การจัดการความรู้ กับ ปัญหางูกินหาง


 สวัสดีครับทุกท่าน

      ผมเอาบทความเห็นที่เคยไปโพสต์ในบทความ เรา " ซื้อ - เชื่อ - ลืม " ได้ง่ายๆ ? ของคุณเบิร์ด มาฝากครับ


 P

สวัสดีครับคุณเบิร์ด

 มีรูปมาฝากครับ

จากภาพ หรือ งูกินหาง  มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ

  • งูทำตัวคต ไม่ซื่อ ไม่ตรง

  • งูอ้าปากเพื่อสอดหางเข้าไปในปาก

  • งูจะอ้าปากกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่ออ้าปากกว้างมากก็จะกินหางเข้าไปได้มากและลึก จนกว่าปากจะอ้าไม่ได้แล้วครับ

  • ในรูปจะเห็นเป็นวงกลม หรือตัวเลขศูนย์

ปัญหางูกินหาง มีวิธีการแก้ดังต่อไปนี้ครับ

  • งูต้องคายหางตัวเองออกมาทีละนิด

  • งู ต้องยืดตัวให้ค่อยๆ ตรงๆ ออกมาเรื่อยๆ ไม่ทำตัวคด(โกง) ทำตัวให้ซื่อ(ตรง) หรือ ทำตัวให้ตรง เมื่อทำตัวให้ตรง หางกับปากจะไม่มีวันเจอกันครับ

  • เมื่อ งูทำตัว ซื่อตรง ไม่คด(โกง) แล้ว จากที่เคยเป็นเลขศูนย์ ก็จะกลายเป็นเลข หนึ่งครับ นั่นคือสามารถเดินต่อไปได้ ด้วยความเป็นหนึ่ง ทุกๆ ปล้องข้อง ก็เดินไปด้วยกันได้ มุ่งไปข้างหน้า ไม่ขดกองอยู่เหมือนงูกินหางครับ

  • ต่อมา งูต้องปิดปาก แล้วก็ทำ ทำ ทำ แล้ว ก็คิด คิด คิด แล้ว ก็ทำ ทำ ทำ ทำ คิดและทำ ด้วยปัญญา เน้นว่าปัญญานะครับ 

  • ปิดปากแล้วแม้ว่าวันหนึ่งจะทำตัวคดอีกครั้ง ปากไม่เปิด ยังไงก็ไม่กินครับ แม้จะเจอหางก็จะไม่กินครับ

  • อื่นๆ คิดกันต่อนะครับ

สำหรับปัญหาขายสมอง อันนี้ค่อยมาต่อยอดนะครับ 

ขอบพระคุณมากครับ

เม้งครับ



และได้พูดคุยกับท่านอาจารย์แสวง ครับ ตามบทความนี้ครับ ปัญหางูกินหางในการจัดการความรู้และการพัฒนา (2)

ท่านอาจารย์เลยยกปัญหา "ที่เขาไม่คิด เพราะเขาไม่รู้ ที่เขาไม่รู้เพราะเขาไม่คิด วนอยู่อย่างนี้แหละครับ"

คราวนี้ผมของเริ่มขอคิดดูนะครับตามแนวทางดังต่อไปนี้ มีความเห็นอย่างไร ก็แสดงความเห็นกันนะครับ

  • ไม่รู้  เพราะไม่คิด

  • ไม่คิด เพราะไม่รู้ 

  • มองแล้วเหมือนไข่กับไก่เลยนะครับ

  • เรื่อง รู้ กับ เรื่องคิด

  • อาจจะต้องจับที่ตรงไหนซักที่จะได้ไหมครับ

  • โดยเริ่มจาก ที่ไม่คิด ให้คิดก่อน (เปรียบเสมือนการอ้าปากเพื่อคายหางงูออก)

  • เมื่อได้เริ่มคิด ก็จะเริ่มรู้ลางๆ จากตัวที่ขดเป็นวงกลม ก็ค่อยๆ คลายออก

  • คิดไปมากๆ ก็รู้เพิ่มขึ้น ใช้เหตุผลมากขึ้น แล้วพอรู้ก็คิดต่อ หางก็ค่อยๆ คลายออกมา

  • จนในที่สุดก็เปลี่ยนเป็น รู้เพราะคิด คิดเพราะรู้ กลายเป็นงูกินหางไปในทางบวกไปเลย อิๆๆๆ งูกินหางในทางบวกนี้คงไม่ต้องแก้ใช่ไหมครับ

  • หรือว่าจะเริ่มที่ รู้ก่อน โดยขอความรู้จากคนอื่นมาเป็นต้นทุน แล้วเอามาคิดต่อยอด แล้วเอาไปสร้างรู้เพิ่ม แล้วเอามาคิดต่อ จนกว่าจะได้ งูกินหางในทางบวกอีกเช่นกันครับ

  • หรืออื่นๆ.....เชิญคุณบรรเลง

คุณคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมครับ โดยประยุกต์แนวทางด้านบน ทางแนวคิดการแก้ไขงูกินหาง มีความเห็นอย่างไรฝากไว้นะครับ

ปัญหาต่อมาคือ จะสร้างแรงจูงใจอย่างไรให้มีการเริ่มที่จะคิด เรามองว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหาหรือไม่ หากไม่เห็นว่าเป็นปัญหาแนวทางงูกินหางก็จะยังวนเวียน แต่หากเรามีการสร้างแรงกระตุ้น แรงจูงใจ มีการสะกิด ให้รับรู้ว่านั่นคือ ปัญหา สร้างสภาพแวดล้อมให้มีการรับรู้ เป็นปัจจัยเือื้อ กับปัจจัยเสริม ทำงานร่วมกันเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด

การรู้เขา รู้เรา ก็เป็นแนวทางหนึ่ง งูเองก็ยังแพ้เชือกกล้วยก็ได้ เชือกกล้วยมีทั้งอ่อนทั้งเหนียว อาจจะมีบทบาทเอื้อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของงูได้  หากเราสามารถครองใจงูได้ ก็น่าจะเป็นการครองทั้งปวงของงูก็ได้นะครับ ดังนั้น คุณเือื้อ กับ คุณเสริม คุณอ่อน คุณเหนียว คุณกระตุ้น คุณสะกิด คุณจูงใจ คุณวางใจ คุณยอมรับ หากมีคุณเหล่าๆ นี้อาจจะนำไปสู่การเปลียนแปลงก็ได้นะครับ 

ขอบคุณมากครับ

เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ 

หมายเลขบันทึก: 120692เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2007 22:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 12:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

     ...อยากคิด อยากเขียน นะค่ะ ท่านพี่เม้ง..

     ... พอมาเจอ ง.งู งี้ ตกใจ ความคิดหดหาย เหมือนงูโดนกินหางเรย  ^_^

                            "JasmiN"

     ...wowww...

     ...I'm  the  first  queue....

     ...Yeahhhhhhh...

เรียน คุณเม้ง

ผมมากับพระครับ ท่านมหาชัยวุธ ท่านให้ผมใช้ตะถะตา แต่ผมเก็บไว้ก่อนครับ วันนี้ขอใช้อริยสัจ 4 ก่อน ตามแนวของเครือข่ายปราชญ์ ที่มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย

ลองดูนะครับ ว่า วิธีไหนจะ work กว่ากัน ขอบคุณครับ เย็นนี้จะคุยใหม่ครับ

 เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ --------->

ตามรอยมาชม...

อ่านแล้ว รู้สึกมึน... ขอสงวนความเห็นในรอบแรก...

เจริญพร 

P
"JasmiN"

 

สวัสดีครับน้องมะลิ

  •  ขอโทษด้วยครับ ที่ทำให้ตกใจครับ
  • คิดๆ ดูแล้วมาถกกันต่อนะครับ หลังจากหายตกใจแล้วนะครับผม
  • ขอบคุณมากๆ นะครับผม
P
ดร. แสวง รวยสูงเนิน

 

สวัสดีครับท่านอาจารย์แสวง

  •  มีทางเข้า ก็น่าจะมีทางออกนะครับ ใช่ไหมครับ
  • อริยสัจ 4 เองก็เป็นหนทางแห่งการดับทุกข์ ใช่ไหมครับ ปัญหาคือ ดับทุกข์ในระดับไหน
  • ดับในระดับตนได้ จะดับในระดับระบบได้หรือไม่ ก็ต้องช่วยกันคิดต่อครับ เพราะงูกินหางเป็นระบบ ที่เริ่มตั้งแต่ตัวเราเช่นกันใช่ไหมครับ
  • ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ งานนี้คงต้องมั่วกันอย่างมีเหตุผลครับผม
  • ท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
P
BM.chaiwut

 

กราบนมัสการหลวงพี่ ครับ

  • กราบขอบพระคุณครับ รบกวนหลวงพี่ช่วยอธิบายในส่วนที่สงสัย ด้วยนะครับ
  • เพราะเดี๋ยวผมจะขออนุญาตมึนไปด้วยนะครับ
  • กราบขอบพระคุณครับผม
P
ทำนองว่า อ่านแล้วไม่เข้าใจทันที ก็เลยไม่อยากจะคิดนะ เช่นเรื่องไก่กับไข่ ... หลังจากกลับไปอ่านใหม่ ก็คงจะหมายว่า อะไรเกิดก่อน กลายเป็นปัญหาขึ้นมา (เดาเอานะ) ประมาณนี้
อีกอย่างหนึ่ง ขี้เกียจคิดนะ (บอกตรงๆ)
ตอนนี้มีแว๊บขึ้นมาว่า คงจะคล้ายๆ กับหลวงพี่ว่าหนังสือเล่มนี้น่าสนใจมาก จึงเอาไปให้เพื่อนบางรูปอ่าน (เขาเป็นหนอนหนังสือ) แต่เขาก็ไม่อ่าน... ประมาณนี้
นั่นคือ บางประเด็นที่เราเห็นว่าสำคัญมีสาระ แต่บางคนเขาก็อาจมองว่าไร้สาระก็ได้....
เจริญพร
P
BM.chaiwut

 

กราบนมัสการหลวงพี่ครับ

  • กราบขอบพระุุคุณมากครับ
  • เหมือนกับตัวอย่างเปี๊ยบเลยครับ ขี้เกียจคิด แต่หลวงพี่รู้นะครับ ว่าทำไมขี้เกียจคิด ดังนั้น จึงไม่เหมือนกับตัวอย่างครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ

เมื่อเข้าไปแล้วไม่มีทางออกก็ต้องออกทางเข้าซิคับ

สวัสดีครับคุณเด่น โต๊ะมกรา

    ยินดีต้อนรับนะครับ ขอบคุณมากครับ เข้าทางไหนออกทางนั้นครับ ตามหลักควรเป็นแบบนั้นครับ

    มีกรณีหนึ่งน่าสนใจครัีบ อย่างปลาเข้าไซดักปลานะครับ ทางเข้าเป็นทางที่ออกไม่ได้ครับ เราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรครับ คิดเล่นๆ นะครับ

ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท