เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่ผ่านมาผมและทีมงานจิตอาสาได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือน กลุ่มแม่บ้านดอกไม้ประดิษฐ์จากผ้าใยบัว ตำบลหัวรอ ซึ่งมีพี่แอ๊ดหรือพี่ประจวบเป็นผู้นำกลุ่ม สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้เกษียณอายุ เป็นครูบ้าง เป็นข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆบ้าง เป็นแม่บ้านที่มารวมกลุ่มเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์บ้าง ส่วนพี่แอ๊ด(บางทีผมก็เรียก ป้าจวบ) รู้จักกันมานานแล้วครับ พี่แอ๊ดเคยเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ กลุ่มงานรังสี โรงพยาบาลพุทธชินราช ปัจจุบันเกษียณแล้วเช่นกัน ถ้าใครได้เห็นผลงานกลุ่มแม่บ้านของพี่แอ๊ด คงรู้สึกเหมือนผมว่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ที่ทำจากฝีมือมนุษย์
ลองคิดดูนะครับว่า คนที่สามารถทำงานเช่นนี้ได้ ต้องมีจิตใจอ่อนโยน สมาธิต้องดีและก็มีความอดทนสูง แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ สมาชิกกลุ่มแม่บ้านนี้ทั้งกลุ่มมีใจเอื้ออารีมาก ผมคุยกับพี่แอ๊ดถึงเรื่องที่ว่าผมอยากให้มีการถ่ายทอดสิ่งดีๆเหล่านี้ให้สมาชิกจิตอาสา 4 ตำบล (หัวรอ พลายชุมพล ปากโทก มะขามสูง ) เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน พี่แอ๊ดและพี่ๆสมาชิกกลุ่มแม่บ้าน ตอบรับด้วยความยินดีทันทีเลยครับ บอกว่าจะมาเรียนที่กลุ่มแม่บ้านหัวรอ หรือว่าจะให้สอนที่ไหนก็ได้ ไม่คิดค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น ผมประทับใจในความเอื้ออารีของพี่ๆกลุ่มนี้เป็นอย่างยิ่งครับ ผมเคยคิดเสมอว่า โลกนี้ไม่เคยขาดความเมตตาอารี กลุ่มแม่บ้านดอกไม้ประดิษฐ์จากผ้าใยบัว ตำบลหัวรอ พิสูจน์ให้เห็นว่าที่ผมคิดนั้นเป็นความจริง พี่แอ๊ดเสนอว่า เราควรจะเริ่มจากสิ่งง่ายๆก่อน เพื่อให้มีกำลังใจ เช่น การทำการบูนเป็นรูปสัตว์ ผลไม้ต่างๆ สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้แขวนในตู้เสื้อผ้าหรือในรถ ซึ่งผมก็เห็นด้วย จึงเริ่มกำหนดนัดหมายกันครับ ว่าเพื่อความสะดวกใช้ห้องประชุมของกลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลพุทธชินราช น่าจะเหมาะที่สุด กำหนดวันกันเป็นวันที่ 8 ตค นี่เลยครับ เรียกว่า "วันการบูนจิตอาสา" ก็แล้วกันนะครับ
นี่เป็นตัวอย่างที่ทีมพี่แอ๊ดทำมาให้ชมกัน
สาวเสื้อฟ้าคือ พี่แอ๊ด ครับกำลังสอนสมาชิกจิตอาสาทำการบูน
พี่คนนี้ก็อาสามาสอนร่วมกับพี่แอ๊ด สอนไปคุยไปใจดีมากๆครับ
สามสาวสมาชิกจิตอาสาตัวน้อย มาเรียนด้วย ถ้าได้เลียนแบบ ป้าๆในความอารี คงจะดีไม่น้อย
สมาชิกจิตอาสาทั้ง 4 ตำบลที่มาในวันนั้น หัดทำการบูนกันจนเลยเที่ยงไปแล้วยังไม่อยากจะเลิกกันเลยครับ ทุกคนประทับใจกับกลุ่มแม่บ้านตำบลหัวรอ ที่มาถ่ายทอดความรู้ด้วยน้ำใจจริงๆ ผมรู้สึกถึงบรรยากาศของความดีงามที่อบอวลด้วยกลิ่นการบูน ขอบคุณพี่แอ๊ดและสมาชิกกลุ่มแม่บ้าน ดอกไม้ประดิษฐ์จากผ้าใยบัว ตำบลหัวรอ ที่ทำให้ผมรู้ว่าการบูนที่เต็มไปด้วยน้ำใจนั้นหอมมากอย่างไร
อาจารย์นิพัธขา..ดอกไม้ประดิษฐ์เป็นกิจกรรมที่นู๋รัตน์โปรดปรานและชอบมากๆเลย..ทำงัยจะได้ไปเรียน(ฟรี)มั่งคะ..เสียดายสุดๆเลยนะเนี่ย
คุณหมอนิพัท
มาแพร่เมื่อ 11ต.ค น่าจำนำมาเผยแพร่และแถมเรื่องเล่าจิตอาสาด้วยะ
วันนั้นโอกาสดีมากเลยได้ถ่ายรูปกับทีมคุณหมอ เพราะเคยได้ยอินแต่ชื่อ แต่ยังไม่ได้สัมผ้สตัวจริงเสียงจริง
รพ.หนองม่วงไข่
"น้ำเอย น้ำใจ"
ไม่มีใครคนใด หัวใจดวงใด ไม่มีความหมาย
ต่างมุ่งหมายตามสายทางเดิน
คนเอ๋ย คนเอ๋ยคน ต่างก็รู้อยู่
ใจของใครก็รู้ รู้ใจ ไม่แตกต่างกัน
จะมีใครคนใด หรือใจดวงใด อยากพ่ายอยากแพ้
ใครอยากอ่อนแอเรื่องราว
ใครต่างคนต่างใคร ก็ต่างมุ่งหมายมั่น
คนเหมือนกันแหละหนาฟ้าดิน....ดิ้นรนหาความ
น้ำเอย น้ำใจ...ของใครให้มา
เหมือนการพึ่งพา...ภาษาความเข้าใจ
มันก็เป็นเช่นนั้นนะเออ ฉันเธอต่างมุ่งตามสาย
สิ่งที่วายร้ายมุ่งหมายว่าดี....
เพียงแค่ความเข้าใจ ก็แบ่งกันไว้มั่ง
เป็นเช่นดังของขวัญให้กัน....โลกอันโสภา
ก็ใช่ว่าใครไม่มีจิตใจ ก็ใช่ว่าใครอยากไร้คุณค่า
ก็ใช่ว่าใครอยากเสียน้ำตา..นะเอย
ชื่นชมทีมจิตอาสานะคะที่สามารถรวมตัวกันได้เป็นอย่างดี