บ่ายวันนี้มีการประชุมคณาจารย์สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการประจำสำนักวิชาทดแทนกรรมการที่ลาออกไป ๒ ตำแหน่ง โดยมีอธิการบดี รศ.ดร.ไทย ทิพย์สุวรรณกุล เป็นประธานการประชุม
เราถือโอกาสนี้เรียนเชิญท่านอธิการบดีรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของสำนักวิชา เมื่อรับประทานอาหารเสร็จระหว่างที่รออาจารย์บางส่วนที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกมหาวิทยาลัย ท่านอธิการบดีได้พูดคุยเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันในเรื่องบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการประจำสำนักวิชาว่ามีอำนาจหน้าที่ในการบริหารวิชาการ เช่น ในเรื่องการเรียนการสอน ไม่ใช่อาจารย์แต่ละคนจะทำอะไรอย่างอิสระเสรี (ตามใจฉัน)
ในเรื่องการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ท่านอธิการบดีไม่อยากให้มองเฉพาะการพัฒนาคุณวุฒิอย่างเดียว ต้องมีการพัฒนาศักยภาพในด้านการสอน การวิจัย และการบริการวิชาการด้วย การทำวิจัยนั้นไม่อยากให้เป็นการวิจัยตามเหตุการณ์ อยากเห็นงานวิจัยที่ต่อเนื่องและลงลึก เพื่อประโยชน์ต่อการขอตำแหน่งวิชาการที่สูงขึ้น
ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของนักศึกษา ท่านอธิการบดีมองว่าของสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ไม่มีปัญหามากนัก ทั้งในเรื่องจำนวนคนที่สำเร็จการศึกษาและอัตราการได้งานทำ และยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่ไปร่วมมือกับ อบต. ในการผลิตพยาบาลเพื่อชุมชน
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยได้ขยายการรับนักศึกษาไปยังภาคต่างๆ ในปีการศึกษาหน้าน่าจะมีนักศึกษาจากภาคอื่นของประเทศเข้ามาเรียนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยกำลังปรับปรุงสถานที่ในหลายส่วนเพื่อให้นักศึกษาได้ใช้ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง แต่เรื่องนี้ต้องอาศัยอาจารย์ช่วยด้วย
สภามหาวิทยาลัยอยากให้สาขาทางด้านวิทยาการสุขภาพมีการจัดการเรียนการสอนร่วมกันเท่าที่จะทำได้ จากการหารือคณบดีสำนักวิชาที่เกี่ยวข้อง จะมีกรรมการทำงานนี้ ๓ ชุด (อ่านที่นี่)
ได้เวลา ๑๓.๐๐ น.เมื่อทุกคนพร้อมจึงเริ่มการเลือกตั้งกรรมการประจำสำนักวิชา ผู้มีสิทธิ์เลือกได้ออกเสียงไว้แล้วในกระดาษที่เจ้าหน้าที่ของสำนักวิชาทำขึ้น เราจึงนับคะแนนท่ามกลางสักขีพยานหลายคน ผลการเลือกตั้งได้ ผศ.ดร.เกียรติกำจร กุศล และ ผศ.ดร.นัยนา หนูนิล เป็นกรรมการประจำสำนักวิชา ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีกว่าๆ ก็เรียบร้อย
ต่อจากนั้นอธิการบดีเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ซักถาม ใครมีข้อสงสัยอะไรก็ถามได้ คำถามที่มี อาทิ กรรมการประจำสำนักวิชาต้องรู้เรื่องทุกหลักสูตรไหม ตำแหน่งรองคณบดีควรมีหรือไม่ การรับทุนวิจัยจากภายนอกจะต้องผ่านสำนักวิชาไหม เป็นต้น คำถามมาจากอาจารย์เก่าๆ มากกว่า อาจารย์เด็กๆ หรือใหม่ๆ ยังไม่มีคำถาม
กิจกรรมแบบนี้เป็นโอกาสดีๆ ที่นอกจากอาจารย์และเจ้าหน้าที่จะได้พบปะพูดคุยกันเองแล้ว ยังได้พบกับผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย เราจึงเชิญท่านอธิการบดีว่าน่าจะมารับประทานอาหารกลางวันร่วมกันทุกเดือน
ดิฉันคิดว่าครั้งต่อๆ ไป น่าจะเป็นเวทีให้เราได้เล่าเรื่องความสำเร็จ/ความภูมิใจของเราให้ท่านอธิการบดีได้รู้ด้วย
วัลลา ตันตโยทัย วันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๐
เรียน ท่านอาจารย์วัลลา
ปิติกานต์ หน่วยพัฒนาองค์กร