ชีวิตที่พอเพียง : 340. เป็นนักเรียนบัญชี


         ผมเคยไปรับการอบรมหลักสูตรเบื้องต้นในการเป็นกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 50     ชื่อหลักสูตรว่า Director Accreditation Program    วันที่ 13 ก.ค. 50 ผมไปเรียนวิชาอ่านรายงานบัญชีเบื้องต้น   ( เพื่อฝึกตนให้เป็นกรรมการที่ไม่เซ่อเกินไปนัก     คือสามารถทำหน้าที่กรรมการที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นได้จริง)   ชื่ออย่างเป็นทางการคือ หลักสูตร UFS – Understanding the Fundamental of Financial Statements    เป็นหลักสูตรวันเดียว     ทั้ง 2 หลักสูตรที่เล่านี้ จัดโดย IOD -  Thai Institute of Directors (www.thai-iod.com)

         ผมจะไม่เล่าสาระที่แท้จริงที่วิทยากรสอนและจัดกรณีศึกษาให้เราแบ่งกลุ่มกันฝึกปฏิบัติ     แต่จะเล่าว่าผมเกิดความประทับใจอะไรบ้างจากหลักสูตร UFS

         • ผมเพิ่งรู้ ว่าหลักแรกของรายงานบัญชีคือ มี 2 ส่วน
   1. ส่วนที่มีหน่วยเป็นเงินตรา     เป็นหน่วยนับ   หรือเป็นตัวเลข
   2. ส่วนที่ไม่เป็นหน่วยนับ ไม่เป็นตัวเลข    เป็นข้อสังเกตประกอบรายงานบัญชี    ยิ่งนับวันส่วนนี้ก็หนาขึ้นเรื่อยๆ    จนหนากว่าส่วนแรกมาก

         • การลงบัญชี ใช้หลักการหลายหลักการประกอบกัน    มีความซับซ้อนมากมาย    และหลายส่วนจะบันทึกอย่างไร ใช้หลักการใด ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ     จนมีการฉ้อโกงกันผ่านการบิดเบือนการลงบัญชี     ดังตัวอย่างบริษัท เอ็นรอน ของสหรัฐฯ
   
         • มีหลักในการอ่านรายงานของผู้สอบบัญชี     ว่า
   1. รายงานมาตรฐานที่ไม่มีปัญหา จะมี 3 ย่อหน้า      และเอาฝ่ามือปิดมิด     ถ้ารายงานยาว ให้อ่านระหว่างบรรทัดอย่างระมัดระวัง   
   2. ยิ่งมีหลายย่อหน้า  แสดงว่ามีประเด็นที่ผู้สอบบัญชีต้องการสะท้อนออกมา

         • ถ้อยคำของรายงานจะเป็นศัพท์เทคนิคของนักบัญชี ที่นักบัญชีด้วยกันรู้กัน    เช่น  “ถูกจำกัดขอบเขต”  “แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข”    เขาจะไม่ใช้ถ้อยคำที่ระบุความผิดปกติอย่างโต้งๆ     แต่จะใช้ถ้อยคำที่แฝงความไม่รับรองไว้     หรือระบุไว้ว่าส่วนไหนบ้างที่ได้ตรวจสอบและรับรอง     ส่วนไหนบ้างที่ไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบ 
 
         • กระบวนการทางบัญชี ก็คือ กระบวนการเชื่อมต่อระหว่าง Business Reality กับ Information about Reality    โดยที่ส่วนหลังประกอบด้วย 3 ส่วนย่อย
   1. Business Data
   2. Accounting and Business Information
   3. Financial Statements and Management Report 

         เห็นหลักการนี้ผมเห็น KM ลอยมาตรงหน้า      เห็นได้ชัดเจนว่า ในธุรกิจทำ KM ภาพ macro จากข้อมูลเหล่านี้ได้สบาย    เป็น KM Inside อย่างที่ผมเห็นรางๆ ในธนาคารไทยพาณิชย์     ที่เขาทำ data warehousing อย่างได้ผลมาก
   
         • จุดอ่อนของระบบบัญชีก็คือการบิดเบือนความจริง     หรือการมีอคติ    ซึ่งทำได้ทั้ง 4 ขั้นตอนข้างบน     จึงต้องมีระบบป้องกันถึง 5 ชั้น คือ
   1. หลักการบัญชีที่เป็นที่รับรองทั่วไป เป็นมาตรฐาน    และจรรยาบรรณของนักบัญชี
   2. ผู้ตรวจสอบภายใน
   3. ผู้ตรวจบัญชี
   4. คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee)
   5. คณะกรรมการบริษัท
         แต่ก็ยังไม่วายมีการบิดเบือนความจริง     เกิดการฉ้อโกงกันบ่อยๆ  
 
         • ผมได้เรียนรู้ว่า   สำหรับธนาคาร    ดัชนีบอก “สุขภาพ” ขององค์กร  มี 4 หมวด ได้แก่
   1. ดัชนีบอกความสามารถในการหากำไร
   2. ดัชนีบอกประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
   3. ดัชนีบอกนโยบายทางการเงิน
   4. ดัชนีบอกคุณภาพสินทรัพย์    
         แต่ละหมวดมีดัชนีหลายตัว     เวลาดูต้องดูหลายตัวประกอบกัน

         ตอนที่ผมเป็นหมอ  เราจะซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยเพื่อหาข้อมูล     สำหรับวินิจฉัยโรค  หรือบอกสุขภาพของคน     ตอนนี้ผมกำลังเรียนวิชาแปลผลข้อมูลทางบัญชี     เพื่อประเมิน “สุขภาวะ” ขององค์กร      ไม่เคยนึกเคยฝันเลยว่าจะมีโอกาสนี้ในชีวิต

วิจารณ์ พานิช
13 ก.ค. 50

หมายเลขบันทึก: 119406เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2007 08:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 11:49 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท