จ๊อยคนล้านนา


จ๊อยคือมรดกทางวรรณกรรมของชาวล้านนาที่มีมานานนม

จ๊อย   คืออะไร?  ทำไมถึงต้องจ๊อย์

                  ทุกชาติทุกเผ่าพันธุ์ย่อมมีมรดกทางวรรณกรรมเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง  ดังเช่นเรื่อง  "จ๊อย" ของชาวล้านนา

                 ผู้คนปัจจุบัน ได้นำเอาจ๊อยมาใช้ในชีวิตประจำวันแบบผิดเพี้ยน  เผลอๆเอาจ๊อยไปเปิดงานมงคล  ถ้าผมเป็นประธานผมคงต้องเปิดแน้บ  ดังภาษาล้านนาเขาว่า หล้นจ๋นก้นมนแกว๊ด   นั่นเอง

                ที่มาของคำว่าจ๊อย  ซึ่งเป็นวรรณกรรมโบร่ำโบราณของชาวล้านนา เรื่องที่มาเป็นตำนานจากชาวลัวะ  ดังนั้นจึงมีผู้เชี่ยวชาญด้านล้านนาสันนิษฐานกันว่า  คำว่า จ๊อย  เป็นภาษาของชาวลัวะ

                ตำนานเรื่องจ๊อยเริ่มมีว่า " ในสมัยก่อนชาวลัวะอยู่กันเป็นเมืองเล็กๆ  แต่ละเมืองก็เป็นอิสระแก่กัน  อย่างไรก็ตามมีเมืองของชาวลัวะเมืองหนึ่งชื่อเมือง " ต๋าทอก "  มีพญาแมนต๋าทอกเป็นเจ้าเมือง

                ครั้งหนึ่งมีกองทักฮ่อมารุกรานเมืองต๋าทอก  พญาแมนต๋าทอกนำกองทัพออกรบ  กองทัพฮ่อได้ฆ่าพญาแมนต๋าทอกสิ้นพระชนม์ในสนามรบ  พวกทหารลัวะจึงช่วยพันป้องกันเอาพระศพพญาแมนต๋าทอกกลับเมือง   แต่ฮีตฮอย(จารีต)ของชาวลวัห้ามนำศพผีตายโหงกลับเข้าบ้านเมือง  ทหารจึงนำศพพญาแมนต๋าทอกไว้นอกเมืองแล้วส่งคนไปกราบทูลพระนางอุทุมพะก๋าย  มเหสีของพญาแมนต๋าทอก

              ครั้งพระนางอุทุมพะก๋ายทรงทราบเรื่องการสวรรคตของสวามีจึงรีบออกมาดูพระศพ พร้อมกับร้องไห้โหยหวนว่า " ผัวของข้าเหย  มาต๋ายตอ้ดละ หนีจากตั๋วข้านี้ไป   ต่อแต่นี้ข้าจักอยู่กับไผ ก๋ำเวรใดมาเป๋นดั่งอี้........"

             เสียงไห้โหยหวนของพระนางอุทุมพะก๋ายทำให้ผู้คนที่ได้ยินเกิดอารมณ์โศกเศร้าตามพร้อมๆกับมีทำนองที่ฟังแล้วม่วนงันยิ่งนักทั้งยังมีคำคล้องจองไพเราะเพราะพริ้งดีแท้ ผู้คนจึงจดจำทำนองไพเราะโศกเศร้านั้นนำมาเป็นทำนองของคำประพันธ์ที่เรียกันว่า คร่าว(อ่านว่าค่าว)และเรียกทำนองนั้นว่า ทำนองวิงวอนหนโลกคือคำพรรณาของชาวโลก(คนสมัยก่อนแบ่งความเป็นอยู่เป็น 2 ส่วน คือส่วนโลกคือ ชีวิตชาวบ้านทั่วไป และหนธรรม  คือชีวิตของพระสงฆ์)

             หลังจากนั้นมาหากใครมีเรื่องโศกเศร้า เหงาหงอย ใจไฝ่ลอยหาคนรัก  คิดถึงผู้อยู่ไกล  เสียใจกับการสูญเสียคนรัก  ผู้นับถือ  ญาติผู้ใหญ่  จำจากลา  นิราศร้างห่างไกลกัน ก็จะพร่ำพรรณาเป็นคำคล้องจองและนำทำนองคำวิงวอนหนโลกใส่ในเนื้อหา  เกิดเป็นคำประพันธ์ที่งดงาม ประเภทกล่าวถึงความสูญเสียห่างไกล จำใจจาก  

            เมื่อบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปการเรียกว่าวิงวอนหนโลกมันยืดยาว ผู้คนนิยมนำคำว่า จ๊อย  หมายถึงโศกเศร้ามาเรียกขานแทนคำว่าวิงวอนหนโลก  คำประพันธ์นี้จึงนิยมเรียกกันว่า " จ๊อย "จนปัจจุบัน

              จะจ๊อยกันเมื่อใด?  การจ๊อยในล้านนานิยมจ๊อยแทรกในการเล่นเพลงซอพื้นเมือง โดยเฉพาะตอนที่ช่างซอจะจากบ้านเมืองเข้าป่า หรือที่เรียกกันว่า เข้าป่าเก็บนก  ช่างซอจะจ๊อยร่ำลาบ้านเมือง ญาติๆ

               ส่วนในชีวิตประจำวัน  พวกหนุ่มสาว จะนิยมจ๊อยตอนที่คิดถึงกัน เช่นสาวคิดถึงตั๋วพ่อ(อ่านตั๋วป้อ)คือชายหนุ่มคนรักในยามค่ำคืน  มองคนรักหาเมื่อใดก็ไม้เห็นมาเหมือนก่อนๆ จึงจ๊อยขึ้นว่า   คืนฟ้าหนาว   ใจ๋สาวง่อมล้ำเผียบเหมือนเถื่อนถ้ำดงดำสิงขร   ดาวเดือนเคลื่อนคล้อย   น้ำย้อยตี๋นก๋อน  ซบหัวลงนอนกอดหมอนฮ่ำไห้ 

              บางครั้งชายหนุ่มเดินไปเที่ยวสาวยามค่ำคืน ก็นิยมจ๊อยส่งเสียงให้สาวๆเห็นใจขณะที่เดินผ่านบ้านสาวๆ   สาวเหยสาวข้าหนาวใจ๋ล้ำ  อยากได้ตั๋วเจ้ามาแอม   ผ่อเกาะก๋างน้ำหันอ้อก้กแขมยังมีคู่แอมเป๋นก๋อเป๋นเหง้า...

                 บางครั้งผู้คนล้านนามักกล่าวถึงอาการของคนคล้ายบ้าว่า "จ๊อยๆซอๆ "หมายถึงจ๊อยคืออารมณ์ที่โศกเศร้าส่วนซอเป็นอารมณ์ที่ดีแจ่มใส   นั่นคืออาการของคนเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี เสียสติ

               สรุปแล้วจำว่า "จ๊อย"เป็นคำประพันธ์คนล้านนาที่บ่งบอกถึงความโศกเศร้า กึ๊ดเติง ร่ำเปิงหา  ยามนิราศร้างห่างไกลของรักในบางหมู่บ้านจะนิยมจ๊อยร่ำหาอาลัยในงานศพ  งานอวมงคล

                      



ความเห็น (20)

แล้วจังหวัดไหนมีคนที่ขับร้องหรือว่าแผ่เผยศิลปจ๊อยที่มากที่สุดอ่ะครับ

ต้องการอย่างเร็วครับขอร้อง

ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะครับ

ขอบคุณคร้าบ

ขอบใจ่จาดนั้กตี่จวยเน้อ

สัวสดีผู้สงสัย..

กว่าลุงหนานจะมาหันคำถามก็ผ่านมาหลายเดือนเข้าแล้ว..ขอสุมา.

จังหวัดที่มีคนจ๊อยนักที่สุดคงตอบแน่ชัดบ่ได้ครับ..เพราะบ่มีคนเก็บสถิติไว้ครับ..เพราะจ๊อยมีอยู่ทั่วไปครับ..

หากสงสัยหรืต้องก๋ารจะเฮียนเรื่องจ๊อย  ค่าว กะโลง เชิญที่แหล่งเรียนรู้ผะหญาล้านนา-สวนชาปิ้งหินไฟ  ตามที่บทความด้านล่างนี้ครับ..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

ลุงหนานเจ้าถึงตัวจะบะได้อยู่บ้านเฮาแต่ใจ๋ฮักฮู้คำเมืองและจ๊อย ซอ ค่าว คำบะเก่าเจ้าลุงหนานจะกรุณาลูกหลานอยู่ไกลเผยแพร่ความฮู้มาต่างแดนตวยเน้อเจ้าจะเป็นบุญ วาสนาของลูกหลานเน้อเจ้า ขอบคุณจาดนักเจ้าป้อหนานใจ๋ดีคนเมืองเฮาเจ้า

สวัสดีครับคุณnana""

ผมอาจตอบจ๊าไปหน้อยครับเพราะมัวไปเขียนเรื่องอื่นๆโดยเฉพาะเรื่องขึด(อาถรรพ์)ในล้านนาครับ...

ดีใจ๋ครับที่ได้อ่านความคิดเห็นจากพี่น้องต่างแดนและได้ฮับความสนใจ๋จากพี่น้องเฮาแม้อยู่ต่างแดนก็ยังฮักในผะหญาล้านนาครับ..หากสนใจ๋ก็ลองเข้ามาแว่อ่านอยู่บ่อยๆครับมีความฮู้เกี่ยวกับล้านนาทั้งนั้นเลยครับ...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

สวัสดีคับ ..

สูมาเต๊อะคับ ป่อหนานพรหมมา

ถ้าผมอยากใค่ได้ ค่าว ซอ จ๊อย ต๊่เป็นแบบ mp3 จะยะอย่างใดได้ครับ..

แล้วค่าว กับ จ๊อย มันต่างกั๋นจะใดครับ

นับถือไหว้สา ป๋อหนานพรหมมา.

สวัสดีครับคุณสืบสาน....

เรื่องค่าว  ซอ  จ๊อย  ที่คุณอยากได้คงจะทำยากอยู่พ่องครับเพราะยังบ่มีไผแป๋งครับ...

ค่าวคือคำคล้องจองมีสัมผัส  มีรูปแบบกำหนด เช่น...

"ส่วนยนต์หงส์   ก็พาหน่อไท้เข้าป่ากว้างดงไพร

จุต้นฮ่ำฮ้องตระเหว่าตระไหน   จับกิ่งใบสาขาหยาดถ้อย

ฤดูเดือนหกคิมหาเป่งป้อย  พระพายจอยกิ่งไม้..."

   (จากค่าวธรรมเรื่องหงส์หิน)

การอ่านจะอ่านเป็นทำนองไปเรื่อยๆ  มีเสียงขึ้นลงตามคำอักษรสำเนียงล้านนา

ส่วนเรื่องของการ " จ๊อย "  เป็นการเอาค่าวที่เป็นเรื่องค่อนข้างเศร้า  หรือระบายความในใจ กึ๊ดเติง(คิดถึง)  รำเปิง(รำพึงรำพัน)หา  อาจรำพึงหาคนรักที่จากไป การอ่านจ๊อยจะลากเสียงยาวกว่าการอ่านค่าวครับ  บางคนจ๊อยเก่งจะออกลูกเล่นให้คนฟังน้ำตาไหล เป็นต้น..

เช่นว่า  "คืนฟ้าหนาว   ใจ๋สาวง่อมล้ำเผียบเหมือนอยู่ถ้ำ   ดงดำสิงขร    ดาวเดือนเคลื่อนคล้อย   น้ำย้อยตี๋นก๋อน    ซบหัวลงนอน   กอดหมอนร่ำไห้ "...

มีบันทึกเกี่ยวกับจ๊อยเล่าว่า  " พญาแมนต๋าทอกชาวลัวะออกรบ  ถูกข้าศึกฆ่าตาย   เมื่อนางอุทุมพะก๋ายมเหสีทราบเรื่องจึงร้องไห้คร่ำครวญ   เสียงครวญของนางเป็นที่จับใจแก่ผู้ได้ยิน  โหยหวนแต่ความไพเราะแฝงฝังอยู่   ผู้คนจึงเอาทำนองโหยหวนร้องไห้ของนางมาเป็นทำนองของจ๊อยในเวลาต่อมา...."   จ๊อยจึงเป็นท่วงทำนองของความเศร้าโศก  รำพึงรำพันหรือร่ำเปิงหา

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

งามแต๊แล้ว แม่แก้วก๋าหลง สาวน้อยป่าบง อนงค์น้องเหน้า

ใคร่มาฟู่จ๋า สบต๋ากับเจ้า สรี๋นงเลา สาวน้อย

แต่ว่าพี่จ๋น เป๋นคนต่ำก๊อย อี่น้องสาวหน้อย บ่แล

เป๋นคนยากไร้ ไผบ่แยแส สาวน้อยบ่แคร์ แม่ฮ้างบ่ข้องๆ

สรีสวัสดีปี้น้อนขุนแผน...

ยินดียิ่งแล้วเข้ามาแอ่วหา   มาจ๋าวาตากล่าวคำค่าวสร้อย

ปั๋ญญาดีมีนักบ่หน้อย   ตังค่าวจ๊อยซอม่วนล้ำ

ขอเข้ามาเต๊อะมาจ้วยกั๋นก๊ำ  ผะหญาว่าอั้นล้านนา

ตังซอค่าวจ๊อยม่วนแต๊นักหนา   มันเป๋นปั๋ญญาล้านนาเนอเจ้า..ล้านนาเนอเจ้า...

ด้วยความปรารถนาดีจาก...ลุงหนาน   พรหมมา

ขอยกมือขึ้นไหว้ ไป่มือขึ้นสา สิบนิ้ววันตา ไหว้สาครับ บ่อหนานพรหมมา

ผมได้ติดต๋ามผลงานของบ่อหนานมาจ๋าดเมินแล้วครับ ผมชื่นชมในความพยายามตี่บ่อหนานนั้นอนุรักษ์จ๋ารีตป๋าเวณี สืบฮีตต๋ามฮอยล้านนาเฮาไว้ครับ ผมคนหนึ่งครับ ที่หลงไหลวัฒนธรรมท้องถิ่นบ้านเฮาแต่ก่อยังบ่อค่อยฮู้นักเตื่อ หวังว่าคงจะได้จ่วยกั๋นสืบก้ำนะครับ

ผมอยากเฮียนค่าวจ๊อยฮื้อเก่งจะยะใดดีครับ บ่อจ่วยแนะนำผมกำครับผมเป๋นดีเจตวยครับ ..อยากแต่งโฆษณาฮื้อลูกค้า ตี่เปิ้นขายของครับ บ่อว่าจะเป๋นร้าน ขายอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องกรองน้ำ เครื่องตัดไฟ ,ร้านซ่อมรถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเบรคครัท,ร้านขายกระเบื้องปูปื้นปูผนังสีทาบ้านภายในภายนอก,ร้านติดตั้งจานดาวเทียมดูฟรีบ่อมีรายเดือน,บริษัทจัดหางานไปทำงานต่างประเทศ, ขอคำแนะนำจิ่มครับ..ไหว้สาครับบ่อหนาน พรหมมา ขอบคุณครับ...หนานเอคนบ่าเก่า

สวัสดีครับ..หนานเอ..ครับ

เรื่องค่าวจ๊อยซะป๊ะอย่างขอหื้อหมู่เฮาไปเอาตั๋วอย่างค่างหงส์หิน หรือค่าวกำจ่มพญาพรหมมาเป๋นตั๋วอย่างแล้วลองแต่งหื้อมีก๋ารสัมผัสต๋ามที่เปิ้นมีอยู่.งลุงหนานกึ๊ดว่าคงแต่งได้ครับ..

มีหนังสือเรื่อง  "พระลอคำค่าว"  เป๋นตั๋วอย่างก๋ารแต่งค่าวอยู่ครับลองไปผ่อต๋ามฮ้านหนังสือก็ไดครับแล้วเขียนผังสัมผัสต๋ามตั๋วอย่างรับรองแต่งได้แน่ๆครับ..เอาใจ๋จ้วยครับ..

ตั๋วอย่าง..      "ขอแนะนำ  หมู่เฮาลูกค้า   ผู้ไจ๊ไฟฟ้าตึงหลวงตังหลาย

บ่ว่าญิงจายข้าจักกล่าวถ้อย     หื้อไจ๋ยี่ห้อ......เนอมันดีบ่หน้อยผู้ข้าขอแนะนำ

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้นขอหื้อจดจ๋ำยี่ห้อ......นั้นนำตึงดีบ่หน้อย    "

ตามตัวอย่างจะเห็นว่ามันไม่มีอะไรยากครับ....เพียงแต่เอาคำพูดมาวางให้ได้สัมผัสก็ใช้ได้แล้ว..

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

สวดสะดีครับบ่อลุงหนานพรหมมา ผมขอขอบคุณความเฆฆต๋ากรุณาที่ท่านนั้น ได้หื้อคำแนะนำครับ หนังสือตี่ว่านี้ตี่ลำปางบ่อมีขายครับ..บ่อลุงหนานบอจะแนะนำตี่เจียงใหม่ได้ก่อครับ บ่อหนานครับถ้าบ่อว่ากั๋นผมขอฮ้องบ่อลุงหนานว่า บ่อครูได้ก่อครับอิอิ..คือ (เลื่อมใสแต๊ๆครับ) ปี๋ใหม่เมืองเฮาก่อใกล้จะมาถึงแล้ว ตี่นี้บ้านผมเปิ้นก่อจะมีป๋าเวณีพื้นเมืองหลายอย่างครับ โดยเฉพาะป๋าเวณีแห่ไม้ก้ำศรีครับ บ่อครับผมจัดรายการวิทยุท้องถิ่นสืบฮีตตวยฮอยวัฒนธรรมท้องถิ่น จ๋ารีตป๋าเวณีล้านนา และเป๋นอาจารย์วัดตวยครับ

อายุของผม 33 ปีครับบ่อ ผมเผยแผ่งานค่าวของบ่อหนานหลายๆท่านครับ ได้ฮับการตอบรับของคนท้องถิ่นได้อย่างดี บ่อครับผมอยากฮื้อบ่อจ่วยแต่งค่าวฮื้อจาวลำปางไว้ซักบทครับ เป๋นคำขวัญของลำปางนั้นมีอยู่ว่า "ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ทั่วโลก"ครับ .. (ขอแห๋มน้อยครับสาวๆเซรามิคเปิ้นขอ) เพราะลำปางเป๋นเมืองเครื่องปั้นดินเผาเมืองเซรามิคครับและมีข้าวแต๋นตวย ขอบคุณครับบ่อครู ขอบคุณจ๋าดนัก ขอบคุณจ๋าดหลาย บ่อได้ขอบคุณบ่อดาย ซักวันจะไปดำหัวบ่อครูครับ รักษาสุขภาพตวยเน้อครับบ่อครู สวัสดีครับ หนานเอคนบ่เก่า เข้าบ่ต๋าน ..เขลางค์นคร

เมืองลำปาง  เขลางค์ชื่อนี้ลือเลื่องอั้นนานมา

ถ่านหินนั้นมีมากนักหนา  พระธาตุหลวงจาศักดิ์สิทธิ์บ่หน้อย

รถม้านั้นแถมพาแอ่วเตียวต้อย  ไปต๋ามสายหั้นเวียงวัง

เครื่องปั้นนั้นแล้งามดั่งมนต์ขลัง  ชื่อเสียงโด่งดัง  เฝิกจ๊างเนอเจ้า..เฝิกจ๊างเนอเจ้า..

-ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา

 

 

ม่วนแต๊ม่วนตั๊ก ม่วนนักม่วนหนา ค่าวบ่อหนานนีกา ผ่านฟ้าใหญ่กว้าง

ม่วนแต๊ๆ หนา ใจ้มาเอ่ยอ้าง อู้ไปพลางๆ เต้านั้น

ม่วนเต๋มหัวใจ๋ ทรวงในน้องจั๊น เกิ๋นอดใจ๋กลั้น เนอนาย

ฟังเต๊อะค่าวนี้ แม่จี๋บัวผาย ม่วนใจ๋ของจาย บ่อใจ่ว่าเล่น บ่อใจ่ว่าเล่น อิอิ...ได้เต่าเอี๊ยะครับบ่อหนาน

จะใดก็ขอบขอบคุณบ่อครูตวยเน้อครับแล้วผมจะบอกคนฟังว่าค่าวนี้ ของท่านบ่อครูเน้อครับ ขอบคุณครับ..

สรีสวาสดีคุณกตัญญู...ครับ..

หากว่าจะเป๋นของดีเมืองล้านนาก็เต๋มใจ๋หื้อหมู่เฮาเอาไปไจ๊เต๊อะครับ...หื้อของดีบ้านเฮาเผยแพร่ไปไจ้ๆ...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา

หนานเอคนบ่เก่าเข้าบ่ต๋าน

สวัสดีปี๋ใหม่ครับป้อหนาน สบายดีก่อครับคิดถึงครับ ฮักษาสุขภาพตวยเน้อครับ ผมอยากฮู้ว่าเปิ้นเฮียนซอกั๋นตี่ไหนครับ(ขึ้นครูตวยครับ)อยากเฮียนไว้ประดับผญ๋าครับอาจารย์ ขอขอบคุณครับ..หนานเอลำปาง

ไหว้สาครับท่านหนานเอ...

ที่เชียงใหม่เชิญไปที่บ้านคุณบุญศรี  รัตนัง อยู่บ้านหนองเต่าคำ ทางวันออก ม.แม่โจ้

อำเภอสันทรายเชียงใหม่ครับ...

มีท่านครูบุญศรี เป๋นครูสอนซอครับ...

ยินดีที่เข้ามาแว่อ่านครับ

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา

 

คุณพ่อ ผมว่าข้อมูลอาจจะมีการบ่อค่อยตรงกันสักเท่าไรกับที่ได้ร่ำเรียนมาเน้อเรื่องประวัติคร่าวจ๊อยดังนี้เน้อครับ

1. เนื้อหานั้นคล้ายกับการเสียชีวิตของขุนเจื๋อง ทั้งนางอุทุมประกาย เมืองแมนตาท๊อก และบริบทหลายอย่าง

2. เมืองแมนตาท๊อก เท่าที่เคยเหนหลายชื่อมากๆเช่น แก๋วแมนต๋าท๊อกขอกฟ้าตายืน  เป๋นต้น ส่วนคำว่าแก๋วนั้นคนเมืองไว้เรียกพวกเวียดนาม อาจจะเป๋นเมืองใดเมืองหนึ่งในเวียดนาม หรือ เมืองใดเมืองหนึ่งในกัมพูชา แถวๆ อ่าวตังเกี๋ยก้อเป๋นไปได้

3. ส่วนเรื่องการจ๊อย หรือคร่าว มีที่มาจากธรรมเนียมลัวะนั้นยังบ่าเคยได้ยินจากที่ไหนบันทึกไหนเลยพึ่งได้ยินจากคุณพ่อเนี่ยนะคับพระบ่าได้ปรากฎว่าพวกลัวะได้ใช้เครื่องดนตรีเช่น ซึง สะล้อ หรือแม้แต่ ปี่ ในการจ๊อย หรือคร่าวเลย หากแต่ว่า จะนับว่ามาจากสิบสองปันนายังจะพอทำเนามากกว่า แต่ก้อคงเป็นไปบ่าได้เพราะว่าคงจะมีวัฒนธรรมที่ร่วมกันมากกว่า เพราะว่าทางสิบสองปันนาก้อมีขับลื้อ ซึ่งก้อใช้ ปี่ ในการขับเหมือนกันนะครับ


จะใดผมก้อขอสุมมาอภัยคุณพ่อไว้ ณ ที่นี้ด้วยเน้อครับ คือว่าผมมีความเห็นที่แตกต่างออกไปกับคุณพ่อ เพื่อเป็นการเพิ่มแนวคิดใหม่ๆ ในการประมวลผลความรู้ ถูกผิดประการใดก้อขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยเน้อ


หมอตุ้ยเมืองลำปาง


ตอบหมอตุ้ยครับ...ยินดีนักๆครับเข้ามาแลกเปลี่ยนถูกต้องครับเฮาจะได้มีความฮู้นักขึ้นครับ....ประวัติศาสตร์ ตำนาน  มันมีหลายฉบับครับเฮาจะว่าคนนั้นถูกหรือผิดโดยเฉพาะตำนานเป็นเรื่องเล่า มีอภินิหาริย์เพิ่มเติมบางครั้งแยกบ่าออกว่าอันใดแต๊หรือเทียม  ฟังไปเล่าไปครับลูกหลานได้ฟังก็ดีแล้วส่วนที่จะพิสูจน์ฮื้อนักวิชาการดีกว่าครับ  เอามาบันทึกไว้เผื่อคนอื่นมีหลายแนวจะได้แลกเปลี่ยนครับ....ยินดีครับ...ผมไปสิบสองปันนาศึกษาเรื่องวิถีลื้อ ก็ได้บางสิ่งบางอย่างครับ  หลายๆอย่างก็คล้ายเฮาครับ....

ไขได้จ๊อยหลักธรรมกำสอนพ่องแน่ลุง

มีก่อถ้ามีแต่งหื้อจิ่มก่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท