เป็นเรื่องเล่าครับ
ในทำงานจะมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มีคนทำงานอยู่ประจำ
เนื่องจากผมเองทำงานด้านการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพ
จึงมีความคิดที่จะมองหา หรือโน้มเองอยู่แล้วว่า งานอะไร ใครทำอะไรที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยหนุน หรือช่วยเสริมต่อการพัฒนาและการเรียนรู้ขององค์กร
และที่สำคัญคือการมองหา change agent หรืองานที่มี นวตกรรม คนที่มีมุมมองที่แตกต่างกันไป แต่มุมมองที่สำคัญคือมุมมองแห่งความสร้างสรรค์ มุมมองเพื่อการเปลี่ยนแปลงและการขับเคลื่อนองค์กรณ์ไปข้างหน้า อันเป็นองค์กรที่มีพลวัตที่สูงยิ่ง สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งภายใน และภายนอกองค์กรเราได้
งานหนึ่งที่ผมแอบเฝ้ามอง และรู้สึกว่าโดนและเข้าแก๊ป โดยที่เราไม่ได้ไปสัมผัส หรือชี้แนะเขาเลย แต่ว่าแอบมอง แอบให้กำลังใจและชื่นชมเป็นอย่างมากคืองานของพี่ประชาสัมพันธ์
มีอะไรบ้าง
- การกล่าวทักทายด้วยเสียงตามสาย ต่อผู้ร่วมงานและผู้รับบริการ พร้อมๆกับคำแนะนำที่เกี่ยวกับการให้บริการต่างๆ และมักจะจบด้วยคำคมชวนคิดท่ผมได้ฟัง จดจำและเรียนรู้พร้อมกับนำมาปฏิบัติเสมอ(ถ้าสติไม่เผลอ)
- งานบอร์ดวันเกิด จนท. อันนี้โดนมากๆครับ มีการเขียนคำอวยพรกันและกัน เป็นการเชื่อคนในองค์กร คนที่มากมาย คนที่อยู่คนละหน่วยงาน แม้ว่าจะไม่ค่อยได้คุยกัย แม้ว่าอาจจะมีเรื่องติดใจบ้าง แต่เวทีนี้เป็นการเปิดให้มีการมอบสิ่งที่ดีๆให้ต่อกัน น่าชื่นชมมากครับ ผมก็ได้คำอวยพรมากมายเลยครับ ขอบคุณคนจัดมากนะครับ
- เพลงเบาๆ เพื่อช่วยให้เกิดการผ่อนคลายทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ เรื่องนี้เป็นมุมมองที่ดีมากๆครับ เพราะถือว่าเป็นตัวแทนของกระบวนทัศน์ใหม่ได้เลยที่เดียว(อย่างหนึ่ง) เพราะว่าประโยชน์ของดนตรีนั้นมีมากมาย หลายๆองค์กร ทั้งเอกชน ภาครัฐ มักจะมีเสียงตนตรเบาขณะที่เราทำงาน(แต่เรื่องนี้ก็มีหลายมุมมองนะครับ)
- ป้ายของหน่วยงานต่างๆที่สื่อสารแสดงผลงานของตนเอง
ครับนั่นเป็นสิ่งที่ผมมองและชื่นชม
วันนี้ได้เข้าไปแสดงตัวกับพี่เขาโดยตรงว่าเห็นด้วยและชื่นชมกับสิ่งพี่ทำมากๆนะ เป็นการเพิ่มเติมสิ่งที่ดีๆให้องค์กร เป็นมุมมองใหม่ การเรียนรู้ไปสู่องค์กรที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อเป็นของทุกๆคน หลายคน สิ่งที่ทำคือสิ่งที่เกิดประโยชน์ และก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ หวังดี
แม้ว่าบนทางเดินแห่งความหวังดีนี้จะยังแรงเสียดทานบ้าง แต่ก็อย่าท้อ อย่าหมดกำลังใจครับ สิ่งสำคัญคือการรับฟังอย่างตั้งใจ และก็ยอมรับในความคิดของกัน แต่สิ่งสำคัญคือ มนุษย์นั้นมีเหตุผลมากกว่าความเห็นแก่ตัวครับ ถ้าเราอธิบายได้ดี สื่อได้ลึกซึ้ง ผมว่าความดี ความจริง ความงาม ย่อมจะทำให้อคติ ความไม่เข้าใจ ความไม่รู้นั้นหมด หรือจากลงไปได้มากครับ
เป็นธรรมชาติครับ บางทีคนเราอาจจะคิดต่างกัน แต่เมื่อเรามาอยู่ในที่เดียวกัน ก็จะต้องมีหลักการณ์ หรือคุณค่าหลักที่เราควรมีร่วมกัน บางครั้งเจ้าคุณค่าหลัก ค่านิยมนี้อาจจะยังเข้าไม่ถึงทุกๆคน ก็ต้องรอ ก็ต้องอดทน และเรียนรู้เข้าใจ พยามแสวงหาความหมายคุณค่าความเข้าใจร่วมกันให้ได้ครับ
มีเรื่องเล่าของการ ลปรร กับคนทำงานครับ ผมกล่าวว่า การทำงานเพื่อองค์กรนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทัน ต้องเสียสละพอสมควร เป็นงานที่ต้อใช้ใจ ใช้ความทุ่มเท
เป็นเรื่องของจิตอาสา ที่เราจะคิดและทำอไรอยางอิสระ สร้างสรรค์ โดยที่ไม่ต้องรอเจ้านายหรือใครๆมาบอก มาสั่งให้ทำ ทำด้วยใจ และขอเน้นว่าเป็นการทำงานที่ไม่ต้องการหวังผลลัพธ์เพื่อตนเองเช่น อยากดังหรือเติบโตใดๆ (หากจะมีก็ให้น้อยที่สุด)
ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นการกระทบกันของกระบวนทัศน์ ใหม่และเก่า เก่าและกึ่งๆ หรือใหม่กับใหม่(ใหม่คนและแบบที่ยังต่างกัน) ก็ได้ครับ
ขอเป็นกำลังใจครับ....
สวัสดีค่ะคุณหมอ