หายไปหลายวันครับวันนี้เลยเอาเรื่องดีๆ เวที KM อำเภอทองผาภูมิมาฝาก น่าสนใจครับแต่เนื้อหาอาจมากไปหน่อย ส่วนรูปจะนำมาลงให้ดูภายหลังวันนี้อ่านเอาเนื้อหาไปก่อนนะครับ การผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออกของเกษตรกรอำเภอทองผาภูมิ ความสำคัญกล้วยไข่ เป็นผลไม้ที่นิยมบริโภคกันทั่วไป เนื่องจากมีรสชาดดี ลักษณะการเรียงตัวของผลและสีผลสวยสะดุดตา ปัจจุบันส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศมากขึ้น ตลาดที่สำคัญ คือ จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น กล้วยไข่เป็นพืชที่สามารถปลูกได้แทบทุกภาคของประเทศไทย ในพื้นที่ปลูกที่มีการจัดการ การผลิตเพื่อให้ได้ทั้งปริมาณ และคุณภาพตาม ตลาดต้องการ ปัญหาสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของผลผลิตคือ การปนเปื้อนของ สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาต่อสุขอนามัยของผู้บริโภค ตลอดจนการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมใน ระยะยาว ดังนั้น กระบวนการผลิตจึงต้องมีการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสม แหล่งปลูก แหล่งปลูกกล้วยไข่ในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ดังนี้ - ตำบลลิ่นถิ่นทั้งตำบล - ตำบลหินดาดได้แก่ หมู่ 1 – 5 - ตำบลสหกรณ์นิคมได้แก่ หมู่ 2 บ้านสะพานลาว - ตำบลท่าขนุนได้แก่ หมู่ 3 และหมู่ 5 สภาพพื้นที่ óพื้นที่ดอน
หรือพื้นที่ราบ ไม่มีน้ำท่วมขัง ลักษณะดิน - ดินร่วนหรือดินร่วนเหนียว - มีความอุดมสมบูรณ์สูง ระบายน้ำดี - หน้าดินลึกมากกว่า 40 เซนติเมตร - ระดับน้ำใต้ดินลึกมากกว่า 75 เซนติเมตร - ค่าความเป็นกรด - ด่างของดิน ระหว่าง 5.0-7.0 สภาพภูมิอากาศ ó
อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ระหว่าง 25-35
องศาเซลเซียส แหล่งน้ำ - มีน้ำใช้เพียงพอตลอดฤดูปลูก - เป็นแหล่งน้ำสะอาด ปราศจากสารอินทรีย์ และสารอนินทรีย์ที่มีพิษปนเปื้อน - ค่าความเป็นกรดด่างของน้ำระหว่าง 5.0-9.0 พันธุ์ กล้วยไข่มี 2 สายพันธุ์ คือ กล้วยไข่สายพันธุ์กำแพงเพชร และกล้วยไข่พระตระบอง พันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นการค้าคือ กล้วยไข่สายพันธุ์กำแพงเพชร 1.
กล้วยไข่สายพันธุ์กำแพงเพชรชื่อสามัญ Pisang
Mas ลักษณะประจำพันธุ์ ลำต้นสูง2. 5 - 3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 16 - 20 เซนติเมตร สีเขียวออกเหลือง กาบ ใบเป็นสีน้ำตาลหรือช๊อกโกแลตใบตั้ง ไม่มีนวล ร่องก้านใบเปิดและขอบก้านใบ ขยายออก ฐานแผ่นใบทั้งสองด้านแหลม ผลแก่ที่โตเต็มที่ (ระยะเริ่มรับประทานแต่ ไม่สุกงอม) มีรูปร่างโค้งเล็กน้อย ปลายผลทู่ มีส่วนฐานของก้านเกสรเพศเมียยื่น ออกมาและเมื่อตัดผลตามขวางมีรูปร่างเกือบกลม 2.
กล้วยไข่พระตะบองชื่อสามัญ
- ลักษณะประจำพันธุ์ ลำต้นสูง 2.5 - 3.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร กาบลำต้นด้านนอกสีเขียว มีประดำหนา โดยเฉพาะใต้ขอบใบ ด้านในมีสีเขียวอมเหลือง ก้านใบสีเขียว ร่องใบเปิด ขอบก้านใบมีสีชมพูเล็กน้อย ผลโตกว่ากล้วยไข่ทั่วไปก้านผลค่อนข้างสั้นผลไม่มีเหลี่ยมปลายผลมนโค้งขึ้นเล็กน้อย เปลือกค่อนข้างหนา เนื้อด้านในสีเหลือง รสหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมเล็กน้อย การปลูกการเตรียมดิน óวิเคราะห์ดิน เพื่อประเมินค่าความอุดมสมบูรณ์ของธาตุอาหารพืชในดิน และความเป็นกรดด่างของดิน ปรับสภาพดินตามคำแนะนำก่อนปลูก óไถพรวน ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน เพื่อลดการระบาดของศัตรูพืช จากนั้นทำการไถดะ ไถแปร และชักร่อง ฤดูปลูก óในเขตภาคเหนือตอนล่าง ช่วงเวลาการปลูกเดือน สิงหาคม- กันยายน หากจะล่าช้าออกไปก็จะไม่เกินเดือนตุลาคม เนื่องจากต้องอาศัยน้ำฝน และหลีกเลี่ยงไม่ให้กล้วยไข่ ตกเครือในช่วงฤดูแล้ง จะทำให้กล้วยผลเล็ก ถูกแสงแดดเผามาก คุณภาพเสียหาย óในเขตพื้นที่ที่มีสภาพภูมิอากาศต่างไป เช่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ปลูกเดือนมกราคม – กุมภาพันธุ์ โดยให้มีช่วงเวลาหลังปลูกประมาณ 7 – 8 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดน้ำและอุณหภูมิสูงในช่วงการพัฒนาของผล นอกจากนั้นการปลูกกล้วยไข่ในช่วงต้นปีของอำเภอทองผาภูมิ จะเก็บเกี่ยวผลผลิตของกล้วยไข่ได้ช่วงเทศกาลสาร์ทไทย ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตที่ออกมาเป็นที่ต้องการของตลาด วิธีการปลูก óปลูกด้วยหน่อความสมบูรณ์ดี หน่อโคนโต, ปลายเรียว, ใบแคบ ลำต้นสูง 30 – 50 เซนติเมตร ó เตรียมหลุมปลูกขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ó รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้วอัตรา 5 กิโลกรัมต่อหลุม คลุกเคล้ากับหน้าดินรองก้นหลุมปลูกโดยสูงจากก้นหลุมประมาณ 1 ใน 3 ของหลุม óถ้ามีการไว้ตอหรือหน่อ
(Ratoon)
เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตต่อไปอีก 1-2 รุ่น
ควรรองก้นหลุมด้วยหินฟอสเฟต อัตรา 100-200
กรัม/หลุม óกลบดินลงหลุมปลูกและกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น คลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม เทคนิคการปลูกกล้วยของอำเภอทองผาภูมิที่แตกต่างออกไป óใช้หน่อพันธุ์สมบูรณ์ ลำต้นสูง 45-50 เซนติเมตร ใบกว้าง เนื่องจากปลูกในช่วงฤดูแล้งทำให้ทนต่อสภาพอากาศได้ดีกว่าหน่อใบแคบ óหลังจากปลูกเสร็จแล้ว จะทำการปาดยอดกล้วยเป็นรอยเฉียงตัดขวางลำต้น ทำมุมเอียง 45 องศากับลำต้น โดยให้รอยปาดด้านล่างอยู่สูงจากโคนต้นประมาณ 35 – 40 เซนติเมตร เพื่อให้กล้วยแตกใบพร้อมกันทั้งแปลง และมีอายุการเก็บเกี่ยวพร้อมกัน การดูแลรักษา การให้ปุ๋ย óใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 1 ครั้ง เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก่อนปลูกอัตรา 3-5 กิโลกรัมต่อหลุม óใส่ปุ๋ยเคมี 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 และ 2 หลังจากปลูก 3 และ 4 เดือนซึ่งเป็นระยะที่กล้วยมีการเจริญเติบโตทางลำต้น ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 หรือ 46-0-0 + 16-20-0 อัตรา125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้งต่างกับหลักวิชาการคือใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 และ 2 สูตร 20-10-10 หรือ 15-15-15 อัตรา 125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้ง หลังจากปลูก 1 และ 3 เดือน ó การให้ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 3 และ 4 จะให้ปุ๋ยเคมีภายหลังจากปลูก 5 เดือน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 8-24-24 อัตรา 125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้ง ในช่วงที่กล้วยอายุได้ 7 เดือนจะให้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 อัตรา 125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้ง จนถึงระยะที่กล้วยออกปลีจึงหยุดให้ปุ๋ย ต่างกับหลักวิชาการ คือ การให้ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 3 และ 4 จะให้ปุ๋ยเคมีภายหลังจากปลูก 5 และ 7 เดือน ซึ่งเป็นระยะที่กล้วยใกล้จะให้ผลผลิต จะให้ปุ๋ยเคมีสูตร 12-12-24, 13-13-21 หรือ 14-14-21 อัตรา 125-250 กรัมต่อต้นต่อครั้ง óวิธีการใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยเคมีโรยห่างจากต้นประมาณ 30 เซนติเมตร หรือใส่ลงในหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร 4 ด้าน แล้วพรวนดินกลบ การให้น้ำ ó
ในฤดูฝน
เมื่อฝนทิ้งช่วง
เมื่อสังเกตหน้าดินแห้งและเริ่มแตก
ควรรีบให้น้ำ ó วิธีการให้น้ำ ใช้วิธีปล่อยให้น้ำไหลเข้าไปในแปลงย่อยเป็นแปลง ๆ หรือปล่อยน้ำเข้าไปตามร่อง เมื่อดินมีความชุ่มชื้นดีแล้ว จึงให้แปลงอื่นต่อไป ó เกษตรกรบางรายใช้วิธีการให้น้ำระบบสปริงเกอร์ ซึ่งเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แต่สะดวกในการจัดการบริหารจัดการน้ำ การตัดแต่งและการดูแลต้นกล้วย การพรวนดินการพรวนดินหลังจากปลูกกล้วยไข่ ประมาณ 1 เดือน ควรรีบทำการพลิกดินให้ทั่วทั้งแปลงปลูก เพื่อให้ดินเก็บความชื้นจากน้ำฝนไว้ให้มากที่สุดและเป็นการกำจัดวัชพืชไปด้วย ขณะที่รากกล้วยยังขยายไปไม่มากนัก การพูนโคนโดยการโกยดินเข้าสุมโคนกล้วย ช่วยลดปัญหาการโค่นล้มของต้นกล้วยเมื่อมีลมแรง โดยเฉพาะต้นตอที่เกิดขึ้นระยะหลังโคนจะลอยขึ้นทำให้กล้วยโค่นล้มลงได้ง่าย การแต่งหน่อหลังจากปลูกกล้วยประมาณ 5 เดือน แต่งหน่อตามเพื่อให้ต้นแม่มีความสมบูรณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการแต่งหน่อ คือ มีดยาวปลายขอ ชาวบ้านเรียกว่า “มีดขอ” โดยปาดเฉียงตัดขวางลำต้นเอียงทำมุม 45 องศากับลำต้นโดยครั้งแรก ปาด ด้านล่างอยู่สูงจากโคนต้นประมาณ 4-5 นิ้ว หรือ 10-15 เซนติเมตร หลังจากนั้นอีกประมาณ 20-30 วัน จึงปาดหน่อครั้งที่ 2 โดยให้รอยปาดครั้งใหม่อยู่ทิศทางตรงข้าม กับรอยปาดครั้งก่อน และให้รอยปาด มุมล่างสุดครั้งใหม่อยู่สูงจากรอยปาดมุมบนครั้งก่อน 4-5 นิ้ว หรือ 10-15 เซนติเมตร หรือสูงจากโคนต้นประมาณ 20-25 เซนติเมตร ทำการแต่งหน่อเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่า จะถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะปล่อยหน่อให้เจริญเติบโตเป็นกล้วยตอต่อไป หรืออาจขุดหน่อไว้สำหรับปลูกใหม่หรือขายก็ตาม การตัดใบและการไว้ใบ ó การไว้ใบกล้วยไข่ในระยะต่าง ๆ มีผลอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโต การปฏิบัติดูแลรักษาปัญหาโรค และแมลง ตลอดจนผลผลิต และคุณภาพผล ó ในช่วงแรกระยะการเจริญเติบโต ควรไว้จำนวน 12 ใบ ถ้ามากกว่านี้ จะมีปัญหาทำให้การปฏิบัติดูแลรักษาทำได้ยากลำบาก โรคแมลงจะมากขึ้นเกิดการ แย่งแสงแดด ลำต้น จะสูงบอบบางไม่แข็งแรง เกิดการหักล้มได้ง่าย ในทางตรงข้ามถ้าจำนวนใบ มีน้อยเกินไปจะทำให้การเจริญเติบโต ไม่ดี ลำต้นไม่สมบูรณ์ ดินสูญเสียความชื้นได้เร็ว ปัญหาวัชพืชจะมากขึ้นภายหลัง ó กล้วยตกเครือ แล้วควรตัดแต่งใบออก เหลือไว้เพียงต้นละ 9 ใบ ก็พอ ถ้าเหลือใบไว้มากจะทำให้ต้นกล้วยรับน้ำหนักมาก จะทำให้เกิดการหักล้มได้ง่าย ó ระยะกล้วยมีน้ำหนักเครือ มากขึ้น และถ้าหากตัดแต่งใบออกมากเกินไป เหลือจำนวนใบไว้น้อย จะทำให้บริเวณคอเครือและผลกล้วยถูกแสงแดดเผาเป็นเหตุให้กล้วยหักพับบริเวณ คอเครือก่อนเก็บเกี่ยว และผลเสียหายไม่สามารถนำไปขายได้ การค้ำเครือ เมื่อกล้วยตกเครือจะมีน้ำหนักมาก จึงควรมีการป้องกันลำต้นหักล้ม ซึ่งกระทำได้โดยการปักหลัก ผูกยึดติดกับลำต้น การปักหลักต้องปักลงไปในดินให้แน่นทิศทางตรงข้ามกับเครือกล้วยให้แนบชิดกับลำต้นกล้วยมาก ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผูกยึดลำต้นกล้วยให้ตรึงกับไม้หลักสัก 3 ช่วง ดังนี้ คือบริเวณช่วงโคนต้น กลางต้น และคอเครือโดยใช้ปอกล้วยหรือปอฟางก็ได้ ถ้าใช้ไม้รวกสำหรับค้ำเครือควรจะนำไปแช่น้ำ 15-20 วัน เสียก่อนแล้วนำมาตากแดดให้แห้งจึงค่อยนำไปใช ้ การห่อเครือ การห่อเครือกล้วย ทำการห่อผลหลังจากตัดปลีแล้ว 3-7 วัน วัสดุที่ใช้ห่อ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือถุงปุ๋ยก็ได้ การห่อจะทำให้ผลของกล้วยมีผิวขาวนวล และใหญ่สม่ำเสมอ จำหน่ายได้ราคาดีกว่ากล้วยที่ไม่ได้ห่อเครือ (การห่อกล้วยเขตจังหวัดกำแพงเพชร)สำหรับถุงพลาสติกสีฟ้านั้นจะใช้ขนาดความกว้าง 30 นิ้ว |
สวัสดีค่ะคุณวีระศักดิ์ ดิฉันสนใจเรื่องการส่งออกกล้วยไข่ขอคำแนะนำด้วยค่ะ Email:[email protected] ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ
http://www.Sanookbet.com เรามีคาสิโนไว้บริการท่านมากมายเช่น GClub, Royal1688, Ruby888, Holiday-Palace,Genting Crown,Reddragon88,Princess Crown ซึ่งแต่ละคาสิโนออนไลน์
ได้รับความเชื่อถือด้านความซื่อตรง มั่นคงเรื่องระบบ รูปแบบเกมส์เพลิดเพลิน ตื่นเต้น เร้าใจ ทำให้ท่านได้ลุ้นระทึกทุกเกมส์การเล่นเสมือนได้เข้าไปนั่งเล่นจริงที่คาสิโนโดยท่านไม่ต้องเสียเวลา
เดินทางให้เหน็ดเหนื่อย เล่นได้โทรมาขอถอนเงินสดกับเราได้ทันที เรามีทีมงาน Call Center มืออาชีพไว้คอยบริการท่านตลอด 24 ชม.นอกจากนี้แล้วเรายังมีบริการ SportBook ออนไลน์จากหลายค่าย
ยอดนิยมไว้บริการท่าน เช่น SBOBET , IBCBET , 3M BET , STSBET , WINNINGFT
สนใจติดต่อเราที่ 080-7977773-6
Sanookbet.com
สวัสดีครับผมอยากรู้ว่าทำอย่างไรไม่ให้กล้วยลายเพราะตอนนี้สวนที่ผมทำอยู่เวลาห่อกล้วยออกมาผิวไม่สวยเลยอยากทราบว่าต้องใช้อะไรฉีดก่อนห่อหรือป่าวและเวลาห่อต้องรอให้สุดปลีแล้วจึงห่อหรือห่อตอนที่ยังไม่สุดแล้วตัดปลีที่หลัง ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับคำแนะนำดีๆๆ
สวัสดีครับผมอยากรู้ว่าทำอย่างไรไม่ให้กล้วยลายเพราะตอนนี้สวนที่ผมทำอยู่เวลาห่อกล้วยออกมาผิวไม่สวยเลยอยากทราบว่าต้องใช้อะไรฉีดก่อนห่อหรือป่าวและเวลาห่อต้องรอให้สุดปลีแล้วจึงห่อหรือห่อตอนที่ยังไม่สุดแล้วตัดปลีที่หลัง Email: [email protected]ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับคำแนะนำดีๆๆ