ผมเดินทางลงใต้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจคือการได้เข้าไปเดินในงานเกษตร ของ มอ. ผมได้เลือกซื้อต้นกล้วยไม้ ต้นกุหลาบ และแคทลียา (เหมือนชื่อนักร้องลูกทุ่งเลย) มาห้อยไว้ที่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่ามันจะอยู่ได้ถึงกี่วัน นอกจากนั้น เราได้ไปเดินซื้ออาหารที่มีอย่างหลากหลายแต่....ราคาสูงกว่าท้องตลาด เข้าใจว่าค่าเช่าที่แพง มีอยู่ส่วนหนึ่งที่นำมากินแล้ว แต่ละคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า จืดชืดคือ กุ้งชุบแป้งทอด เต้าหู้ทอด ขณะที่ไปซื้อกุ้ง (ซื้อฝากผู้ร่วมเดินทาง) ผมถามแม่ค้าว่า กุ้งอะไร แม่ค้าย้อนมาว่า ทำไมคนชอบถามเหลือเกินว่ากุ้งอะไร ก็ตอบไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่ากุ้งอะไร ผมก็บอกแม่ค้า ที่เขาถามเขาคงอยากรู้ว่าเป็นกุ้งอะไรจริงๆ เช่น กุ้งกุลา กุ้งขาว หรือกุ้งก้ามกราม เวลาบอกคนอื่นจะได้บอกถูกว่าเป็นกุ้งอะไร เพราะบางคนจะไม่ชอบกินกุ้งบางอย่าง และกุ้งบางชนิดเมื่อกินแล้วขึ้นผื่น (แพ้กุ้ง)
ผมได้ไปงานนี้ ๒ วัน และทั้ง ๒ วันก็ซื้อต้นไม้มาห้อยหน้าบ้าน บ้านในเมืองมันยากตรงที่ ไม่มีเนื้อที่ให้ปลูกบนดิน จึงต้องปลูกไม้กระถางแทน ชีวิตกับต้นไม้และสายน้ำ เป็นอะไรที่ชุ่มฉ่ำทีเดียว
จากงานนี้ได้ข้อสรุปว่า งานของเขาใหญ่ทีเดียว เมื่อเทียบกับงานที่ได้จัดกับมหาวิทยาลัยที่ผมทำงานอยู่ ทำให้คิดอีกว่า จะมีวิธีการไหนไหม ที่จะทำให้งานใหญ่อย่างนั้นบ้าง โดยเฉพาะมีคนมาดูงานเยอะๆ เบียดเสียดแน่นขนัดเช่นนี้
ลงใต้คราวใด ทำไมเวลาขับรถแล้วมันระแวงๆ ชอบกล ต้องคอยดูกระจกหลัง ทั้งซ้ายขวา อิทธิพลของสื่อทำให้เราระแวงหรือไม่ หรือว่าเราหลอกตัวเราเอง จากข้อนี้พบว่า ชีวิตที่อยู่กับความระแวง เป็นชีวิตที่ไม่มีความสุข
สวัสดีค่ะ ครูเอก
คิดถึงเจ้าค่ะ .....หายไปนานเลยช่วงนี้..... ไม่ได้อ่านนิทานหลายวันเลย....
" ความกลัวคือสิ่งที่คิดขึ้นเองเจ้าค่ะ " 5555++ ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าค่ะ ..
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ------> น้องจิ ^_^