การจัดการต้นทุนการผลิต...ในแบบฉบับของเรา
..... ........
..... .......
"ครูคะ...ทำไมขวดที่เราซื้อมาวันนี้แพงจังคะ..ตั้ง 8 บาท"
.......
.......
เด็กๆ ตั้งคำถามถึงราคาขวดบรรจุภัณฑ์ที่เราไปซื้อมาใส่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตขึ้น
ขวดใส่น้ำยาล้างจาน (แบบฝาเกลียว) ราคา ไม่ต่ำกว่า 3 บาท ถ้าเป็นแบบฝาป๊อกแป๊ก ราคา 7 บาท
ขวดน้ำยาซักผ้า, แชมพู, สบู่เหลว ราคา ไม่ต่ำกว่า 8 บาท
ถ้านักเรียนนำไปจำหน่ายในราคาขวดละ 12 บาท ต้นทุนค่าขวด 8 บาท เงินส่วนต่างจะเหลือ 4 บาท
รายได้จากการขายเหลือนิดเดียว
กำไรไปตกอยู่ที่พ่อค้าในเมืองเหมือนเดิม....
นักเรียนแทบจะไม่มีแรงจูงใจในการทำงานเลยค่ะ
นี่ยังไม่นับรวมต้นทุนการผลิตส่วนอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ค่าถังหมัก ค่าน้ำตาลทราย ค่าน้ำ ค่าแรง และอื่นๆ อีกจิปาถะ
.....เราสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างไรกันบ้างคะ......
ถังหมักแบบนี้....ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสุรินทร์ และสถานีพัฒนาที่ดินสุรินทร์
ถังแบบนี้ซื้อเองค่ะ....เลือกชนิดที่ราคาไม่แพง
ถังสีเก่า....ถังผงซักฟอกขนาด 8 กิโลกรัม...นำกลับมาใช้ใหม่ได้
ขวดบรรจุผลิตภัณฑ์....เหลือใช้จากน้ำดื่ม...นำกลับมาใช้ใหม่ค่ะ
จุ๊..จุ๊...ที่นี่ใช้แรงงานเด็กค่ะ (น้องอนุบาล..ติดตามพี่สาวมาช่วยอีกแรงค่ะ)
....... .......
โดยเฉพาะขวดบรรจุภัณฑ์....ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยค่ะ......ได้รับการอนุเคราะห์จากร้านอาหารในตัวเมืองสุรินทร์ค่ะ...>>> ณ ราดหน้ายอดผัก (ร้านนี้มีสาขาอยู่ทั่วไปหลายจังหวัดค่ะ) <<<
อาเฮียกับเจ้เจ้าของร้านน่ารักมากจริงๆ.....ปกติจะขายให้กับคนรับซื้อของเก่า กิโลกรัมละ 20 บาท (ประมาณ 1 ถุงปุ๋ยค่ะ) พอทราบว่าเรามีโครงการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับเด็กนักเรียน ก็ยินดีมอบให้โดยไม่คิดตังค์...แถมเมื่อพาเด็กแวะไปทานราดหน้าเพื่อให้เด็กๆ ได้ขอบคุณเจ้าของร้านผู้ใจดี...ยังลดราคาให้พิเศษอีก...
ทุกวันนี้ก็ยังเตรียมขวดไว้ให้โรงเรียนบ้านจันรมไปรับอยู่ค่ะ....เท่ากับว่าขวดบรรจุน้ำยาล้างจาน...ไม่มีต้นทุนค่าขวดอีกต่อไป....(เราจึงสามารถให้ค่าตอบแทนเด็กนักเรียนที่เดินขายได้เต็มที่ไงคะ)
การจัดการในเรื่องลดต้นทุนการผลิต จึงมีความสำคัญ เพราะกิจกรรมที่ทำขึ้นไม่ได้มุ่งผลิตเพื่อจำหน่ายเพียงอย่างเดียว (ซึ่งเป็นระบบธุรกิจมุ่งหวังกำไร)
เป้าหมายการผลิตหลักของเรา คือ ผลิตเพื่อชุมชน เพื่อให้นักเรียนทำในสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน เพื่อให้ครอบครัวของเด็ก ชุมชนที่เด็กนักเรียนอยู่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดรายจ่ายที่ควรลด
การพึ่งพาตนเองได้...ไม่ต้องทั้งหมด...แค่บางส่วน หรือแค่หนึ่งในสี่....ก็น่าจะช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องค่าขนม นักเรียนไม่ต้องรบกวนเงินผู้ปกครองอีกต่อไป ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของชุมชนชนบทก็ลดลง ก็เท่ากับว่าเพิ่มเงินในกระเป๋าตังค์ได้...และที่สำคัญ....ลดภาระการกำจัดขยะ จากการนำสิ่งเหลือใช้อย่างขวดน้ำดื่ม และถังพลาสติก กลับมาใช้ซ้ำ (reuse) ....ช่วยยืดเวลาโลกร้อนไปสัก 5 นาที ก็ยังดี.......จริงไหมคะ.....
สวัสดีค่ะ
ปรบมือให้ดังๆเลย ความเกื้อกูลในชุมชน เป็นสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่ และทำให้คนทำงานชุมชน มีแรงๆๆๆๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูกั๊ต
สวัสดีครับครู
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะครู หญ้าบัว
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ฉลาดมากเลยครับอาจารย์กั๊ตจัง
อาจารย์แสดงให้ผมเห็นถึงความสามารถในการจัดการปัญหา การสร้างเครือข่ายในชุมชน ในโรงเรียน ในครอบครัว
สุดยอดดดดด
สวัสดีครับ
วิธีการหาวัตถุดิบของอาจารย์คล้ายๆกันกับของผม เวลาทำน้ำหมักชีวภาพ ผมจะใช้น้ำมะพร้าวแทนน้ำเปล่าบางครั้งก็ไม่ต้องเติมน้ำตาล ในน้ำมะพร้าวจะมีอาหารสำหรับจุลินทรีย์ และพืชอยู่แล้ว การใช้น้ำมะพร้าวจะดีกว่าการใช้น้ำเปล่า วิธีการหาน้ำมะพร้าวมาใช้ ก็ไปขอมาจากร้านขายมะพร้าวขูดในตลาด ปกติเขาจะเททิ้ง ผมก็เอาถังไปวางไว้ให้เขา ตอนเย็นๆก็ไปเอา แต่ไม่ควรทิ้งไว้ข้ามคืน น้ำมะพร้าวจะบูดก่อน การใช้น้ำมะพร้าวจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มากครับ คนขูดมะพร้าวขายเขาต้องซื้อน้ำยาล้างจานไปทำความสะอาด อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ ผมก็ทำน้ำยาล้างจานไปให้เขา และเปลี่ยนกัน
ผักคะน้า กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว พวกนี้จะมีการใช้ยาฆ่าแมลงเยอะ หากนำไปทำน้ำหมักชีวภาพ ยาฆ่าแมลงอาจจะตามไปด้วย หากหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรจะเลี่ยงครับ
แหล่งของขวดน้ำอีกแห่งก็คือ วัด ครับ ตามวัดจะมีขวดน้ำเยอะ ลองติดต่อกับทางวัดดูว่า จะขอไปใช้ วัดคงไม่ขัดข้องครับ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ธนพันธ์
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ เฒ่าหน้าเหมน
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
มาอ่านบันทึก ด้วยความชื่นชมครูกั๊ตจัง(อีกแล้ว)
ให้กำลังใจในการทำงานนะครับผม