...ถึงแม้อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจะไม่รับรองความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับสุขภาพจิตแบบฟันธงลงไป กล่าวไปในทำนองว่า "อาจจะ" แต่เรื่องนี้ก็นับเป็นข่าวดีที่ว่า อาหารที่ดีกับร่างกายมีแนวโน้มจะดีกับสุขภาพจิตด้วย...
อาจารย์ ดร.แอนดรูว์ แม็คคอลลอช
ผู้อำนวยการมูลนิธิสุขภาพจิต สหราชอาณาจักร(หมู่เกาะอังกฤษ)กล่าวว่า
คนอังกฤษกินอาหารที่มีคุณภาพลดลงไปเรื่อยๆ
เมื่อเทียบกับ 50 ปีก่อน...
- คนอังกฤษกินผักลดลง 1 ใน 3 (34 %)
- กินปลาน้อยลง 2 ใน 3
- เทคนิคการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มที่เปลี่ยนแปลงไปมากในรอบ 30
ปีก็มีส่วนทำให้ไก่โตไวขึ้น 2 เท่า และมีไขมันเพิ่มขึ้น 2-22 %
อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารจานด่วนส่วนใหญ่มักจะมีไขมันอิ่มตัวสูง
ซึ่งส่งผลทางอ้อมให้ไขมันในเลือดหรือโคเลสเตอรอลสูงขึ้น
ท่านแนะนำว่า โรคภัยไข้เจ็บยุคใหม่หลายโรคอาจจะมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการกินอาหารดังต่อไปนี้...
-
ภาวะซึมเศร้า:
โรคซึมเศร้า
(depression) อาจมีความสัมพันธ์กับการกินปลาน้อยเกิน
โดยเฉพาะปลาทะเล ซึ่งมีน้ำมันคุณภาพดีตระกูลโอเมก้า-3
น้อย
- ตัวอย่างอาหารที่มีน้ำมันโอเมก้า-3 สูง เช่น
ปลาทะเล อาหารทะเล เมล็ดฟักทอง ฯลฯ
- โรคจิตเภท:
โรคจิตเภท (scizophrenia)
อาจมีความสัมพันธ์กับการขาดกรดไขมันจำเป็น
- กรดไขมันจำเป็นมีมากในน้ำมันปลา
และน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ฯลฯ
(ปาล์มและกะทิมีไขมันอิ่มตัวสูงมาก
จึงควรใช้แต่น้อย)
- โรคอัลไซเมอร์:
โรคสมองเสื่อมในคนสูงอายุหรืออัลไซเมอร์
(Alzheimer’s disease) อาจมีความสัมพันธ์กับการกินผักน้อย
มีการศึกษาพบว่า
การกินผักให้มากพอเป็นประจำช่วยป้องกันโรคนี้ได้
- โรคสมาธิสั้น:
โรคสมาธิสั้น (attention
deficit hyperactivity disorder) อาจมีความสัมพันธ์กับการขาดธาตุเหล็ก
และกรดไขมันจำเป็น ธาตุเหล็กมีมากในเนื้อสัตว์ เลือดสัตว์
ผักใบเขียว และงา
-
กรดไขมันจำเป็นมีมากในน้ำมันปลา น้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง
ฯลฯ (ปาล์มและกะทิมีไขมันอิ่มตัวสูงมาก
จึงควรใช้แต่น้อย)
คำแนะนำ:
ถึงแม้อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจะไม่รับรองความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับสุขภาพจิตแบบฟันธงลงไป กล่าวไปในทำนองว่า
"อาจจะ"
แต่เรื่องนี้ก็นับเป็นข่าวดีที่ว่า
อาหารที่ดีกับร่างกายมีแนวโน้มจะดีกับสุขภาพจิตด้วย
การกินข้าวกล้อง ถั่ว ปลา งา ผัก และผลไม้พอประมาณ
กินปลาทะเลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง กินข้าวทำเองที่บ้านมากขึ้นหน่อย
กินอาหารสำเร็จรูปให้น้อยหน่อย ใช้น้ำมันพืชดีๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง
น้ำมันรำข้าว ฯลฯ ลดการใช้น้ำมันปาล์มและกะทิลง
การไม่ดื่มเหล้า
การออกกำลังกาย เช่น เดินเร็วอย่างน้อยวันละ 30 นาที ฯลฯ
และการใช้แรงในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะการเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์เป็นประจำ
มาตรการเหล่านี้ดีกับร่างกายและสุขภาพจิตอย่างมากมาย
การเดินขึ้นบันไดมีความสำคัญต่อสุขภาพมาก(ถ้าแข็งแรงพอ)
เนื่องจากเป็นการออกแรงต้านน้ำหนักตัวคล้ายกับการยกน้ำหนัก
ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อขาและลำตัวท่อนล่างไม่ให้ลดลงตามอายุ
แถมยังประหยัด ไม่ต้องเสียเงินค่าสมาชิกศูนย์ออกกำลัง
กล้ามเนื้อมีการเผาผลาญอาหารเป็นพลังงานมาก
เมื่อมีมวลกล้ามเนื้อมากจะไม่อ้วนง่าย
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงเสื้อยืดหลายตัวที่พิมพ์ข้างหลังว่า
“สุขภาพดีเริ่มต้นที่ตัวเรา”...
แนะนำให้อ่าน:
แหล่งที่มา:
- ขอขอบคุณ > Mental health link to diet change. > http://news.bbc.co.uk/1/hi/health/4610070.stm
> January 16, 2006.
- ขอขอบพระคุณ >
โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี + อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT +
หน่วยรังสีกรรม > สนับสนุนทางเทคนิค +
อินเตอร์เน็ต.
- ขอขอบพระคุณ > ศูนย์มะเร็งลำปาง +
อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT +
กลุ่มงานรังสีวินิจฉัย > สนับสนุนทางเทคนิค +
อินเตอร์เน็ต.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ศูนย์มะเร็งลำปาง จัดทำ >
๑๙ มกราคม ๒๕๔๙