พระเจ้าอโศกมหาราช มาเอาพระบรมสารีริกธาตุ (7)


 

พระเจ้าอโศกมหาราช มาเอาพระบรมสารีริกธาตุ

ต่อมาภายหลัง  เมื่อครั้งอโศกกุมารเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระธรรมราชาพระนามว่าอโศก  ทรงรับพระบรมธาตุเหล่านั้นไว้แล้ว  ได้ทรงกระทำให้แพร่หลาย.  ทรงกระทำให้แพร่หลายอย่างไร ?  พระเจ้าอโศกนั้น  อาศัยนิโครธสามเณร ทรงได้ความเลื่อมใสในพระศาสนา โปรดให้สร้างวิหาร ๘๔,๐๐๐วิหารแล้ว  ตรัสถามภิกษุสงฆ์ว่า โยมให้สร้างวิหาร  ๘๔,๐๐๐  วิหารแล้ว  จักได้พระบรมธาตุมาจากไหนเล่า  ท่านเจ้าข้า.

ภิกษุสงฆ์ทูลว่า  ถวายพระพร พวกอาตมภาพฟังมาว่า ชื่อว่าที่เก็บพระบรมธาตุมีอยู่  แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน.

พระราชาให้รื้อพระเจดีย์ในกรุงราชคฤห์  ก็ไม่พบ  ทรงให้ทำพระเจดีย์คืนดีอย่างเดิมแล้ว  ทรงพาบริษัท๔ คือ  ภิกษุ  ภิกษุณี  อุบาสก  อุบาสิกา  ไปยังกรุงเวสาลี  แม้ในที่นั้นก็ไม่ได้  ก็ไปยังกรุงกบิลพัศดุ์ แม้ในที่นั้นก็ไม่ได้ แล้วไปยังรามคาม

เหล่านาคในรามคาม  ก็ไม่ยอมให้รื้อพระเจดีย์.  จอบที่ตกต้องพระเจดีย์  ก็หักเป็นท่อนเล็กท่อนน้อย.  ด้วยอาการอย่างนี้  แม้ในที่นั้นก็ไม่ได้  ก็ไปยังเมืองอัลลกัปปะเวฏฐทีปะ  ปาวา  กุสินารา  ในที่ทุกแห่งดั่งกล่าวมานี้  รื้อพระเจดีย์แล้วก็ไม่ได้พระบรมธาตุเลย  ครั้นทำเจดีย์เหล่านั้นให้คืนดีดั่งเดิมแล้ว  ก็กลับไปยังกรุงราชคฤห์อีก  ทรงประชุมบริษัท ๔  แล้วตรัสถามว่า ใครเคยได้ยินว่า  ที่เก็บพระบรมธาตุ ในที่ชื่อโน้น มีบ้างไหม.

ในที่ประชุมนั้น พระเถระรูปหนึ่งอายุ ๑๒๐ ปี  กล่าวว่า  อาตมาภาพก็ไม่รู้ว่า ที่เก็บพระบรมธาตุอยู่ที่โน้น  แต่พระมหาเถระบิดาอาตมภาพ  ให้อาตมภาพครั้งอายุ  ๗ขวบ ถือหีบมาลัย  กล่าวว่า  มานี่  สามเณร ระหว่างกอไม้ตรงโน้น มีสถูปหินอยู่ เราไปกันที่นั้นเถิด  แล้วไปบูชา  ท่านพูดว่า  สามเณร  ควรพิจารณาที่ตรงนี้. ถวายพระพร  อาตมภาพรู้เท่านี้

พระราชาตรัสว่า  ที่นั่นแหละ  แล้วสั่งให้ตัดกอไม้  แล้วนำสถูปหินและฝุ่นออก  ก็ทรงเห็นพื้นโบกปูนอยู่ แต่นั้นทรงทำลายปูนโบกและแผ่นอิฐแล้วเสด็จสู่บริเวณตามลำดับ  ทอดพระเนตรเห็นทรายรัตนะ ๗ประการ  และรูปไม้(หุ่นยนต์)ถือดาบ  เดินวนเวียนอยู่  ท้าวเธอรับสั่งให้เหล่าคนผู้ถือผีมา  แม้ให้ทำการเส้นสวงแล้ว  ก็ไม่เห็นที่สุดโต่งสุดยอดเลย จึงทรงนมัสการเทวดาทั้งหลายแล้วตรัสว่า  ข้าพเจ้ารับพระบรมธาตุเหล่านี้แล้วบรรจุไว้ในวิหาร  ๘๔,๐๐๐วิหาร  จะทำสักการะ ขอเทวดาอย่าทำอันตรายแก่ข้าพเจ้าเลย.

ท้าวสักกะเทวราช  เสด็จจาริกไปทรงเห็นพระเจ้าอโศกนั้นแล้ว  เรียกวิสสุกรรมเทพบุตรมาสั่งว่า  พ่อเอ๋ย  พระธรรมราชาอโศก  จักทรงนำพระบรมธาตุไป  เพราะฉะนั้น เจ้าจงลงสู่บริเวณไปทำลายรูปไม้(หุ่นยนต์)เสีย

วิสสุกรรมเทพบุตรนั้น  ก็แปลงเพศเป็นเด็กชาวบ้านไว้จุก ๕แหยม  ยืนถือธนูตรงพระพักตร์ของพระราชาแล้ว  ทูลว่า ข้าจะนำไป มหาราชเจ้า.  พระราชาตรัสว่า นำไปสิพ่อ.

วิสสุกรรมเทพบุตรจับศรยิงตรงที่ผูกหุ่นยนต์นั้นแล  ทำให้ทุกอย่างกระจัดกระจายไป.  ครั้งนั้น พระราชาทรงถือตรากุญแจที่ติดอยู่ที่เชือกผูก ทอดพระเนตรเห็นแท่งแก้วมณีและเห็นอักษรจารึกว่า ในอนาคตกาล เจ้าแผ่นดินที่ยากจนถือเอาแก้วมณีแท่งนี้แล้ว  จงทำสักการะพระบรมธาตุทั้งหลาย. ทรงกริ้วว่า  ไม่ควรพูดหมิ่นพระราชาเช่นเราว่า เจ้าแผ่นดินยากจน ดังนี้ แล้วทรงเคาะซ้ำๆ กันให้เปิดประตู  เสด็จเข้าไปภายในเรือน

ประทีปที่ตามไว้  เมื่อ๒๑๘ ปี  ก็โพลงอยู่อย่างนั้นนั่นเอง  ดอกบัวขาบก็เหมือนนำมาวางไว้ขณะนั้นเอง  เครื่องลาดดอกไม้ก็เหมือนลาดไว้ขณะนั้นเอง  เครื่องหอมก็เหมือนเขาบดวางไว้เมื่อครู่นี้เอง.  พระราชาทรงถือแผ่นทอง  ทรงอ่านว่า  ต่อไปในอนาคตกาล  ครั้งกุมารพระนามว่า  อโศก  จักเถลิงถวัลยราชสมบัติ  เป็นพระธรรมราชาพระนามว่า  อโศก ท้าวเธอจักทรงกระทำพระบรมธาตุเหล่านี้ให้แพร่หลาย

ดังนี้แล้วตรัสว่า  ท่านผู้เจริญ  พระผู้เป็นเจ้ามหากัสสปเถระเห็นตัวเราแล้ว ทรงคู้พระหัตถ์ซ้ายปรบกับพระหัตถ์ขวา.  
ท้าวเธอเว้นเพียงพระบรมธาตุที่ปกปิดไว้ในที่นั้น  ทรงนำพระบรมธาตุที่เหลือทั้งหมดมาแล้ว  ปิดเรือนพระบรมธาตุไว้เหมือนอย่างเดิม  ทรงทำที่ทุกแห่งเป็นปกติอย่างเก่าแล้ว  โปรดให้ประดิษฐานปาสาณเจดีย์ไว้ข้างบน  
พระเจ้าอโศกบรรจุพระบรมธาตุไว้ในวิหาร ๘๔,๐๐๐วิหาร. ทรงไหว้พระมหาเถระแล้ว  ตรัสถามว่า  ท่านเจ้าข้า  โยมเป็นทายาทในพระพุทธศาสนาได้หรือยัง ?

พระมหาเถระทูลว่า  ถวายพระพร  มหาบพิตรยังเป็นคนภายนอกของพระศาสนา จะเป็นทายาทของอะไรเล่า.  ตรัสถามว่า ก็โยมบริจาคทรัพย์ถึง ๙๖โกฏิ  ให้สร้างวิหารไว้ถึง ๘๔,๐๐๐วิหาร  ยังไม่เป็นทายาท คนอื่นใครเล่าจะเป็นทายาท.

พูดว่า  ขอถวายพระพร  มหาบพิตร  ได้ชื่อว่าเป็น ปัจจยทายก  ก็ผู้ใดบวชบุตรหรือธิดาของตน  ผู้นี้จึงจะชื่อว่า  เป็นทายาทของพระศาสนา.  ท้าวเธอจึงให้บวชพระโอรสและพระธิดา.  ครั้งนั้น  พระเถระทั้งหลายทูลพระองค์ว่า  ขอถวายพระพร  บัดนี้  มหาบพิตรเป็นทายาทในพระศาสนาแล้ว.

บทว่า  เอวเมตํ  ภูตปุพฺพํ  ความว่า  แม้การเก็บพระบรมธาตุในอดีตกาลนี้  เคยมีมาแล้วในภาคพื้นชมพูทวีป  ด้วยประการฉะนี้.  แม้การกสงฆ์ผู้ทำสังคายนาครั้งที่ ๓  ก็วางบทนี้ไว้.  ก็คาถาเป็นต้นว่า  อฎฺโทณํ  จกฺขุมโต สรีรํ  เป็นต้นนี้  พระเถระชาวสีหลทวีป  กล่าวไว้แล้วแล.
 
 

 

หมายเลขบันทึก: 137927เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2007 21:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012 23:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • น้องมนต์...
  • คิดถึงนะคะ
  • เมื่อไหร่เราจะเดินสวนกันบ้างคะเนี่ย
  • มาอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง
  • วันที่ 18 ต.ค. พี่ก็จะเข้าไปมน.ค่ะ  ทางมน.นัดเจอ   ถ้าเห็นพี่ก็ทักทายบ้างนะคะ

สวัสดีค่ะ พี่ลูกหว้า

คิดถึงเช่นเดียวกันค่ะ ...

ช่วงเดือนที่แล้ว  มนต์ก็ไปทำบุญ ตักบาตรที่วัดใหญ่บ่อยๆ   ก็นึกถึงพี่ลูกหว้า  จำได้ว่า พี่ลูกหว้าเคยบอกว่ามีบ้านอยู่ใกล้วัดใหญ่ค่ะ

:)

เป็นสิ่งที่อ่านแล้วก็มีประโยชน์คะ และหาอ่านได้ยากคะ

ถ้าอยากเจอพระราชาผู้ยากจนมาที่นวมินทร์88เข้าซ.มา100เมตร44/285ท่านมาเกิดกับสายเลือดของท่านเป็นลูกหลานผู้มาเผยแพร่ศาสนาเมื่อครั้ง2,300ปีก่อน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท