คุยเรื่อง "ไฟตับร้อน" และ "จตุผลาธิกะ" กับ อาจารย์หมอวีรพัฒน์
เก็บไว้ไม่ไหวจริงๆ อาการเจ็บซี่โครงด้านขวาเป็นมาหลายสัปดาห์เหลือเกิน นั่งนิดหน่อย เดินนิดหน่อย ก็ปวดร้าวเอามาก แต่ก็ต้องฝืนทน โดยเฉพาะว่าต้องฝืนไปเดินออกกำลังกายช่วงเย็น เดินไปทั้งๆ ที่เจ็บ ก็คิดว่าอยากจะทน เผื่อจะได้คลอดง่ายๆ หน่อย
หลายๆ คนบอกว่า น่าจะเป็นที่ท้องใหญ่ไม่สมขนาดตัวทำให้กล้ามเนื้อหลังด้านขวามีอาการปวดก็เลยร้าวไปที่ซี่โครง บางคนก็บอกว่าลูกตัวยาวมีที่น้อยก็เลยไปยันเอาซี่โครง
โดยตั้งสมมุติฐานไว้ว่า น่าจะเป็นเพราะกล้ามเนื้อ ดิฉันพยายามหาวิธีการหลายวิธีที่จะบรรเทาอาการปวดซี่โครงด้านขวา ออกกำลังกายหลัง ใช้ยานวดทาถู นั่งและยืนให้หลังตรงไม่แอ่น ก็ยังไม่สามารถบรรเทาลงได้
 |
อาจารย์หมอวีรพัฒน์ เงาธรรมทัศน์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ เจ้าของบล็อก http://Thai.GotoKnow.org แพทย์แผนปัจจุบันที่หันมาให้ความสำคัญกับตำรับยาภูมิปัญญาโบราณของไทย ก็เข้ามาแนะนำดิฉันว่า อาจะเป็นเรื่องของ "ไฟตับร้อน" ดิฉันก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ สงสัยอย่างยิ่งว่าคืออะไร แล้ว อ.หมอวีรพัฒน์ ก็เป็น blogger ท่านที่สองต่อจาก พี่โอ๋-อโณ ที่มาเยี่ยมห้องปฏิบัติการของ UsableLabs อาจารย์ให้ความกรุณามาให้คำปรึกษาเรื่องอาการ "ไฟตับร้อน" แก่ดิฉันโดยเฉพาะค่ะ ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่งค่ะ |
อาจารย์มาพร้อมกับกระเป๋าผ้าใบไม่ใหญ่นักที่บรรจุตำราแพทย์แผนไทย "ปฐมจินดา" และตำรายาอื่นอีกสองสามเล่ม แต่ใส่เนคไทเต็มยศ เท่ห์ชะมัด แต่อาจารย์รีบออกตัวก่อนว่า วันนี้ผมบังเอิญต้องมาสอบดุษฎีนิพนธ์ของ นศ. ป. เอก ก็เลยต้องใส่เต็มยศกันหน่อย
อาจารย์แนะนำให้ดิฉันรู้จักกับตำรับยา "จตุผลาธิกะ" ที่เกี่ยวข้องกับอาการ "ไฟตับร้อน" ของคนธาตุร้อนอย่างดิฉันที่เกิดเดือนมีนาคม
|
|
อาจารย์ถามถึงอาหารการกิน และให้ดิฉันพยายามงดอาหารเผ็ดและเปรี้ยวลง งดการกินถั่วลิสงอบหรือพวกถั่วอบซึ่งดิฉันชอบมาก ให้ทานน้ำมะพร้าวหนึ่งลูกช่วงเที่ยงหรือบ่ายเพื่อให้ร่างกายเย็นลง และให้ทาน มะขามป้อม เพื่อช่วยเรื่อง "ไฟตับร้อน" โดยเฉพาะ อาจารย์ยืนยันถึง case หลายต่อหลาย case ที่มีอาการปวดอย่างดิฉันและสามารถหายได้ด้วย มะขามป้อม หรือไม่ก็ "จตุผลาธิกะ" |
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ดิฉัน อ.ธวัชชัย และ อ.หมอวีรพัฒน์ คุยกันสนุกสนานมากค่ะ ได้ความรู้ดีๆ จากท่านเยอะ และได้ถ่ายรูป อ.หมอวีรพัฒน์ มาลงบล็อก http://Thai.GotoKnow.org ให้ท่านด้วยค่ะ แหม! อ.ขอเอาเนคไทออกก่อนถ่ายรูป กลัวหล่อกว่าตัวจริง ฮา ฮา
โปรดติดตามตอนต่อไป ...
ความเห็น (13)
- แวะมาเยี่ยมอาจารย์คะ
- มี"จตุผลาธิกะ" มาแนะนำคะมีขายตามร้านที่ขายสมุนไพรทั่วไปนะคะ
- เคยทานของกลุ่มสันติอโศกผลิตคะ...ตอนนี้หมดพอดี..อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วนึกได้ต้องไปซื้อมาติดไว้ในบ้านแล้วคะ
- ข้างล่างเป็นตัวอย่างจากเว็บไทยตำบลคะ
- มีสรรพคุณให้อ่านเพิ่มด้วยคะ
-
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
สรรพคุณ ล้างพิษ ขับเมือกมันในลำไส้ ขับเสมหะ แก้ท้องผูก ทำให้ผิวพรรณสดใส ทานครั้งละ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ(OTOP)
วัตถุดิบที่ใช้
สมอไทย สมอเทศ สมอภิเพก มะขามป้อม
วีรพัฒน์ รพ หาดใหญ่
อาจารย์ จัน
น่าจะรอให้ หายได้จริง ค่อยเล่า พอพาดพิงถึงผม เลยต้องช่วยลุ้นว่า ทุเลาน่ะ ๆๆ หมอจะได้ ไม่หน้าแตก..ที่ตั้งสมมุติฐานโรค ประหลาดๆ
คราวนี้ เวลาหายทุเลา จากเจ็บจุกชายโครง บ้าง ก็ไม่รู้ว่า เพราะเกรงใจหมอ กลัวหมอเสียหน้า หรือเปล่า ฮ่า.......
เรื่องปรับธาตุร้อน ต้นตำรับแท้ ๆ อย่างง่าย คือ ตรีผลา ปรับธาตุ ( ปิตตะ ) ในฤดูร้อน ซึ่งตรีผลา หาได้ยาก กว่า ที่มีขายในท้องตลาด ก็เป็นพานิชย์เกิน ราคาแพง
ตรีผลา ( สามผล ) คือ มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก
ส่วน จตุผลา( ธิกะ ) สี่ผล ก็เพิ่ม สมอเทศ ไปจากตรีผลา
และจตุผลาธิกะ หาได้ง่ายกว่า ราคาก็ถูกกว่า จึงหยิบใช้ แนะนำผู้ป่วยไปก่อน
ล่าสุด ตำรับยาตระกูลนี้ มีการศึกษา ยืนยัน ผลการบำรุงรักษา(หนู) ตับอักเสบ ชัดเจน ได้ ให้ฟื้นตัวได้เร็ว
ในวงการแพทย์แผนตะวันตก ของไทย เท่าที่ผมทราบ มีการใช้ยาสกัดจากสมุนไพรฝรั่ง เรียก silimarin เม็ดละ เกือบ 10 บาท ทานวันละ 3 เม็ด
น่าปวดใจ ตรงที่ ยาไทยดี แต่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญโรคตับ ช่วยขุดค้น นำไปใช้
ส่วนหนึ่งก็คือ ไม่ถูกพัฒนาเป็น อุตสาหกรรมยา ให้หมอเชื่อถือ ไม่มีบริษัท มาเชิญชวนให้แพทย์ทำวิจัย ไม่เหมือน บริษัทฝรั่ง มีแผนกชวนแพทย์ทำวิจัย ชัดเจน
ข้อมูลผลดีของยาในคน จากการวิจัยที่มาตรฐานสูงจึงไม่มี ให้อ้างอิง
ต่อไปนี้เวลาแพทย์บอก ว่า ตับอักเสบ ไม่มียา ค่อยๆ หายได้เอง อย่าเชื่อน่ะครับ ลองถาม หมอ google ดูก่อน
ตอนนี้ สภาพสังคม อาการการกิน ไขมันมาก ก็เสี่ยง ปัญหา ปิตตะ กำเริบ เกิน
สภาพอากาศ มักจะร้อนกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เพิ่ม ปิตตะ อีก
ยิ่งปี สองปี ข้างหน้า เข้าวัฏจักร ธาตุไฟ ในจักรวาล ยิ่งน่าเป็นห่วง
แต่หากใช้ยาไทยเป็น ก็ใช้แบบหมุนเวียน ก็ได้ จะได้ไม่ต้องกังวลว่า จะเกิดพิษ จากยาไทยที่เกินขนาด ซึ่งมีโอกาสเกิดได้ น้อยมากมาก หากใช้พอประมาณ และรู้จักหยุดใช้
ขอบคุณ คุณ naree suwan ค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง จตุผลาธิกะ
ขอบคุณอาจารย์หมอวีรพัฒน์ค่ะ
บันทึกนี้เขียนแนะนำบล็อกของอาจารย์ก่อนค่ะ ความรู้ภูมิปัญญาไทยดีๆ ทั้งนั้น ไม่อยากให้ชาว GotoKnow พลาดไปค่ะ :)
ส่วนดิฉันเองกะว่าจะหามะขามป้อมสดมาทานค่ะ ปกติเป็นคนชอบทานผักพื้นบ้านอยู่แล้วค่ะ มะขามป้อมนอกจากจะได้วิตะมินซีสูงกว่าส้มถืง 20 เท่าแล้ว ยังช่วยเรื่องอาการทางตับ อย่างที่อาจารย์บอกไว้ด้วย น่าลองค่ะ
อากาศ ฟ้าฝน อำนวย เป็นใจ ช่วยให้หายร้อน คงทุเลาจากเจ็บชายโครง ได้สนิท ใน 2 สัปดาห์ เป็นอย่างช้า
ยิ่งหากเลือกนอน ทางห้องฝาก ตะวันออก ซึ่งไม่ร้อนเหมือนฝาก ตะวันตก ก็ได้เปรียบ ในแง่ของธาตุ
มะขามป้อม มีต้นใหญ่ อยู่ หนึ่งต้น ในเขาหลังห้อง ทางไปสนามเทนนิส ผลยังเล็กอยู่ แต่เต็มต้นมากเลย
จากการทาน ถั่วกรอบ เรื่อยๆ ทางการแพทย์ตะวันตก ก็ว่าเสี่ยง เรื่องผื่นคัน ในทารก เพิ่มขึ้น ครั้นจะไม่ทัก บอกก็กระไรอยู่ ครั้นบอกไปก็เหมือนเขียนเสือให้วัวกลัว เสียเปล่าๆ เพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิดจริง
น่าจะลอง ไม่กินอะไร แม้สมุนไพร ว่า จะมีอาการจริงมั้ย เพราะเป็นเพียง ข้อสมมุติฐาน ผมอาจจะผิด
ผมคิดเอาเองว่า ที่มียาครรภ์รักษา ก็เพื่อช่วยปรับธาตุจากการกิน ต่างๆ แปรปรวน ไป ขืนไปห้ามกิน สิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่ถูกธาตุ ก็คงเวียนหัวอยู่หรอก
กินอะไรก็กินไป แล้วกินยา ครรภ์รักษา แก้ไขก็แล้วกัน
ผม สังเกตุแล้วว่า เรื่อง ภูมิปัญญา เดิม อ จัน มีพรสวรรค์ เรียนรู้ เข้าใจได้เร็ว ยอมรับเชื่อ ก็เลยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้กันครับ ผมอาจจะไม่ถูกทั้งหมด แต่ก็ว่ากันจาก ประสบการณ์ นอก-ใน ตำรา ผสมปนเปกัน
สวัสดีค่ะ
ขอฝากถามอาจารย์ เรื่องcradle capที่เด็กอ่อนอายุ 2 เดือนขึ้นไป 50 %จะเป็นกัน จนถึง6-7 เดือน แม่ควรทานหรือไม่ทานอะไรตอนท้อง จึงจะป้องกันได้คะ เพราะหมอบอกว่า แก้ไขไม่ได้ เด็กเป็นเองค่ะ
สวัสดีค่ะ อ.หมอวีรพัฒน์
จนถึงวันนี้ อ.ธวัชชัย ก็ยังไม่ได้มีโอกาสไปหามะขามป้อมสดมาให้ทานค่ะ :(
แต่จะบอกข่าวดีค่ะ หลังจากที่ดิฉันลดการกินถั่วอบ และลดอาหารเผ็ดเปรี้ยวลง อาการเจ็บซี่โครงด้านขวา ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นค่ะ คือ เรียกได้ว่าเจ็บไม่ถี่เหมือนแต่ก่อนค่ะ สามารถนั่งทำงานได้มากขึ้นค่ะ
พี่ศศินันทร์ค่ะ
ดูรูปจาก google แล้วน่ากลัวนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
ไม่น่ากลัวค่ะ
นี่คือเหตุที่โบราณเขาให้โกนผมเด็กอ่อนให้สะอาด จะได้ไม่อบ ร้อนๆ จะยิ่งเป็น
ปกติจะเริ่มเป็นตอน 2 เดือนไปแล้ว จนถึง6-7 เดือน
50%ของเด็กมักเป็น สาเหตุ ยังไม่แน่นอนค่ะ
หมอบางคนบอกว่า เป็นเซลล์ตาย ติดมาจากหัวเด็กแช่ในน้ำคร่ำ บางคนว่า เด็กเป็นเอง บางคนว่า เป็นกรรมพันธุ์
ใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ หมัก และใช้นิ้วที่ไม่มีเล็บยาวของเรา สางให้เขา จะหลุดออกมาเอง แล้วสระผมกับแชมพูนิดหน่อย ทุกวัน จะค่อยๆน้อยลงค่ะ ถ้าอากาศร้อน เขาจะคันด้วย
จะหายเองในที่สุด ส่วนใหญ่มักเป็นมากกับเด็กผมดก
ตอนนี้ มีน้องที่ทำงาน ลูกเขาเป็น เขาเลยไปโกนผมลูก ใช้น้ำมันมะกอกทาและสระออกให้สะอาด ก็จะหายไวขึ้น
แต่หลานไม่ได้โกนผม แค่ตัดผมสั้นมากๆ
หมอบอกเด็ก 2 เดือนแรก จะเลี้ยงยากหน่อยสำหรับคุณแม่มือใหม่ แต่พอขึ้น 3 เดือนก็ดีขึ้นมาก
ตอนนี้หลานอายุ 1ขวบ 3เดือนกว่า เลียนแบบทุกอย่างที่เห็นค่ะ ชอบฟังนิทาน เริ่มชอบดูการ์ตูน+เพลง เต้นตามอย่างสนุก
มีปัญหาคนเลี้ยงใหม่ ไม่ลงตัว เลยให้แม่เขาออกจากงาน ม.ค.51 ค่ะ เป็นห่วงพัฒนาการของเด็ก พอลูกเข้าอนุบาลหรือป.1 ให้เขาทำงานส่วนตัว จะได้จัดเวลาให้ลูกได้ อยากให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ เพิ่งเข้าใจค่ะว่าทำไมเขาถึงต้องโกนหัวเด็ก
กำลังกะว่าจะบอกคุณยายว่าอย่ามาโกนหัวหลานนะ สงสัยคิดใหม่แล้วค่ะ :)
ฟาซียะห์วาเดะ
อาจารย์ค่ะ คือว่าหนูอยากทราบว่า จตุผลาธิกะเคยมีคนศึกษาเกี่ยวกับตับมาแล้วหรือยังค่ะ ถ้ามีแล้วอาจารย์พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยนั้นๆหรือเปล่าค่ะ เพราะหนูกำลังสนใจที่จะทำวิจัย Thesis เกียวกับจตุผลาธิกะค่ะ ขอบคุมากค่ะ
อยากทราบทานยาจตุผลาธิกะสรรพคุณช่วยแก้สิวฝ้า เมื่อทานเข้าไปแล้วยาจะขับพิษทำให้สิวเห่อแดงบวม ระบม ใช่หรือป่าวค่ะ อยากทราบว่าจะต้องหยุดทานยา หรือทานต่อเพื่อให้พิษขับออกมา แล้วสิวที่เห่อจะหายไหมค่ะ เพราะมันเห่อจนระบม จนแฟนเรียกหน้าเน่า ช่วยตอบด้วยค่ะจะได้สบายใจ จะได้ไม่กังวลว่าเราแพ้ยา หรือทานต่อแล้วจะดีขึ้นหรือป่าว ขอบคุณค่ะ