ว่าด้วยเรื่อง สุข ทุกข์ เศร้า เหงา ของปุถุชนทั้งหลาย
"สุข" ทุกคนอยากได้ใคร่มี ไม่มีใครปฏิเสธ แต่สุขนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน
เวลามีสุขจึงไม่ควรหลงระเริง แบ่งปันให้คนรอบข้างได้รับบ้าง
เพื่อเราจะได้มีสุขยิ่งกว่าในฐานะ "ผู้ให้"
"ทุกข์" ทุกคนไม่ยินดีรับมันไว้ แต่ปฏิเสธมันก็ไม่ได้ เมื่อทุกข์ มาเยี่ยมกราย ตั้งสติไว้หาเหตุแห่งทุกข์นั้น แล้วใช้ปัญญาจัดการ เพราะไม่มีใครจะทุกข์ได้นาน พอกับสุข แต่ไม่ต้องแบ่งปันให้กับใครมาร่วมรับนะคะ เพราะทุกข์เกิดจากตัวเราเอง
"เศร้า" จากความทุกข์ที่ได้รับโดยตัวของเราเอง หากรับรู้เหตุแห่งทุกข์ ที่ทำให้เศร้า ก็อย่าเศร้ากับมันมากมายนัก เพราะเรายังต้องเดินต่อไปในสังเวียนชีวิต อย่าให้ความเศร้าหมองติดอยู่จนไม่เป็นอันทำสิ่งใด
"เหงา" เมื่อเศร้า ก็เกิดเหงาตามมา เพราะเราพยายามหลีกลี้จากผู้คน เพื่ออยู่ลำพัง เหมือนเรากักขังตัวเองไว้ในมุมมืด เดินออกมาเถิด มามองดูผู้คน อย่างน้อยก็มี "แม่" มี "พี่น้อง" ให้เราได้พูดคุย รับรู้ อย่าลืมว่าเรามิได้อยู่เพียงลำพัง อย่าให้วัฏจักรแห่ง สุข ทุกข์ เศร้า เหงา มากำหนดให้เราหยุดนิ่งอยู่กับมัน มาสร้างสุขถาวรไปกับสัจจธรรมของพุทธองค์กันเถิด "สุข" อันเกิดจากการให้ การแบ่งปัน การอภัย การไม่ยึดติด มีชีวิตอยู่ในวันนี้ให้ดีที่สุด เพียงจดจำไว้ว่า "กฎแห่งกรรม ใครทำใครได้ " กรรมดี ดีตอบ กรรมชั่ว จงเตรียมรอรับในวันข้างหน้า ให้มีสมาธิเพื่อเตือนสติให้กระทำแต่กรรมดีกันไว้ เวลาแห่งการทำดี มีไม่มากนัก ดังคำว่า "ความดี หาซื้อไม่ได้ อยากได้ต้องสร้างเอง" อย่าลืมค่ะ เพาะเมล็ดพันธ์ใด ย่อมได้ผลสิ่งนั้น
สุข ต้อมโทรหาพี่
ทุกข์ ต้อมโทรบ่นให้พี่ฟัง
ขอบคุณนะค๊า
จ้ะคุณน้องเนปาลี ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ เศร้า เหงา ถ้าพี่จะเป็นคนที่น้องวางใจคุยหรือบ่นแล้วสบายใจ ย่อมได้ทุกเวลาค่ะ พี่คนนี้รับได้ทุกเรื่อง... อิอิ