วิสัยทัศน์ของตำบลน้ำเกี๋ยน กินอิ่ม..นอนอุ่น..ฝันดี สั้นๆ ทำให้มองเห็นสิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ได้อย่างชัดเจน กระตุกต่อมความคิดของพวกเราในบทบาทของนักพัฒนา ที่ได้เข้าเยี่ยมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการพัฒนาเพื่อเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ในช่วงเย็นของวันที่ 24 มกราคม 49 เป็นอย่างมาก
ทีมงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดน่านโดยคุณเสวียน บุญศรี และคุณภาคภูมิ พรมสารนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองน่าน ได้ติดต่อและนำทีมงานเข้าศึกษาดูงาน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเกี๋ยน โดยได้รับความกรุณาจากท่านนายก อบต. คุณสนิท สายรอคำ อาจารย์ชูศิลป์ สารรัตนะ ประธานองค์กรพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนตำบลน้ำเกี๋ยน และคุณศิรินันท์ สารมณฐี จากสถานีอนามัยตำบลน้ำเกี๋ยน ทีมงานของตำบลน้ำเกี๋ยน ช่วยเล่าประสบการณ์และกระบวนการทำงานของตำบลน้ำเกี๋ยน พอสรุปเป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้ดังนี้ครับ
เรื่องเล่าโดยอาจารย์ชูศิลป์...เล่าถึงชุมชนน้ำเกี๋ยนว่าเริ่มจากวิกฤติปัญหา คือการตัดไม้ทำลายป่า ยาบ้า และการพนัน ทำให้คนในชุมชนหันหน้าเข้ามาหากันเพื่อแก้ไขปัญหา คนจุดประกายการทำงานแบบมีส่วนร่วมระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน และสถานีอนามัย (บวรส.) คือคุณสฤษฎิ์ สุฤทธิ์ เจ้าหน้าที่อนามัย กลายเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาของตำบล และแกนนำเข้ามามีส่วนร่วมคือ กำนันคำมูล ดีพรมกุล สิ่งที่ได้เป็นผลตามมาก็คือ ป่าดี/น้ำดี แก้ปัญหาของชุมชนได้
ภาพซ้าย อาจารย์ชูศิลป์ สารรัตนะ และขวา นายก อบต.สนิท สายรอคำ
นายกสนิท สายรอคำ ได้เล่าต่อว่าตำบลน้ำเกี๋ยนเกิดจิตสำนึกว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน แม้จะมี 5 หมู่บ้าน แต่ก็มีวัดเดียว โรงเรียนเดียว และสถานีอนามัยเดียว ทำงานร่วมกันไม่มีใครเป็นพระเอก ผู้นำ 42 คนทำร่วมกัน เรียนว่า 42 ขุนศึก และสิ่งที่ได้ปฏิบัติในฐานะของ อบต. ก็คือ
-
มีอุดมการณ์ ต้องสร้างอุดมการณ์ทางความคิด(จูนอุดมการณ์) เริ่มที่วิธีคิดให้โดนใจชาวบ้าน ทำงานแล้วชาวบ้านมีความสุข ต้องให้อะไรกับชาวบ้าน และต้องมองข้ามตัวเอง
-
ต้องมีวิธีการทำงานที่ดี วิธีการก็จะออกมาจากความคิดที่มีอุดมการณ์
-
เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ต้องร่วมจริงๆ เริ่มตั้งแต่การจัดทำแผนที่เรียกว่าแผน 108 (ช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี) คิดกับ อบต.ตั้งแต่เริ่มแรก แผนมี 3 ลักษณะคือ 1) ทำเองได้ไม่ต้องใช้เงิน 2) พึง อบต. และ 3) พึ่งภายนอก โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วน (เปิด) พร้อมทั้งแสวงหาเครือข่ายการพัฒนา เน้น ไปได้...ไปถึง...เปิดพื้นที่
-
การให้ความสำคัญกับผู้นำทุกคน เช่น ขณะนี้มีการจัดสวัสดิการให้แก่ผู้นำทุกคน มีการประกันสุขภาพให้ เป็นต้น
-
เรียนรู้และมองเศรษฐกิจภาพใหญ่ เมื่อเรียนรู้ก็จะสามารถพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจในภาพใญ่ได้ เช่น ขณะนี้มีการผลิตนำดื่ม "น้ำเกี๋ยนวอเตอร์" , โรงสีชุมชนที่ให้บริการสีข้าวฟรี , โรงงานอิฐบล๊อกของชุมชน , ศูนย์สาธิตการตลาด เพื่อป้องกันเงินไม่ให้ออกนอกชุมชน และโรงงานอาหารสัตว์ (ยังไม่ประสบผลสำเร็จ)
-
ในอนาคต อบต. จะพัฒนาลงสู่ฐานของครอบครัว เช่น การผลิตพืชปลอดภัย การผลิตพันธุ์ข้าว การซื้อรถไถเป็นของชุมชน เป็นต้น
คุณหมอศิรินันท์ สารมณฐี ได้เล่าเกี่ยวกับแก่นแท้ของความเข้มแข็งของชุมชนตำบลน้ำเกี๋ยนว่ามีแก่นหลักอยู่ 4 อย่าง คือ
-
เครือญาติ ความเป็นเครือญาติกันค่อนข้างมาของชุมชน เป็นรากฐานของความผูกพันของชุมชน
-
ผีปู่ย่า เป็นความเชื่อและธรรมเนียมของตำบล ทำให้มีความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน หากถือผีเดียวกัน
-
กลุ่มรุ่นกลุ่มเสี่ยว คือการทำให้คนที่เกิดปี พ.ศ.เดียวกันรวกลุ่มกันเป็นรุ่นเดียวกัน ช่วยเหลือกัน ทำให้เกิดความรักความสามัคคีกันมากขึ้น
-
ศรัทธาวัดเดียวกัน วัดเดียวในตำบลน้ำเกี๋ยนก็คือวัดโป่งคำ เป็นศรัทธาวัดเดียวกันทำให้คนในตำบลน้ำเกี๋ยนมีความสามัคคีกันมาก
นอกจากแก่นทั้ง 4 ดังกล่าวแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกเช่น มีผู้นำที่เข้มแข็ง , มีประเพณีและวัฒนธรรม , มีเป้าหมายร่วมกัน คือ "กินอิ่ม นอนอุ่น ฝันดี" , เกิดกลุ่มและองค์กรต่างๆ ในชุมชน , มีกรรมการบริหารจัดการที่ดี , มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ,มีภาคราชการหนุนเสริม , มีการแลกเปลี่ยนดูงาน , เกิดเครือข่ายในการพัฒนา , มีการสนับสนุนจากภายนอก และการพัฒนาที่มีลักษณะเป็นการมองอย่างเชื่อมโยง เป็นต้น
เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับทีมงานของชุมชนน้ำเกี๋ยน เป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ได้เรียนรู้ แม้จะมีเวลาน้อยประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ก็ทำให้เห็นภาพที่ชัดเจน มากกว่าการอ่านหนังสือหรือบันทึกต่างๆ ที่เกี่ยวกับชุมชนนี้อย่างมากมาย เห็นกระบวนการทำงานและแนวคิด วิธีคิดในการทำงานที่เป็นประโยชน์อย่างมากกับทีมงานครับ ... ขอบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมให้เกิดการ ลปรร.
วีรยุทธ สมป่าสัก 24 / 01 / 49