ผมเพิ่งไปสตึกมาเพื่อถ่ายทำสารคดีชีวิตคุณจรัญ เทพพิทักษ์ ที่ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อได้เข้าเป็นนักศึกษาโครงการ ม.ชีวิต
คุณจรัญ เทพพิทักษ์ และภรรยาขณะขายอาหารที่ตลาดสตึก
คุณจรัญจบ ม.ศ.๓ ขณะเป็นสามเณร สอบได้นักธรรมโทด้วย เมื่อจบ
ม.ศ.๕ (เทียบเท่า ม.๖ สมัยนี้) แล้วก็จากบ้านเกิดในอีสานเข้าเผชิญภัยใน กทม. รับจ้างทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ จนอายุ ๔๐ กว่า ตัดสินใจกลับอีสานบ้านเฮากับภรรยาโดยมีเงินสดเหลือแค่ค่ารถประจำทาง สมบัติชิ้นสุดท้ายที่ภรรยามีอยู่คือสร้อยทอง ๑ เส้น ขายไปได้เงินมาแปดพันบาทซื้อรถเข็นคันหนึ่งพร้อมอุปกรณ์ทำสัมตำและอาหารอีสานเข็นขายไปตามถนนในตัวอำเภอสตึก โดยเช่าบ้าน(โทรมๆ)หลังหนึ่งที่หลังคารั่วเดือนละ ๘๐๐ บาท (เจ้าของให้ซ่อมหลังคาเองแลกกับการลดค่าเช่าให้๒๐๐ บาท) และได้อยู่อาศัยและเป็นที่เตรียมอาหารจนถึงทุกวันนี้
ต่อมาเข็นรถไปปักหลักขายอยู่ที่ตลาดสดเทศบาลสตึก และสมัครเข้าเรียนในโครงการ ม.ชีวิต ศรร.สตึก สังกัด มรภ.สุรินทร์ การเรียนทำให้คุณจรัญเกิดการ"รู้คิด" ทบทวนชีวิตตัวเอง จากที่ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่เคยมีเงินออม เพราะตกเย็นได้เงินมาก็ใช้จ่าย ไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วก็กินเหล้าทุกวันทั้งภรรยาก็กินด้วย บางวันก็กินที่บ้าน บางวันก็ออกไปกินที่ร้านขายเหล้า แล้วก็ตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมอาหารสำหรับเข็นออกไปขายในวันต่อไป
เมื่อได้มาเรียนคุณจรัญเลิกกินเหล้าเริ่มทำบัญชีครัวเรือน เริ่มตั้งเป้าหมายชีวิต เริ่มวางแผนงบประมาณครอบครัว เริ่มแผนการออม ตามวิชาความรู้ที่ได้เล่าเรียนในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต
คุณจรัญทำโครงงานออมทรัพย์ในวิชา สปช. (ที่เจ้าตัวบอกว่าภูมิใจมากและเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงในชีวิต) วางแผนสะสมเงินที่ได้จากกำไรและจากการลดละเลิกอบายมุขต่างๆ ทุกวันอย่างจริงจัง แม้ผ่านภาคเรียนที่ ๒/๒๕๔๙ ไปแล้วก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง จนได้เห็น "เงินหมื่น" ครั้งแรกในชีวิต(ภรรยาคุณจรัลบอก) และต่อมาเพียงปีกว่าๆ กลายเป็นเงินแสน ยิ่งเห็นเงินออมเพิ่มพูนก็ยิ่งอยากออมมากขึ้นอีก
เมื่อคุณจรัญได้เรียนวิชาเกษตรกรรมยั่งยืน ได้ไปดูงานและเข้าอบรมเกี่ยวกับเกษตรกรรมธรรมชาติที่บ้านพ่อคำเดื่อง ภาษี (ปราชญ์ชาวบ้าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์) รู้สึกชอบมาก และตั้งใจจะกลับสู่รากเหง้าตัวเองที่บรรพบุรุษเป็นชาวนา (พ่อแม่คุณจรัญเป็นชาวนารับจ้าง เพราะไม่ที่นาของตัวเอง)
คุณจรัญฝันที่จะมีที่ดินสักแปลงและทำเกษตรธรรมชาติอย่าง
พ่อคำเดื่อง ภาษี บัดนี้ฝันนั้นใกล้เป็นจริงเมื่อเงินที่ออมมาอย่างต่อเนื่องนับแต่เข้าเป็นนักศึกษา วันละหลายร้อยบาทจากการเข็นรถขายอาหารอิสาน (วันที่ขายดีก็ออมมาก ขายไม่ดีก็ออมน้อย) จนเมื่อเร็วๆ นี้สามารถซื้อที่นาได้แปลงหนึ่ง
นี่เป็นที่ดินแปลงแรกในชีวิตของคุณจรัญ
ทั้งคุณจรัญและภรรยาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าวันหนึ่งจะสามารถมีที่ดินเป็นของตนเอง
ทุกวันนี้สมองของคุณจรัลวนเวียนอยู่กับการวางแผน
จัดการที่ดินแปลงนี้ บนกระดานที่ฝาบ้านคุณจรัญได้ใช้ถ่านเขียนบรรยายแผนการของตัวเองให้ภรรยาฟังว่าจะแบ่งพื้นที่อย่างไร ตรงไหนจะปลูกบ้าน ตรงไหนจะปลูกไม้ยืนต้น ตรงไหนจะเลี้ยงปลา ตรงไหนจะปลูกผัก ตรงไหนจะทำนา ฯลฯ
คุณจรัญเขียนแผนจัดการที่ดินเกษตรกรรมธรรมชาติด้วยถ่านบนแผ่นไม้กระดาน
ผมเชื่อว่า อีกไม่ถึง ๒ ปี เราจะได้เห็นลูกชาวนาที่เป็นบัณฑิต หิ้วปริญญาไปทำนาตามฝันของเขา!!!
ในสังคมเรามีแต่คนพยายามเรียนหนังสือเพื่อจะได้พ้นจากการเป็นชาวนา เพื่อจะได้ "ทิ้งถิ่น" ไปหารับจ้างหรือรับราชการ แต่ขณะนี้กำลังมีปรากฏการณ์ใหม่ของการศึกษาที่ทำให้คนภูมิใจในรากเหง้าของตน สามารถอยู่ในท้องถิ่นได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีกิน เป็นเกษตรกรที่ใช้อีเมล์ใช้อินเทอร์เน็ตสื่อสารกับโลกกว้างได้
เป็นเกษตรกรที่มีทั้ง "ปัญญา" และ "ปริญญา"!!!
หวัดดีครับ เชษฐ์
ชีวิตนี้อยากเป็นอะไร อย่างไร สร้างได้ด้วยมือเรา
ขอชื่นชมค่ะ เพราะตัวเองก็เป็นลูกชาวนา หิ้วปริญญาไปทำนา(สอนเด็ก)จนทุกวันนี้
คุณ ขจิต ฝอยทอง
คุณจรัญขายอาหารอิสาน(ดังภาพ)ที่ตลาดสดเทศบาลสตึกครับ ถนนด้านหลังที่เป็นร้านขายส่งน้ำแข็ง จะขายตั้งแต่เช้ามืดตีสี่ตีห้าจนถึงประมาณ ๘-๙ โมงเช้า (หรือจนกว่าจะขายหมด)
ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ ๙ โมงเช้า คุณจรัญจะไปพบกลุ่มเรียนในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ในสังกัด มรภ.สุรินทร์ ซึ่งใช้โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย (เลยสำนักงานเทศบาลสตึกไปประมาณครึ่งกิโล) ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อ อ.ฉัตรชัย ฑีรฆวณิช เป็นผู้อำนวยการเรียนรู้ประจำศูนย์เรียนรู้ของโครงการที่นั่นครับ ถ้า ผอ.ฉัตรชัยไม่อยู่ ถาม อ.ไทยรัฐ ก็ได้ครับ อ.ไทยรัฐเป็นเลขาฯโครงการ
สนใจอยากแนะนำให้ชาวบ้านในพื้นที่ทำงานได้เป็นนักศึกษาในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตบ้าง ต้องทำอย่างไรบ้างคะ และมีรายละเอียดการเรียนการสอนอย่างไรบ้างคะ รบกวนอาจารย์แนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับตัวอย่างดีๆ ของพี่จรัญ ที่อาจารย์นำมาแบ่งปัน
ไม่ทราบคุณ pilgrim อยู่ภาคไหนและจังหวัดไหน หากอยู่ที่เชียงใหม่ก็ติดต่อ คุณศรีเพ็ญ ชัยฉกรรจ์ องค์การบริหารส่วนตำบลสันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หากอยู่เชียงราย ติดต่อคุณณัฐวุฒิ นายก อบต.พญาเม็งราย อ.พญาเม็งราย
หรือดูใน www.rulife.net ก็ได้ครับ
ขอดูเว็บไซต์คุณจรัญ เทพพิทักษ์
เรียนอาจารย์สุราเชษฐ ที่เคารพ
ผมอาจารย์สุพจน์ บุญศิริชัยและอาจารย์ปรีชา ศูนย์เรียนรู้บ้านนาสาร ได้ติดตามข่าวความคืบหน้าของโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตในอินเตอเน็ต ปรากฏว่าได้เข้าไปพบข้อมูลในการแต่งตั้งคณะอาจารย์ผู้สอนโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตราชภัฏชัยภูมิ ลงวันที่ 15 กุมภาพนธ์ 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งผมเองมีความสงสัยว่าในเมื่อโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตของ สสวช. ดำเนินการอยู่ มันอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการขออนุญาติ แล้วทำไมราชภัฏชัยภูมิจึงมีคำสั่งแต่งตั้งอาจารย์ผู้สอนในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิตราชภัฏชัยภูมิได้ ผมรบกวนอาจารย์สุรเชษฐ ช่วยให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร ผมสงสัย
ขอแสดงความนับถือ
ศูนย์เรียนรู้บ้านนาสาร
ก่อนที่ สสวช.จะยื่นขออนุมัติจัดตั้งสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน ตั้งแต่ปี 2549 สสวช.ได้ร่วมมือกับ 8 มหาวิทยาลัยเพื่อโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต (สาขาสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น) ทั้ง 8 มหาวิทยาลัย รวมทั้ง มรภ.ชัยภูมิ จึงมีคำสั่งแต่งตั้งอาจารย์ที่สอนในโครงการนี้ทุกภาคการศึกษา โดย สสวช.มีนโยบายว่าจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเหล่านี้ต่อไปตราบเท่าที่เขายังยินดีร่วมมือกันอยู่