กว่าจะถึงวันนี้ของ ; ระบบการขนส่งมวลชนในสยามประเทศ

 

สยามประเทศ หรือ ประเทศไทย ของเราในยุคสมัยก่อนการเดินทางติดต่อ ไปมาหาสู่กันของผู้คนพลเมือง นั้นสุดแสนจะลำบาก  ด้วยการที่ประเทศของเราเป็นเมืองเกษตรกรรม ถนนหนทาง ไม่สะดวก สบายดังเช่นทุกวันนี้  การเดินทางไกลๆ มักใช้เรือ หรือการล่องแพเป็นการเดินทางหรือขนส่งทางน้ำ เสียเป็นส่วนใหญ่

    แต่ว่าวิวัฒนาการของระบบ การขนส่งมวลชนทางบก ในประเทศไทย จึงได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตามยุคสมัยมาจนถึงทุกวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันเลยนะครับว่ามีอะไรบ้าง

เกวียน (Cart)

    เป็นพาะนะชนิดล้อเลื่อนอายุเก่าแก่ที่สุดในโลก  มีหลักฐานว่าถือกำเนิดมานานตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ในแถบทวีปเอเซีย

    สำหรับประเทศไทย ได้ใช้เกวียนเพื่อรับส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้ามาเป็นเวลาช้านาน  ซึ่งไม่ปรากฎหลักฐานว่า เกวียนเริ่มเกิดขึ้นในสมัยใด

รถลาก  (Drawn)

    พระยาโชถึกราชเศรษฐี (พุก) ได้นำรถลากคันแรกจากเมืองซัวเถา  ประเทศจีน  เข้ามาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับประทับให้มหาดเล็กลากประพาสเล่นในวังหลวง และเป็นที่นิยมแพร่หลาย  ในเวลาต่อมามีผู้สั่งรถลากจากประเทศจีนเข้ามาขายและใช้เป็นรถรับจ้าง

รถม้า (Carriage)

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญของการคมนาคมทางบก จึงทรงพระกรุณาโปรกเกล้าฯ ให้สร้างถนนขึ้นในพระนครหลวงหลายสาย อาทิเช่น เจริญกรุง  บำรุงเมือง  เฟื่องนคร  ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมัยแรกที่มีรถม้าในเมืองไทย  และเป็นที่นิยมกันมาก  โดยนำมาทำเป็นรถม้าส่วนตัวและรถรับจ้าง  ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รถยนต์  (Car)

    รถยนต์ได้เข้ามาเมืองไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  โดยพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม  แสงชูโต) ได้นำรถยนต์เข้ามาเมืองไทยเป็นคันแรก จากนั้นจึงได้มีการหันมาใช้รถยนต์แทนรถม้า และรถลากที่มีอยู่แล้ว

รถโดยสารประจำทาง (Bus)

    รถโดยสารประจำทางหรือรถเมล์  ได้ริเริ่มขึ้นโดย พระยาภักดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ได้จัดตั้งบริษัท นายเลิศ จำกัด  เพื่อดำเนินกิจการรถเมล์  ซึ่งรถเมล์สานแรกวิ่งจากประตูน้ำไปสี่พระยา  และขยายเส้นทางออกไปอีกหลายสายเกือบทั่วกรุงเทพฯ   คนทั่วไปเรียกรถเมล์นี้ว่า"รถเมล์ขาว"

รถราง (Tram)

    รถรางเริ่มมีใช้ในกรุงเทพมหานคร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยรถรางสายแรกที่ใช้ม้าลากออกวิ่งรับส่งผู้โดยสารเป็นปฐมฤกษ์  เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๓๐ ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๓๗  ได้เปลี่ยนจากการใช้ม้าลากมาเป็นรถรางที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน

รถไฟ  (Train)

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปิดเดินรถไฟสายแรกคือ กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ หรือที่เรียกกันว่า รถไฟสายปากน้ำ ที่ปากน้ำสมุทรปราการ  ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้บริษัทเอกชนเดนมาร์ก เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๓๔ นับเป็นการเดินรถไฟครั้งในเมืองไทย เมื่อ ๑๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๓๖  และได้ยกเลิกในเวลาต่อมา

ขอขอบคุณ

ส่วนนิทรรศการถาวร รถไฟฟ้ามหานคร สถานีหัวลำโพง ..ภาพและข้อมูล   

 

[ครูเสือ แซ่เฮ]

สวัสดีตอนเช้าครับพ่อดอง

ในรู้คือไม่รู้ ขอบคุณครับ

[สะ-มะ-นึก]

สวัสดีครับ ครูเสือ

• ภาษาปรัชญา นี่ ทำผม งง..งง  อีกแล้วครับ
• เขียนไว้ให้นักเรียนมาลอกทำการบ้านครับ..ฮ่าๆๆ
• ยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ เน็ท.ช้ามากๆ เมื่อเช้านี้
• ได้รายละเอียดเรื่องจะไปเวียตนามช่วยแจ้งมาด้วยครับ อาจจะมีสมาชิกเพิ่มอีก 7-8 คน

ขอบคุณครับ

 

[ขจิต ฝอยทอง]

• วันนี้ internet
• ผมก็ช้ามากๆๆ
• วัยรุ่นเซ็งเลยครับ
• รู้แบบนี้ไปรถไฟดีกว่า
• ได้ดูเส้นทางด้วย
• ท่าทางสนุกดี
• อิอิอิๆๆ

[สะ-มะ-นึก]

สวัสดีครับ น้องขจิต

• ถ้าไม่รีบด่วน พ่อครูบาฯบอกว่าชอบเดินทางโดยรถไฟ ไม่ต้องเสียค่าโรงแรม ประหยัดไปอีกรูปแบบ  ..เขาเรียกว่าการเดินทางแบบพอเพียง ไม่เหงา  มีเพื่อนคุย  ทำงานได้  ที่สำคัญคือประหยัด  ปลอดภัย  ครับ
• หากจะใช้บริการรถไฟไทยก็บอกมานะครับ
• คนรถไฟ...ยินดีรับใช้บริการ

ขอบคุณครับ

 

[พี่องุ่นคนสวย]

เรียนท่านพ่อดองมีเรื่องข้องใจ  ที่นี่ค่ะ

[สะ-มะ-นึก]

สวัสดีครับ แม่ดอง  พี่องุ่นคนสวย

• เข้าไปตอบแล้วครับ
• เครื่องปรุงขอเลยช่วงเทศกาลกินเจก่อนนะครับ
• แต่ผมอยากอุดหนุนสินค้าที่มีอยู่ในชุมชุนท้องถิ่น
• มีอะไรเหมาแม่ค้ามาทำกินกันเลย
• เอาง่ายๆ แต่ให้อร่อยๆ ครับ
• บอกท่านบางทรายว่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ขอให้เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก็แล้วกันครับ

ขอบคุณครับ

[สะ-มะ-นึก]

• นำภาพรถลาก  บริเวณหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง มาให้ชมเพิ่มเติมครับ
•