AAR การทำหนังสือ วิถี KM ไท : เรียนรู้ KM จากเรื่องเล่า ชาว มน.


ดิฉันประทับใจ อ.วิบูลย์ และ ทีมงาน มน. หลายท่าน ซึ่งมักจะพูดอยู่บ่อยๆ ว่า ถ้า อุ เห็นว่าอะไรดี หรือ ควรปรับแก้ ก็ทำไปได้เลย... และถ้าจะให้ช่วยตรวจต้นฉบับ (artwork) ก็ส่งมาได้เลย เพราะหลายคนช่วยกันดูย่อมดีกว่าดูคนเดียว...

(ดูหน้าปกหนังสือคลิกที่นี้) 

              และแล้วหนังสือ วิถี KM ไท : เรียนรู้ KM จากเรื่องเล่า ชาว มน.  ก็เปิดตัว อย่างเป็นทางการใน มหกรรม KM ภูมิภาค ครั้งที่ ๑ : กรณีความสำเร็จในเขตภาคเหนือตอนล่าง  วันที่ ๒๘ - ๒๙ กันยายน ๒๕๕๐ ที่ผ่านมา.... 

            หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ สคส. มีแนวคิดว่าอยากทำหนังสือ เกี่ยวกับองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่มีการนำ KM ไปใช้  แล้วประสบความสำเร็จมาระดับหนึ่งและถ้านำออกมาเผยแพร่สู่สังคมแล้วจะเกิดประโยชน์มหาศาล.. ที่สำคัญหนังสือเล่มนี้ต้องเป็นหนังสือที่ถ่ายทอดออกมาจากผู้ปฏิบัติจริง.... โดย มน. เป็นองค์กรหนึ่งที่ สคส. ขอให้รวบรวมเขียนเรื่องเล่าเพื่อทำหนังสือในลักษณะนี้และก็เป็นหนังสือเล่มแรกที่เกิดขึ้นก่อนเล่มอื่นๆ ซึ่งกำลังดำเนินการจัดทำและคาดว่าจะเปิดตัวในไม่ช้านี้... โดยหนังสือลักษณะนี้เราจัดเป็นชุดหนังสือที่ใช้ชื่อว่า วิถี KM ไท            

              ก่อนหน้าที่หนังสือเล่มนี้จะออกมา.. ดิฉันได้มีโอกาสเป็นส่วนเล็กๆ คือเป็นผู้ดำเนินการนำบทความที่ ชาว มน. กลั่นกรองเขียนออกมาทำให้เป็นหนังสือ มีความคาดหวังว่าอยากให้หนังสือออกมาตรงใจผู้เขียนและน่าสนใจสำหรับผู้อ่าน ออกทันงานมหกรรม KM ภูมิภาค ครั้งที่ ๑....  ในฐานะที่ดิฉันเป็นทีมงานเบื้องหลังของการทำหนังสือเล่มนี้.. หากจะถามว่าหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์ มีคุณค่า หรือ เหมาะกับผู้อ่านกลุ่มใดนั้น  ดิฉันคิดว่าผู้ให้คำตอบได้ดีที่สุดควรจะเป็น ชาว มน. และตัวผู้อ่านเอง..  แต่ดิฉันจะขอเล่าเบื้องหลังบางส่วนที่ดิฉันได้สัมผัส ได้พบกับเรื่องราว ความประทับใจ จากการที่ได้ทำร่วมกับทีมงาน มน. จนกระทั่งหนังสือเล่มนี้ได้เปิดตัวออกมาในงานมหกรรม KM ภูมิภาค ครั้งที่ ๑ ที่เพิ่งผ่านพ้นมานี้..

              หนังสือ วิถี KM ไท : เรียนรู้ KM จากเรื่องเล่าชาว มน. นี้ใช้เวลามากและยากลำบากมากในการรวบรวมเรื่องเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ด้าน KM ของหน่วยงานต่างๆ ใน มน. ทั้งระดับผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร เจ้าหน้าที่ นิสิต และ ฟาน้อย  เพราะหลายท่านบอกว่ากว่าจะใช้เวลาในการคิดรวบรวมแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือนั้นยากกว่าการปฏิบัติจริงเสียอีก...ดิฉันประทับใจถึงความพยายามของ ชาว มน. เป็นที่สุด.. รู้และเข้าใจว่าบางท่านต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการเขียนเพื่อถ่ายทอดให้ตรงกับสิ่งที่ตนเองอยากจะถ่ายทอดออกมา .. สิ่งนี้คือสิ่งที่ท้าทายที่สุดของหนังสือเล่มนี้ แต่ ชาว มน. ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะนำ tacit ออกมาเป็น explicit ให้ได้  และก็น่าชื่นชมกับเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดออกมาที่ได้เห็นภาพของการปฏิบัติจริง และลงลึกถึงวิธีคิด รวมถึงเทคนิคต่างๆ ของแต่ละคนที่ถึงแม้จะเป็น ชาว มน. เหมือนกันแต่การนำไปใช้ในแต่ละเรื่อง แต่ละหน่วยงาน มีความแตกต่างกัน

                 สิ่งที่ท้าทายต่อมาคือจะทำอย่างไรให้ต้นฉบับที่เป็นเรื่องเล่าเหล่านี้ออกมาเป็นหนังสือที่น่าอ่าน น่าสนใจ  และที่สำคัญคือเป็นเอกลักษณ์เรื่อง การจัดการความรู้ ของ มน. ..... จะว่าไปแล้วต้นฉบับซึ่งเป็นเนื้อหาของบทความนั้นมีบางส่วนที่ดิฉันปรับแก้อยู่บ้างแต่พยายามจะให้คงความหมายเดิมเอาไว้ ซึ่งหากคลาดเคลื่อนหรือไม่ปราณีตพอดิฉันก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย (ดิฉันประทับใจ  อ.วิบูลย์ และ ทีมงาน มน. หลายท่าน ซึ่งมักจะพูดอยู่บ่อยๆ ว่า ถ้า อุ เห็นว่าอะไรดี หรือ ควรปรับแก้ ก็ทำไปได้เลย... และถ้าจะให้ช่วยตรวจต้นฉบับ (artwork) ก็ส่งมาได้เลย เพราะหลายคนช่วยกันดูย่อมดีกว่าดูคนเดียว...  ) ...... สำหรับปกและสี ของหนังสือเล่มนี้นั้น ตอนแรกคิดกันไว้หลายแบบแต่ยังไม่เป็นเอกลัษณ์ของ มน. เท่าไรนัก และสุดท้ายก็คิดไว้ว่า ต้องมีสัญลักษณ์ KM ของ มน. ซึ่งก็คือโลโก้เกลี่ยวพลัง NUKM และ ช้าง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ มน.   แต่จะขาดไม่ได้ก็คือสีประจำ มน. คือ แสด-เทา ........             

              ระหว่างที่ หนังสือ วิถี KM ไท : เรียนรู้ KM จากเรื่องเล่าชาว มน. อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายคือตีพิมพ์ในโรงพิมพ์.. ดิฉันคิดว่าดิฉันตื่นเต้นมากกว่าคน มน. เสียอีก เพราะคิดไปต่างๆ ว่าหนังสือจะออกมาเป็นอย่างไรนะ (ทำให้ไม่กล้าเขียนบทความใดๆ เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ก่อนที่จะเห็นรูปเล่มที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว)... แต่แล้วดิฉันก็ได้ยลโฉมในวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๐ เวลา ๐๘.๓๐ น.  แว้บแรกที่เห็นก็ต้องเป็นปก..เรื่องปกนี้สำหรับตัวดิฉันเองแล้ว.. ดิฉันคิดว่าได้น้อยกว่าคาดหวังเพราะสวยน้อยกว่าที่คาดหวังไว้ (หากมีโอกาสได้ทำหนังสือของ มน. อีก.. จะขอแก้ตัวทำให้ปราณีตและดีกว่านี้นะคะ)...จะว่าไปแล้วการได้เห็นหนังสือก็โล่งใจและหายตื่นเต้นไปเปราะหนึ่ง..  สิ่งที่ตื่นเต้นต่อมาคือ ชาว มน. เห็นหนังสือแล้วจะรู้สึกอย่างไรนะ (ตื่นเต้นกว่าอีก)  แต่แล้วดิฉันก็พบว่าเมื่อหนังสือไปถึง มน. มีทีมงาน มน. (ซึ่งก็คือผู้เขียน) ต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยและตื่นเต้นอยากจะเห็นหนังสือมาก (มากกว่าที่ดิฉันตื่นเต้นเสียอีก) เพราะตอนที่ ตูน หยิบหนังสือเล่มแรกออกจากห่อเพื่อให้ทุกคนที่รอคอยอยู่นั้น (รวมถึง อ.วิบูลย์ ด้วย) แต่ละคนลุ้นกันใหญ่ และ อ.วิบูลย์ ก็ถ่ายรูปตลอด ทุกมุมกล้อง (คิดว่าหลายสิบรูปเฉพาะตอนที่หนังสือไปถึงแล้วต่างคนต่างเปิดดูหนังสือในบทความส่วนที่ตนเขียน)  อ.วิบูลย์ และ ชาว มน. ชมตลอดว่าหนังสือดูดีกว่าที่คาดไว้มาก...  สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดิฉันประทับใจเกินคาด..

       ความประทับใจในการทำหนังสือเล่มนี้ยังมีอีกมากดิฉันคงไม่สามารถถ่ายทอดได้ทั้งหมด..... ซึ่งขอขอบคุณ ชาว มน. ในความเป็นกัลยาณมิตรและการให้โอกาสให้ดิฉันได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ของ NUKM ที่ทุกท่านได้ถ่ายทอดในหนังสือ วิถี KM ไท : เรียนรู้ KM จากเรื่องเล่า ชาว มน.

 

uraiMan

หมายเลขบันทึก: 133502เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2007 13:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
ตามมาตื่นเต้นด้วยคน .. เค้าเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตามต้นฉบับ ที่ต้องรวมให้ อุ ให้หมด ให้ตรงตามเวลา ตื่นเต้นกันมาตั้งแต่เก็บข้อมูล หารูปประกอบ จนรอหนังสือออก .. อิอิ ยังมีเรื่องตื่นเต้น อีกเยอะเลย ค่อยว่ากันเนอะ ..
อ้าว .... ก็นะได้หนังสือก็คนละมุม อ่านเรื่องตัวเองกันใหญ่เชียว ตื่นเต้นกันจัง
  • ขอตื่นเต้นด้วยคน ถึงแม้จะมีส่วนร่วมเพียงเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็อดตื่นเต้นด้วยไม่ได้
  • แต่คนที่ปลื้มๆ สุดๆ อีกคนคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากหัวเรือใหญ่ <อ.วิบูลย์>  สังเกตุรอยยิ้มบนใบหน้าอาจารย์ได้ค่ะ Dsc02070... วันนั้น (27 ต.ค. 50 เวลาค่ำ) หนังสือ วิถี KM ไท : เรียนรู้ KM จากเรื่องเล่าชาว มน. ถูกเปิดตัวหนังสือ(อย่างไม่เป็นทางการ) จากบรรดาฟาน้อยทั้งหลาย เพราะช่วยกันแกะห่อ และแอบเปิดอ่าน สงสัยอ่านเรื่องที่ตัวเองเขียน หรือเปล่า อิอิ
  • และวันที่ 29 ต.ค. 50 ก็ถึงเวลาเปิดตัวหนังสือเล่มนี้อย่างเป็นทางการ เลยแอบเก็บรูปมาฝากคุณอุให้ดูว่าแต่ละคนเห่อหนังสือเล่มนี้ขนาดไหน ...เผื่อว่าคุณอุเห็นภาพ จะได้หายเหนื่อยค่ะDsc02189

มันเป็นความภาคภูมิใจที่หาคำบรรยายยากมาก (โปรดดูจากภาพที่เปิดตัวหนังสือ) ยิ้มกันแก้มแทบแตก

  • ขอบคุณ... คุณอุมาก ๆ ค่ะ ที่มีความพยายามและตั้งใจทำให้หนังสือเล่มนี้สวยงาม  น่าอ่าน 
  • ฟาน้อย มน.หยิบหนังสือทีไรก็ยิ้มทุกทีปลิ้มสุดๆ และก็ คิดถึงคุณอุ ด้วยค่ะ

 

  • หนังสือนี้ดีมากครับ คิดว่าคนเขียนคงหน้าตาดีมาก
  • ขอบคุณพี่อุ สคส. มาก
  • ขอให้เจริญในธรรมครับ

ขอขอบคุณอาจารย์ Uraiwan = Uraiman

  • ขอแสดงความยินดีด้วยครับ
  • ชื่ออาจารย์ดังตั้งแต่เริ่มตั้งชื่อแล้ว
  • ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของพี่ๆ น้องๆ มน. ทุกท่าน

"..........ก่อนหน้าที่หนังสือเล่มนี้จะออกมา.. ดิฉันได้มีโอกาสเป็นส่วนเล็ก ๆ..............."

ไม่ใช่เป็นส่วนเล็ก ๆ หรอกครับ เป็น key step ของความสำเร็จเลยล่ะ ขอบคุณคุณอุมากครับที่ช่วยทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่เหลือเชื่อได้และได้รู้สึกภาคภูมิใจร่วมกัน

เห็นด้วยคะว่า คนเขียนเรื่องเล่าในหนังสือ.. หน้าตาดีทุกคนเลย..... และถึงวันนี้ก็ยังประทับใจ ชาว มน. เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

  • ขอขอบคุณสำหรับบันทึกนี้ของคุณอุ
  • ถ่ายทอดได้เหมือนที่เล่าให้ "beeman" ฟังในห้องประชุมจังเลย
  • ลึกๆ แล้ว คุณอุ คงอยากทำหนังสือเล่มนี้มาก ทุ่มอย่างสุดใจเลยก็ว่าได้
  • ชอบข้อคิดเห็นของขวัญตระกูลที่มีลงภาพประกอบด้วย...ชอบทั้งสองภาพเลย..แสดงความรู้สึกและอารมณ์ได้ดีมาก..อิอิ
  • ตอนแรกที่เห็นหนังสือก็ตื่นเต้นแล้ว พอเปิดอ่านทีละหน้า ๆ ก็ยิ่งตื่นเต้นใหญ่ ไม่กล้าอ่านของตัวเองแบบว่าเขินค่ะ
  • แต่พอกลับไปที่หอยอมรับว่าหน้าแรกที่เปิดคือหน้าของเรื่องเล่าตัวเอง
  • เป็นเรื่องเล่าแบบเด็กๆ นะคะ ที่ได้สัมผัส KM เพียงน้อยนิด แต่ได้รับความรู้และความสุขแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหนเลยนอกจากที่มน.ค่ะ
  • สุดท้ายปิดหนังสือลงเมื่ออ่านจบ น้ำใสอิ่มเต็มตาเต็มใจเลย เพราะรู้สึกรักและภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นชาว มน. ได้พบได้รู้จักกับอาจารย์พี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมแรงร่วมใจอย่างที่เราพบได้ตลอดไปค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท