ได้รับรู้มาตั้งแต่เด็กว่าความมั่นคงมนุษย์(ในความหมายที่เข้าใจเอง)ก็คือการมีพร้อมซึ่งปัจจัย 4 คือ อาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย แต่ในสังคมตอนนี้ดูเหมือนจะไม่พอเสียแล้ว จะวัดว่า "มนุษย์มีความมั่นคง" อย่างไรต้องดูกันถึง 10 มิติข้างต้น ก็ไม่รู้ว่าดูอย่างไร แล้ววัดได้จริงหรือ ในแง่หนึ่งของความเชื่อ(ส่วนตัว) มิติด้านที่อยู่อาศัย การมีงานทำและรายได้ ความมั่นคงส่วนบุคคลหรือครอบครัว เป็นเรื่องภายในของตนเองว่าจะ "พอ"แค่ไหน ส่วนประเด็นอื่น ๆ เป็นเพียงบริบทที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ได้รับรู้มาตั้งแต่เด็กว่าความมั่นคงมนุษย์(ในความหมายที่เข้าใจเอง)ก็คือการมีพร้อมซึ่งปัจจัย 4 คือ อาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย แต่ในสังคมตอนนี้ดูเหมือนจะไม่พอเสียแล้ว จะวัดว่า "มนุษย์มีความมั่นคง" อย่างไรต้องดูกันถึง 10 มิติข้างต้น ก็ไม่รู้ว่าดูอย่างไร แล้ววัดได้จริงหรือ ในแง่หนึ่งของความเชื่อ(ส่วนตัว) มิติด้านที่อยู่อาศัย การมีงานทำและรายได้ ความมั่นคงส่วนบุคคลหรือครอบครัว เป็นเรื่องภายในของตนเองว่าจะ "พอ"แค่ไหน ส่วนประเด็นอื่น ๆ เป็นเพียงบริบทที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
ผมขอร่วมวง เสนอว่า น่าจะมักน้อย โดยจากระดับ หมู่บ้าน ที่อาสาสมัคร ตามหลักการที่ว่า เช่น หมู่บ้านปลอดสุรา แบบ อาสาสมัคร เพื่อวาระ 60 ปี ครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืนหมู่บ้านที่เริ่มจะแข็งแรง ให้ลองทำเรื่องที่ยากนิดหน่อย แต่มีหลายหมู่บ้านในประเทศเขาทำได้จริง ก็น่าจะลองทำดู เช่น หมู่บ้านเรา ตกลงกันว่า จะไม่ขายสุรา ได้มั้ย หมู่บ้านเรา จะลองเลิกเหล้าเข้างานศพ งานแต่ง เราจะพัฒนาสูตรเครื่องดื่มบำรุงธาตุ ประจำหมู่บ้าน แทน เช่น น้ำมะขามป้อม น้ำสมอ น้ำผลไม้อื่นๆ ตามภูมิปัญญา บรรพบุรุษ ที่กลุ่มอินแปง ได้เคยทำมา แต่ ที่อินแปง มีไวน์ผลไม้ ซึ่งถือว่าไวน์เป็นน้องชายของสุรา จึงไม่ควรส่งเสริมให้กินไวน์ แต่กินสดดีกว่า หรือ บรรจุขวดเป็นหัวเชื้อเข้มข้นผสมน้ำ
ไม่ขาดสติ ไม่เปลืองสตางค์ ได้ฟื้นคืนภูมิปัญญา ชีวิตย่อมมั่นคง ดังบรรพบุรุษไทยในอดีต
ผมมองว่า ตัวชี้วัดทั้ง 10 มิติ เป็นด้าน result
ในขณะที่ความรู้ ในการพัฒนาความมั่นคง จะเป็นด้าน how-to
การจะคิดตัวชี้วัด ต่อให้ดีขนาดไหน ก็ไม่พอ ต้องมี howto
ว่า
จะทำอย่างไรให้ได้ result เหล่านั้น ซึ่งผมเชื่อว่า KM
จะช่วย
ได้มาก และจะคอยติดตามข่าวความคืบหน้าต่อไปครับ