ในช่วงนี้ใครที่ไม่รู้จักและไม่พูดถึง KM อาจจะถูกว่า " ตกเทรนด์" แต่ใครจะรู้บ้างว่า แท้จริงมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจ มีตำราเยอะแยะมากมายที่เขียนเรื่อง KM ทฤษฎีหลายอย่างที่น่าสนใจ และเป็นองค์ความรู้ที่เราอาจมองข้ามไป
คนทำงานในองค์กร สามารถนำ KM มาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ? คำถามนี้ ควรร่วมกันหาคำตอบ แต่ตามที่เข้าใจในฐานะคนทำงาน พบว่ามีปัญหาอยู่เยอะในหน่วยงาน เป็นต้นว่า ปัญหาการสื่อสารในองค์กร ความขัดแย้งในองค์กร กระบวนการทำงานล่าช้า การใช้คนให้เหมาะกับงาน ประสิทธิภาพการทำงานหย่อนยาน ศักยภาพของบุคลากรไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ ล้วนส่งผลกระทบต่อการทำงานทั้งนั้น
การนำ KM จึงน่านำมาใช้ในการปรับปรุง พัฒนากระบวนการทำงานในองค์กร เช่น
1. แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน เมื่อมีปัญหาในการทำงาน ใช้วิธีพูดคุย หารืออย่างไม่เป็นทางการได้ ถ้าเป็นปัญหาหรือประเด็นข้อถกเถียงในงานฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ใช้วิธีคุยกันก่อนเริ่มงานในแต่ละวัน หรือตอนเย็นก่อนเลิกงาน ซึ่งจริงๆแล้ว น่าจะอยู่ในวิถีชีวิตการทำงานอยู่แล้ว ส่วนถ้าเป็นปัญหาส่วนรวม ต้องการความเห็นจากทุกฝ่าย ก็ใช้วิธีการประชุมระดมสมองร่วมกัน
2. แบ่งปันความรู้และทักษะที่มีในแต่ละบุคคล บุคลากรบางคนที่มีความสามารถและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องหนึ่งๆ อาจมีส่วนร่วมในการแบ่งปันความรู้ให้กับบุคลากรคนอื่นได้ เช่นการอบรมภายในหน่วยงาน การสอนหรือฝึกฝนตามแต่โอกาส
3. การเขียนเอกสาร บันทึกข้อมูลเป็นสถิติ คู่มือการปฏิบัติงาน ยกตัวอย่างเช่น กรณีงานทางด้านเทคนิค มักพบว่าปัญหาที่เกิดซ้ำๆ ถ้าบันทึกไว้ จะช่วยลดเวลาการแก้ไขได้มาก หรือกรณีการที่ใช้ผู้ปฏิบัติงานหลายคนเวียนเข้ามาทำงาน อาจใช้วิธีการบันทึกลงสมุด หรือมีการ Note ไว้บน Board
4. มีช่องทางการสื่อสารที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ข้อนี้ปัจจุบันมีช่องทางมาก อย่าง MSN , Blog ชุมชน น่าจะเป็นช่องทางให้ทุกคนได้ใช้แสดงความคิดเห็น และเปิดโอกาสให้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ได้ ใครจะว่า msn ไม่มีประโยชน์ ใช้ในการ chat ไร้สาระ จริงๆ น่าจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้มากกว่า
5. การตั้งชุมชน CoP ( Community of Practice ) สำหรับกลุ่มงานเฉพาะ ที่ผู้ปฏิบัติงานต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่าง ตัวอย่างเช่น Cop บรรณารักษ์วิเคราะห์หมวดหมู่ Cop นักคอมพิวเตอร์ CoP เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ที่เห็นชัดเจนและดำเนินการมานาน ก็คือ กลุ่มคณะทำงานความร่วมมือระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา ที่มีทั้งกลุ่มบรรณารักษ์วิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มบริการ กลุ่มวารสาร กลุ่มเทคโนโลยีทางการศึกษา และกลุ่มคณะทำงานข้อมูลท้องถิ่น ซึ่งได้ประชุมร่วมกันระหว่างห้องสมุดสถาบันต่างๆอยู่เสมอ เพื่อทำงานร่วมกันเรื่องต่างๆ ทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน เสนอปัญหาที่พบของแต่ละแห่ง แล้วก็จะได้ความคิดเห็นดีๆ จากเพื่อนร่วมวงการ ถ้านำแนวทางนี้มาใช้ในหน่วยงานก็น่าจะเป็นประโยชน์เช่นกัน
6. หา Best Practice ซึ่งเราอาจจะเริ่มในหน่วยงานก่อน ด้วยการหาตัวอย่างฝ่าย/งาน ที่มีลักษณะการทำงานที่ดี ที่เป็นตัวอย่างได้ หรืออาจหา Best Practice จากองค์กรอื่นที่มีลักษณะงานเดียวกันมานำเสนอ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเท่าเทียมกับเขามากขึ้น
สิ่งที่สำคัญคือ " การให้ทุกคนในองค์กร มีส่วนร่วมในการทำ KM และให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ทุกคนในองค์กร "
ทั้งนี้อาจมีวิธีการอื่นๆ หลายอย่างมาปรับให้เหมาะสมกับสภาพหน่วยงาน ซึ่งน่าจะมีผู้รู้และมีประสบการณ์หลายท่านที่ให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้น่ะค่ะ
อย่างนี้เข้าขั้น KM รึยังค่ะ เพียงแต่ไม่ได้มีวิธีการขั้นตอน นึกได้ก็บอก เจอปัญหาก็คุยกัน มีเรื่องใหม่ก็สอน ทำงานไปก็บันทึกไป นี่คือกิจวัตรประจำวันจริง ๆ ของห้องวิเคราะห์ฯ ค่ะ