ในโลกของความเป็นจริงมีสิ่งนี้ปรากฏอยู่เพียงแต่นำชื่อจริงออกมาปรากฏไม่ได้คงทำได้แต่เป็นตัวสมมุติเท่านั้นครับ คือยูมิได้ฟังเรื่องเล่าจากปาก ดร. พัฒนา กิติอาษา ( คนหนองคาย ) เป็นอาจารย์สอนรับเชิญ ( Visiting Fellow ) มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
ทำให้ผมได้มุมมองว่า แต่ก่อนนี้คนที่จะเดินทางไปต่างประเทศมักจะเป็นคนชั้นกลางขึ้นไป ในปัจจุบันชาวบ้านธรรมดา ๆ ต่างไปเมืองนอกกันเป็นว่าเล่นเลย เชยจังเราพึ่งรู้ คือว่า
ในยุคโลกาภิวัตน์นี้อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอเพื่อปากท้องของตนเองจึงเกิดการดิ้นรนต่อสู้ปากกัดตีนถีบเห็นเพื่อนบ้านไปแล้วกลับมารวยกูเอาบ้างจะเป็นไรไป ในสิงคโปร์มีแรงงานอีสานเป็นส่วนใหญ่ไปทำท่อน้ำขุดร่องน้ำตามไหล่เขาไปสร้างแฟลตพอวันเสาร์อาทิตย์...
คนงานเหล่านี้มารวมตัวกันอยู่ในแหล่งเดียวกันที่โกลเดนไมล์จนกลายไปเมืองไทยน้อย ๆ ประมาณ 40000 คน การมีสวนสาธารณะริมทะเลกัลลัง ( Kallang Riverside Park ) เป็นที่พบปะกันจนทางการเขียนป้ายห้ามทิ้งขยะ เป็นอักษรไทย ( เว้าลาวกันทั่วเมือง )...
และกิจกรรมต่าง ๆก็เกิดขึ้นอย่างน่าสนใจยิ่ง...เช่นนั่งอยู่ในสวนนี้จะมีแม่ค้ามาขายของกินบ้างของหนีภาษีบ้าง จากการเชิญของชายหนุ่มเหล้าขาวจากภูเรือขอนแก่นชื่อไก่ให้อาจารย์พัฒนาไปดูว่า...มีเมิดสูอย่างสิเบิ่งไหวบ่อ...เช่น
แม่ค้าบางคนพาผู้หญิงขายบริการทางเพศเข้ามาเร่ขายพวกนี้ไปมาจากหาดใหญ่เป็นว่าเล่น...มีการนำสินค้าต้องห้าม ยาเสพติด ฯลฯ และแง่ศาสนาก็มีการทำผ้าป่าสามัคคีเพื่อกลับไทยไปทอดที่บ้านเกิดด้วยนะจะบอกให้...ฮา ๆ เอิก ๆ .
ไม่มีความเห็น