"เกาหลีฟีเวอร์" คำนี้กำลังระบาดอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น และอีกหลาย ๆ รุ่นในบ้านเรา ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะเห็นว่ามันเว่อร์ไปรึเปล่า...ที่คลั่งใคล้กันถึงขนาดตั้งเป็นกลุ่มแฟนคลับ คอยติดตามข่าวสาร เรื่องราวส่วนตัว ผลงานต่าง ๆ (ที่ขยันโปรโมทกันจัง) หรือแม้กระทั่งคอยประกบตามเมื่ออาตี๋อาหมวยทั้งหลายเดินทางมาทำงานที่เมืองไทย (เท-กุก)
ข้าพเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบ "โคเรียน สตาร์" ตอนแรกก็มาจากการดูหนังเรื่อง "My sassy girl" จากนั้นก็ติดตามดูซีรีส์ต่าง ๆ ที่ตามมาอีก...แน่นอนต้องเป็นเพลงเพราะ ๆ มันก็เป็นไปตามนั้นน่ะนะ ก็แผนการตลาดบันเทิงของเกาหลีเค้าเฉียบเหมือนกัน ขายได้ทั่วเอเชีย (โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น)
ตอนได้อ่านประวัติของแต่ละคนก็จะรู้ว่าส่วนใหญ่มาจากการออดิชั่นที่เคี่ยวมาก ๆ (พอ ๆ กับเมืองไทยที่ตอนนี้ ดารา นักร้องก็มากจากออดิชั่น หรือการประกวด) ผ่านการออดิชั่นปุ๊บก็ต้องเก็บตัว ซ้อม ๆๆ แล้วก็ซ้อม ก่อนที่จะมีการเดบิวต์เปิดตัวต่อสาธารณะชน บางคนก็ต้องศัลยกรรมเพื่อให้ดูดีขึ้น (เกาหลีทำได้เนียน) ...ถึงแม้จะเป็นอาชีพที่ทำเงินมากหรือทำเงินน้อยก็ตาม ก็ต้องใช้ความพยายาม ขยัน อดทน ที่สำคัญต้องมีใจรัก...
โอ๊ะ !!! อารัมภบทเยอะไปนะเนี่ย...เรื่องนี้อั๊พเดทได้อีกเยอะ .....มาเข้าเรื่องรายการทอล์กโชว์รายการนั้นดีกว่า จำชื่อรายการไม่ได้แล้ว เป็นรายการที่มีแขกรับเชิญนั่งร่วมโต๊ะกลม ๆ แล้วพิธีกรก็จะให้หัวข้อเรื่องที่จะพูดทีละหัวข้อ ถ้าใครพูดถึงเรื่องที่คนส่วนใหญ่พูดถึงมากที่สุด ก็จะได้คะแนนเยอะที่สุด...
มีอยู่หัวข้อนึง ที่ให้พูดถึงเรื่องที่ทำให้คิดถึง"ช่วงยากลำบากของชีวิต" คนที่ได้คะแนนเยอะอันดับ 1 กับ 2 เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว
...คนแรกพูดเรื่อง การย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตในอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่พ่อแม่แยกทางกัน เค้ากับน้องชายเลือกอยู่กับแม่ แต่แม่ก็ไม่สามารถเลี้ยงดูให้ลูกอยู่อย่างสบายได้ ก็เลยต้องติดต่อให้พ่อมารับไปอยู่ด้วย ความผูกพันกับแม่ทำให้เค้าต้องโทร.หาแม่ในคืนแรก แต่ไม่ได้พูดกัน เพราะต่างคนต่างร้องไห้ (น้องชายก็นอนร้องไห้อยู่บนเตียง) เเต่เพื่อน้องเค้าต้องทำตัวเข้มแข็ง ..ปัจจุบันเค้าสามารถส่งเสียน้องชายได้แล้ว...และไม่คิดที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่อเมริกาอีก...
...คนที่สองพูดเรื่อง ตอนที่ครอบครัวฐานะลำบาก ซึ่งตอนแรกเค้าไม่รู้ มารู้ตอนที่น้องจะต้องไปทัศนศึกษา แต่ไม่มีเงิน เลยไม่ได้ไป เค้าจึงคิดได้ว่าต้องหารายได้มาช่วยครอบครัว ด้วยการเก็บขวดขาย รับจ้างโปรยทรายบนหิมะ (กันลื่น)...
...ส่วนอีกคนพูดเรื่อง ที่แม่ไปลบผนังห้องที่โรงเรียนแทนเค้าทั้งคืน เค้ามารู้ตอนที่รู้ว่าแม่ไม่สบาย ทำให้เค้ารู้ว่าแม่รักและพร้อมจะทำเพื่อเค้าทุกอย่าง ตอนที่บอกแม่ว่าจะเข้าวงการ แม่ก็คัดค้าน แต่เค้าก็ยืนยันที่จะทำตามความฝันของตัวเอง แม่ก็เป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญของเค้ามาตลอด...
...ซึ่งช่วงนี้พิธีกรสรุปได้น่าประทับใจว่า "พระเจ้าไม่สามารถอยู่กับเราได้ตลอดเวลา ท่านจึงได้สร้างแม่ขึ้นมาเพื่อให้อยู่เคียงข้างเรา"...
คิดถึงประโยคหนึ่งในหนังเกาหลีเหมือนกันเรื่อง ฮันนะซัง ... สวยสั่งได้
"พระเจ้าเท่านั้นที่ทำอะไรได้หลายอย่าง แต่มนุษย์ทำได้บางอย่างเท่านั้น"
อยากรู้จังว่าคนที่ 1 2 3 เป็นใครมั่งเหรอจ๊ะ อุ๊อิ๊ เฉลยด้วยน้า หรือไม่ก็เอารายการนั้นมาให้ด้วยก็ดีนะจ๊ะ อิอิ :D
ชอบการสรุปของพิธีกรค่ะ
แม่เป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรัก และเมตตาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีอะไรเคลือบแคลง...ที่รักก็เพราะว่ารัก
ชอบไอเดียของการจัดทอล์คโชว์แบบนี้ค่ะ มันเป็นโจทย์ที่น่าสนใจดี อุ๊เอามาให้ทีม FA ดูบ้างนะ
เอ..แล้วมันเกี่ยวกับ โอ้แม่เจ้า หรือเปล่าน๊ะ ?