วันที่14-16ก.ค. ผมมีโอกาสร่วมสัมภาษณ์ผู้ว่าและนายอำเภอ 3 จังหวัด(ไม่ใช่3 จ.ว.ภาคใต้นะครับ)เพื่อต้องการทราบแนวคิดและการปฏิบัติต่อนโยบายและระบบราชการที่กำลังปฏิรูปกันอยู่ ข้อคิดเห็นของผู้ว่าน่าสนใจมากคือ ท่านมองว่าอุปสรรคแรกคือนโยบายการปฏิรูปไม่ชัดเจนและช้า ทำให้ข้าราชการไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ไม่มีกะจิตกะใจทำงาน ข้อสองคือหลักการปฏิรูปไม่ชัดเจนหรือสื่อสารกับสาธารณะไม่ชัด คือ โครงสร้างราชการมีส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่น การปฏิรูปโดยเรียกว่าผู้ว่าซีอีโอโดยผูกกับแนวคิดบริษัทเอกชนนั้น ทำให้คนเข้าใจผิด คิดว่า ผู้ว่ามีอำนาจ ที่จริงไม่ใช่ เพราะ1)โครงสร้างราชการทั้ง 3 ส่วนสัมพันธ์กันอยู่ 2)ปฏิรูปราชการส่วนภูมิภาคก็เป็นเรื่องของระบบทั้งหมด ไม่ใช่ผู้ว่าซีอีโอคนเดียว ข้อที่สามคือ หน้าที่และบทบาทของข้าราชการที่ต้องเปลี่ยนไปเป็นผู้ให้บริการและผู้เอื้ออำนวยการเรียนรู้ ซึ่งบทบาทหลังนี้ ราชการยังไม่เข้าใจ
ซึ่งน่าสนใจมาก ทำให้ผมเข้าใจอะไรขึ้นมากทีเดียว
แบบจำลองปลาตะเพียนว่ายน้ำ นอกจากคำนึงถึงกระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมให้ส่วนหัวกำหนดเป้าหมายได้เหมาะสม ชัดเจน และเพิ่มกำลังให้ส่วนหางมีความแข็งแรงแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ทิศทางและกำลังของกระแสน้ำด้วย
เช่น1ใน15คุณเอื้อจากที่ประชุมเครือข่ายสัจจะออมทรัพย์วันละ 1 บาทพูดถึงโครงการSMLว่า ได้เสนอแนวคิดสวัสดิการให้ที่ประชุมประชาคมฟัง ที่ประชุมมีความสนใจและเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว
หากเราเข้าใจทิศทางกระแสน้ำSMLเป็นอย่างดี รวมทั้งเรื่องอื่นๆที่เป็นนโยบาย กฏหมาย ระบบและกลไกสนับสนุนของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ประชาชน ซึ่งครูชบได้สอดแทรกเพิ่มเติมให้กับสมาชิกแกนนำในวาระการประชุมช่วงเช้า ทุกเดือน ก็อาจจะช่วยเพิ่มกำลังให้ปลาตะเพียนว่ายตัดกระแสน้ำไปยังเป้าหมายที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
สรุปการเรียนรู้ของที่ประชุมเครือข่ายสัจจะออมทรัพย์วันละ 1 บาททำสวัสดิการภาคประชาชนจังหวัดสงขลาคือ
ช่วงเช้า (2 ชั่วโมง)สรุปภาพรวม สร้างขวัญกำลังใจ เพิ่มเติมข้อมูล ความรู้จากภาคี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภาคบ่าย (2 ชั่วโมง)จัดกระบวนการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การทำงานในเดือนที่ผ่านมา ปิ้งแว๊บจากการหารือเกิดแนวคิดใหม่ ๆเพื่อการขับเคลื่อนในเดือนต่อไป
ผมมีของฝากสำหรับคุณภีม ที่ http://gotoknow.org/buildchumphon ขอเชิญเข้าเยี่ยมชมครับ