ความเป็นผู้นำของคน ลักษณ์ 2 (ผู้ให้)

  ลักษณ์ 2 มีชื่อเรียกว่า ผู้ให้ บุคลิกภาพภายนอกคนลักษณ์ 2 ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีตาสวย ตามีเสน่ห์ที่สุดในคน 9 ลักษณ์ เพราะตาเป็นสื่อของใจ  คนลักษณ์ 2 ใช้พลังใจและเรื่องของภาพลักษณ์ในการดำเนินชีวิตมาก

ลักษณ์ 2 อยู่ในศูนย์ใจ พลังใจของคนลักษณ์ 2 แตกต่างจากคนลักษณ์ 3 (ซึ่งใช้พลังใจผลักดันงาน เพื่อไปสู่เป้าหมาย) แต่พลังใจของคนลักษณ์ 2 จะผลักดันให้ตัวเองเป็นคนที่มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นคนน่ารัก สำหรับคนพิเศษของตนเอง มีพลังในการทำทุกอย่างเพื่อเอาอกเอาใจคนที่ตนเองใส่ใจ

คนลักษณ์ 2 มีศักยภาพพิเศษในด้านการสัมผัสรู้ถึงความต้องการของคนอื่นอย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นเราจะพบว่า ผู้นำลักษณ์ 2 จะเป็นที่รักของคนส่วนใหญ่ แต่เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะคนลักษณ์ 2 ไม่ชอบออกมาเป็นแนวหน้า หรือผู้นำที่โดดเด่น

ในใจลึกๆ ของผู้นำลักษณ์ 2 คือ “ฉันมีความสุขที่จะอยู่เบื้องหลัง” เราจึงพบว่าคนลักษณ์ 2 จะเป็น ภรรยาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสามี (หรือสามีที่อยู่เบื้องหลังสุภาพสตรีนักธุรกิจใหญ่)หรือ เป็นเลขาฯ ที่คอยสนับสนุนเจ้านาย มากกว่าที่จะออกมาแสดงบทบาทผู้นำด้วยตนเอง

สุภาพสตรีสูงวัยเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์หลายแห่งในจังหวัดอ่างทอง และกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เธอรู้สึกคับข้องใจเสมอเมื่อต้องออกมาเป็นแนวหน้า เมี่อธุรกิจของครอบครัวขยายกิจการ จนเธอต้องแบ่งส่วนมารับผิดชอบเต็ม เธอรู้สึกว่าอึดอัดที่จะต้องสนองตอบความต้องการลูกค้าไปในขณะเดียวกันกับการที่จะต้องเอาอกเอาใจลูกน้อง เธอบอกว่าความสุขเมื่อทำงานเบื้องหลังให้สามีก้าวหน้าในธุรกิจมันหายไปหมดเมื่อต้องมาอยู่เบื้องหน้าด้วยตนเอง ส่วนผู้บริหารท่านหนึ่งในกรมชลประทาน กล่าวว่า ในอดีตรู้สึกอึดอัดใจกับการเอาใจหัวหน้าและลูกน้อไปพร้อมๆกันมาก แต่เมื่อมาพบพระบรมราโชวาท เรื่องการปิดทองหลังพระ จึงขอเปลี่ยนแปลงหน้าที่มาทำงานฝึกอบรม ซึ่งเหมือนเป็นงานเบื้องหลังช่วยพัฒนาคนในองค์กร จึงรู้สึกสบายใจได้ปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระ 

ถ้าผู้นำลักษณ์ 2 ที่รู้ตัว (รู้จุดแข็ง จุดอ่อน และกลไกการทำงานทางจิตของตนเอง) จะเป็นผู้นำที่เน้นสัมพันธ์ภาพ และเป็นผู้นำที่ “เน้นคน” มากกว่า “เน้นงาน” ซึ่งสอดคลัองกับแนวคิด Servant Leadership ของ Robert Greenleaf ซึ่งเป็นสไตล์ความเป็นผุ้นำที่เริ่มจากความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติที่พร้อมจะให้บริการ ยินดีรับฟังทุกปัญหาของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าใจความรู้สึกทั้งของตนเองและผู้อื่น สร้างพันธะผูกพันกับตนเองในการที่จะพัฒนาทีมงาน

ผู้นำลักษณะนี้ลูกน้อง หรือผู้ร่วมธุรกิจมักจะรู้สึกดีด้วย รู้สึกอบอุ่นกับสัมพันธภาพที่ได้รับจากผู้นำลักษณ์ 2 ที่เหมือนรู้ใจไปซะทุกอย่าง ตอบสนองความต้องการของทุกฝ่ายได้อย่างตรงจุด เป็นผู้ให้บริการที่ยิ้มแย้มแจ่มใส การให้บริการนั้นออกมาจากใจ และสร้างความประทับใจเป็นเยี่ยม

แต่ถ้าผู้นำลักษณ์ 2 ที่ยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ จะพบปัญหาใหญ่ ที่ลูกน้องไม่สามารถทำให้ตนเองได้อย่างใจ ก็จะโมโหร้าย มีพฤติกรรมในทำนองสั่งการ และควบคุม (คนลักษณ์ 2 ในภาวะเครียดจะวิ่งไปใช้บุคลิกภาพของคนลักษณ์ 8 ซึ่งก้าวร้าว รุนแรง โมโหง่าย) แล้วคน 2 ก็จะต้องเผชิญกับอารมณ์ความรู้สึกที่ว่า ตัวเองไม่น่ารัก ไม่เป็นที่ต้องการ ก็เป็นทุกข์ในรูปแบบของผู้นำลักษณ์ 2 ที่อยากเป็นที่รักของคนที่ตนเองคิดว่าพิเศษ หรือสำคัญ ที่ต้องการชนะใจ นั่นเป็นจุดอ่อนของผู้นำลักษณ์ 2 ที่ต้องมีสติมองตัวเองให้ทัน มิเช่นนั้นจะหลงอยู่ในวัฎจักรของความทุกข์ไม่สิ้นสุด ซึ่งเรามักพบว่า คนลักษณ์ 2 มักเลือกที่จะทำงานเบื้องหลังให้กับคนพิเศษของตัวเองมากกว่า

 จุดอ่อนสำคัญอีกประการหนึ่งของผู้นำลักษณ์ 2 คือ ความรู้สึกทนไม่ได้กับการได้รับการปฏิเสธสิ่งที่ตนกระทำให้คนอื่น ถ้าเขามองไม่เห็นหรือไม่สนใจสิ่งที่ผู้นำลักษณ์ 2 ได้พิถีพิถันทำให้ หรือให้บริการ สิ่งที่ตามมาคือ อารมณ์ที่รุนแรง ผู้คนก็จะเกิดอาการงง รับไม่ได้ที่ผุ้นำที่เคยน่ารักมีอาการเปลี่ยนไป โดยไม่ทราบสาเหตุ และคนลักษณ์ 2 เองก็มักจะไม่บอกสาเหตุที่แท้จริงของความโกรธดังกล่าวเสียด้วย 

และจุดอ่อนอีกประการหนึ่งที่ผู้นำลักษณ์ 2 จะต้องฝึกที่จะกระทำคือ การบอกความต้องการของตนเองอย่างตรงไปตรงมา และดูแลตนเอง หรือกล้าที่จะบอกให้คนอื่นหรือเปิดโอกาสให้คนอื่นดูแลตนเอง

ผู้บริหารหญิงท่านหนึ่งของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในการที่ตนเองเป็นลูกที่น่ารักของแม่ เป็นนายที่อบอุ่นกับลูกน้อง คอยดูแล เอาใจใส่ ดูแลยามเจ็บป่วยของทุกคนรอบข้าง และยอมรับว่าภาระดังกล่าวเหน็ดเหนื่อยมากสำหรับตนเอง แต่ก็มีความสุข เมื่อเห็นทุกคนมีความสุข โดยลึกๆ แล้วมองเห็นว่าภาพลักษณ์ที่ตนเองสร้างไว้ในใจ ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว คือ ทุกคนที่เกี่ยวข้องล้วนชื่นชมและกล่าวว่าเธอเป็นคนที่น่ารัก แต่เมื่อวิทยากรถามว่า แล้วในสถานการณ์ที่ตนเองเจ็บป่วยมีใครมาดูแลบ้าง ... อย่างไม่คาดฝัน เธอร้องให้ออกมาอย่างรุนแรง เพราะเมื่อใดที่เธอเจ็บป่วย เธอไม่กล้าแม้จะบอกใครสักคน เก็บมันไว้ในใจ ดูแลตนเอง สงสารตัวเอง

ในทางนพลักษณ์ กรณีข้างต้นชี้ให้เห็นถึงกิเลส ของคนลักษณ์ 2 ที่เรียกว่า “การถือตัว” คือเมื่อคิดว่าตนเองเป็นผู้ให้ จึงเป็นความรู้สึกที่ยากมากๆ ที่จะเอ่ยปาก “ขอความช่วยเหลือ” จากใคร คนลักษณ์อื่นๆ ทำเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับคนลักษณ์ 2 คือสิ่งที่ยากมาก ถึงยากที่สุด และเก็บภาวะอย่างนี้ไว้ตลอดชีวิต จนกว่าจะรู้จักตัวเองดีพอ และพยายามฝึกที่จะกระทำการเอ่ยปากบอกความต้องการของตนเอง และรู้จักที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

เมื่อคน 2 เป็นผู้นำ ลักษณะของการ “ถือตัว” ทำให้คน 2 สามารถทำทุกอย่าง ที่อ้อม ไม่ตรงไปตรงมา เพื่อที่จะไม่ต้อง “ขอ” ซึ่งก็แปรเปลี่ยนไปแล้วแต่ละคน บางคนหาทางออกให้ตนเองโดยการใช้วิธี “สั่งการ” บางคนเลือกที่จะ “ใช้เล่ห์กลหลอกล่อ” หรือ “ยืมมือคนอื่นพูดหรือทำ” หรือ “หว่านเสน่ห์” ฯลฯ

ดังนั้นสิ่งที่ผู้นำลักษณ์ 2 ต้องพยายามตั้งสติให้มั่น มองให้ออกถึงภาวะ “มารร้ายในคราบนักบุญ” ของตนเอง ว่าลึกๆ แล้วการให้นั้นมีเบื้องหลังหรือไม่ หรือการให้ การบริการนั้นเป็นไปโดยบริสุทธิ์ใจจริง

 

 ข้อความที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นผู้นำของคน 9 ลักษณ์  http://gotoknow.org/blog/nujjin/121322

ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 9   http://gotoknow.org/blog/nujjin/121569

ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์  8 http://gotoknow.org/blog/nujjin/122504

ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 1 http://gotoknow.org/blog/nujjin/122771

ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 3 http://gotoknow.org/blog/nujjin/123139