบเร้น เสมือนประกาศขออภัยมิตรรักแฟนบันทึก ด้วยความรำลึกถึง

หายจากบางนี้ เพราะหนีเที่ยว

อ้างอิง - ภาพ www.trekkingthai.com

เพราะกล่าวขอโทษ

เป็นบทขึ้นต้น

สำหรับการไม่ได้บอกได้กล่าวต่อ มิตรรักแฟนบล็อค เพื่อนบ้าน ผู้ผ่านทาง นักเขียนความเรียง ผู้นำเสนอบทความที่น่าสนใจในชุมชนแห่งนี้หลายท่าน ญาติธรรม นักเขียนเรื่องราวสมัครเล่นทั้งหลาย ที่ผลงานเขียนนับเป็นมืออาชีพ ที่ไม่ได้บอกกล่าว ถึงการเดินทางไกลอีกสักครั้งหนึ่ง

เดิมทีตั้งใจจะเขียนบอกกล่าวไว้

แต่ติดด้วยยังคิดประเด็นไม่ออก ไม่รู้จะบอกกล่าวเช่นไรดี

ถึงการเดินทางไกลที่ชื่นชอบของชีวิต

 

 

นับเป็นหนึ่งในการเดินทางอย่างสม่ำเสมอในทุกปี จะมากบ้างน้อยบ้างก็ตามแต่ จะยาวไกลสักแค่ไหนก็ต้องเลือกเอา ตามแต่กำลังศรัทธาของชีวิต ตามแต่แรงบันดาลใจ หรือความเจ็บไข้ได้ป่วยในใจ จึงจะได้ออกเดินทาง

ครั้งนี้เหมือนเดิม

สถานที่งดงามเช่นเดิม

เลือกการเดินทางที่งดงามสำหรับชีวิตเช่นเดิม

ครั้งนี้ หนีจากบางนี้ ขึ้นเวียงเจียงใหม่

เป็นเส้นทางที่นับไม่ถ้วนของชีวิต ถ้าจะนับให้ดีต้องนับรายปีว่า ปีนั้นปีนี้ขึ้นเชียงใหม่ไปแล้วกี่ครั้ง ขึ้นอย่างไรไปเช่นไร ไปรถ ไปเรือ ไปเรือบิน หรือกระทั่งโบกรถชาวบ้านเขาไป

 

 

ครั้งนี้เดินทางด้วยความงดงามของชีวิตเช่นกัน

คาดการณ์ว่า ปลายฝนต้นหนาวเช่นนี้ เมืองในความรู้สึก และพื้นที่แห่งความฝันหลายเรื่องราวของชีวิต เช่นเมืองเชียงใหม่ น่าจะให้คำตอบอะไรมากมายบางอย่างได้

ครั้งนี้ ขึ้นไปในฐานะคนนำเที่ยวกิตติมศักดิ์

นำคนไม่เคยขึ้นเชียงใหม่

ขึ้นไปสัมผัสความงามตามสูตรของเมืองแห่งนี้

ยังเหลือแค่พาไปสัมผัสความหนาวเย็นของเมืองนี้

ในยามหนาวที่ไม่มีฝน

 

 

การเดินทางไกลสำหรับชีวิตผม

ถือเป็นหนึ่งในการจาริกแสวงบุญของชีวิต

จะไหว้พระบ้าง เข้าวัดบ้าง ไม่เข้าบ้าง หรือแค่ผ่านทางแล้วยกมือท่วมหัว ก็ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการจาริก เพราะหากนับระยะการเดินทาง ที่ได้นั่งคิด ได้นั่งมอง ได้เฝ้าสังเกตุ กระทั่งได้เข้าใจว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ในชีวิต

ทั้งหมดล้วนเป็นโจทย์หนึ่งใน การจาริกแสวงบุญของชีวิตผม

 

 

โดยนับเป็นคติประจำใจว่า

เมื่อยังมีลมหายใจอยู่ ต้องพาตัวเองไปที่ชอบที่ชอบ

อย่ารอคอย

 

 

เช่นครั้งนี้ ที่ยังได้มีโอกาสฟังธรรมจากปากเพื่อน จากเรื่องราวจากมิตรสหายแดนไกล ซึ่งไม่ได้เยี่ยมยามกันนาน นานนับสิบปีที่ไม่ได้พบหน้าค่าตา กระทั่งมาพบเจอในบางแห่งนี้ กลายเป็นเพื่อนบ้าน มิตรสหายงานเขียน

วันคืนเก่าๆ เหมือนเด็กมัธยมฯ เด็กตึกกิจฯ

นั่งถามไถ่ถึงความฝันในชีวิต

แต่ครั้งนี้เปลี่ยนไปด้วย

หน้าที่การงาน แรงของชีวิต สถานะครอบครัว และอีกมากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ผมหงอก

และความกร้านในการเดินทางไกลของชีวิต

 

 

ครั้งนี้ มีภาพของความประทับใจ

ยามได้นั่งรถทัวร์คันใหญ่ผ่านเขา ผ่านขุนตาน จากลำปาง ลำพูน ก่อนเข้าเชียงใหม่ โดยหากวัดเอาความสวยงามที่สุด ก็น่าจะเป็นรถไฟ ที่จะได้เห็นความงามของเขา ต้นไม้ใบบังทั้งหลายในยามเช้า แต่ติดประการเดียว คือความทรมานกายทรมานใจ ในการเดินทางนานมากกว่า 10 ชั่วโมง

เลยต้องเลือกเอารถทัวร์ที่เหมาะสมในทุกสถาน

ได้เห็นได้มอง

ได้ชื่นชมสายหมอกของยามเช้า ปลายฝนต้นหนาว

กะจังหวะเวลาให้รถ นำพาเราไปพบเจอบรรยากาศยามเช้าเช่นนั้น

รถไต่เขาขึ้น เลาะโค้ง เลียบทาง

แม้โค้งเพียงเล็กน้อยของทางสู่เชียงใหม่ จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าทางไปสะเมิง แม่ริม น่าน ปาย แม่ฮ่องสอน แม่ระมาด ท่าสองยาง เชียงดาว ดอยเฒ่า แม่สะเรียง ขุนยวม หรืออีกหลากหลายเส้นทางโค้งของหุบเขา

แต่ครั้งนี้ก็ต่อเติมความประทับใจครั้งอดีต

ให้งดงามและรำลึก

นับเรื่องราวจากการเดินทาง

ได้เรื่องราวที่คิดจะเขียน คิดจะบอกกล่าวอีกมากมาย

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ว่าได้กลับมาบ้าน ณ บางแห่งนี้ อีกครั้งแล้ว

 

 

หมายเหตุ - ภาพนี้ หยิบยืมความประทับใจ จาก www.trekkingthai.com

 

โดยเป็นภาพถ่ายอันงดงาม ที่ถ่ายจากเส้นทางเขาใหญ่ ไปยังผาเดียวดาย จึงขออนุญาติอ้างอิงความประทับใจ ผ่านถึงช่างภาพผู้จับอารมณ์ เรื่องราว อันงดงามของสายหมอก สายถนน และเส้นทางชีวิต มา ณ โอกาสนี้

หมายเลขบันทึก: 139883เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2007 19:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะคุณkati

ด้วยความระลึกถึงอย่างยิ่งเลยค่ะ  ดีใจที่เห็นบันทึกของคุณอีก  และยินดีด้วยที่ได้ท่องเที่ยวไปในที่ที่คุณชอบนะคะ  ภาพถนนสายหมอกที่นำมาฝาก สวยเย็นๆดีจังค่ะ    ทำไมก็ไม่รู้.... ดิฉันชอบภาพถนนที่ทอดยาวแบบนี้นัก: )

.....เชียงใหม่ยังสวยอยู่เช่นเดิมใช่ไหมคะ....: )

  • สวัสดีครับ คุณครู
    P
  • ด้วยความระลึกถึงเช่นกันครับ
  • ขอบคุณอย่างยิ่งครับ สำหรับความยินดี
  • ถนนสายหมอกเส้นนี้ อาจงดงามแตกต่างจากเส้นทางสู่เชียงใหม่
  • ถนนเส้นนี้ มุ่งหน้าสู่ผาเดียวดาย เขาใหญ่
  • แต่ภาพละอองฝน สายหมอก ล้วนงดงามเฉกเช่นเดียวกันครับ
  • ส่วนเมืองเชียงใหม่นั้น
  • ยังงดงาม และสวยงามในการได้มองเห็นเช่นเดิมครับ
  • สำหรับผู้ที่หลงรัก และหลงใหลเวียงแห่งนี้
  • คงต้องตอบเช่นผม ครับ
  • จะตอบว่า เป็นกำปั่นทุบดิน แบบไม่มีรายละเอียดก็อาจจะกล่าวได้
  • แต่สำหรับโดยส่วนตัวผม
  • ผมยังหลงรัก หลงใหลเชียงใหม่
  • จึงสรุปว่า เชียงใหม่ ยังสวยเช่นเดิมครับ
  • แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงไปก็ตามที

สวัสดีครับ

ผมชอบใจคติประจำใจของคุณ Kati จริงๆ เป็นการให้กำไรชีวิตที่ดีครับ

เมื่อยังมีลมหายใจอยู่ ต้องพาตัวเองไปที่ชอบที่ชอบ  อย่ารอคอย

 

  • สวัสดีครับ คุณ
    P
  • ทดลองเดินทางไกลบ่อยๆครับ
  • บางครั้งบางหน อาจค้นพบคำตอบบางประการ
  • หากไม่เช่นนั้น ทดลองกิจกรรมมากมายหลากหลาย
  • เพื่อให้ชีวิตได้เข้าใจ สิ่งที่แตกต่างจากปกติ
  • แตกต่างจากความเคยชินในชีวิตประจำวัน จนบ่อยครั้ง ทำให้เราหลงลืม
  • ว่าความจริงของชีวิต
  • ล้วนเป็นสิ่งไม่แน่นอน
  • ขอบคุณอย่างมากครับ สำหรับคำชอบใจ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณ Kati

คิดถึงจังค่ะ  เบิร์์ดชอบหมอก อาจเพราะเป็นคนเหนือทำให้เวลาที่เห็นภาพหมอก จะนึกถึงบ้านและกระไออวล ฉ่ำเย็นของหมอกก็ทำให้เบิร์ดรู้สึกเย็น สดชื่น ฉ่ำ้ชื้ื่นอยู่ในใจและ นุ่มนวลในความรู้สึกตลอดมา

คุณ Kati มีโอกาสทำในสิ่งที่เป็นความปรารถนาของตัวเบิร์ืดเองได้แก่การท่องเที่ยวไปตามใจที่อยากจะไป โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ..อ่านบันทึกนี้แล้วยิ้มชื่นชมกับการที่คุณได้ชาร์ตแบต ฯ ของชีวิตอีกครั้ง  และเพียงแค่อ่านก็ได้รับความสุขไปด้วยเช่นเดียวกัน

ขอบคุณสำหรับภาพหมอกขาวสวยที่ทำให้ฉ่ำ เย็น ชื้นในใจภาพนี้นะคะ ^ ^ 

 

 

  • สวัสดีครับ คุณ
    P
  • รู้สึกยินดีอย่างยิ่งครับ สำหรับคำทักทาย
  • คิดถึง และรู้สึกยินดี เช่นกันครับ
  • สำหรับโอกาสในการทำสิ่งที่ปรารถนานั้น
  • ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก็ไม่ค่อยจะมีเช่นกันครับ ต้องค่อยๆทำ ค่อยปรับตัว เพื่อไปถึงสิ่งที่เชื่อ สิ่งที่คิดว่าทำแล้วจะสร้างหนทางวิถีชีวิต ที่เราอยู่กับแต่ละวัน แต่ละก้าวของชีวิตได้
  • โดยอึดอัดใจ กับเงื่อนไขเรื่องงาน เรื่องเวลา และเรื่องราวของผู้คนให้น้อยที่สุด
  • โดยส่วนตัว ผมชื่นชอบการอ่านหนังสือ ชื่นชอบการเดินทางไกล นั่งสังเกตุผู้คน มองความเปลี่ยนแปลงเป็นไป ดังนั้นจึงต้องมีข้อสรุปกับชิ้นงานให้ได้ ว่าจะเลือกหนทางใดของชีวิต
  • สำหรับสายหมอก กับภาพขุนเขา ต้นไม้ใบบังทั้งหลาย ผมถือว่า เป็นความสุขในการได้เห็น ความสุขจากการมองโลกด้วยความสงบสุข
  • ยังมีอีกสิ่ง
  • ที่งดงามมากครับ
  • คือการได้นั่งมองผืนป่า ช่วงป่าสลับสี
  • เป็นการมองป่า และขุนเขาที่งดงามมากครับ
  • ยิ่งยามเช้า มีสายหมอก ขุนเขา และป่าสลับสี ยิ่งงดงามอย่างมากครับ
  • สำหรับผม ผมปรารถนาจะไปชมภาพเหล่านั้นทุกปีทุกปี ในแต่ละปีของชีวิต
  • จึงต้องพยายามทำเงื่อนไขชีวิต ให้เอื้ออำนวยกับหนทางที่ตั้งใจ
  • ขอบคุณ คุณเบิร์ด เช่นกันครับ
  • สำหรับคำทักทาย การเยื่ยมเยือน มิตรภาพ และคำโอภาปราศรัย
  • ขอบคุณอย่างมากครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท