วันอาทิตย์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๐ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ ซึ่งปวงชนชาวไทยและเราท่านทั้งหลายเทิดทูนพระองค์ไว้เหนือเกล้าฯ น้อมรับพระองค์ท่านว่าเปรียบดั่งเป็นพระแม่ของแผ่นดิน และทรงสถิตย์อยู่ในดวงใจของลูกหลานไทยทุกคน จึงได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองกันทั่วแผ่นดินไทย
หลังเสร็จจากการทำบุญถวายพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน และอุทิศส่วนกุศลให้แก่แม่ผู้ให้กำเนิดซึ่งได้เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่กระทั่งถึงวาระที่ท่านต้องจากเราไป ความระลึกถึงพระคุณของแม่ย่อมสถิตย์อยู่ในดวงใจลูกผู้มีใจกตัญญูทุกคน และพร้อมที่จะกระทำความดีตอบแทนพระคุณอยู่ตลอดเวลา
การจัดงานเฉลิมฉลองวันแม่ที่ท้องสนามหลวง จัดโดยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิ ๕ ธันวาและองค์การต่างๆให้การสนับสนุน โดยภาคกลางวันมีพิธีเปิดงานและพิธีอุปสมบทภิกษุ ๗๖ รูป โดยมีการทำขวัญนาค โดย ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ขวัญจิต ศรีประจันต์ ชินกร ไกรลาศ ชัยชนะ บุญนะโชติ และ ก้าน แก้วสุพรรณ รวมทั้งมีการแสดงนิทรรศการและผลงานของสถาบันอาชีวศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งมีการจัดพื้นที่ได้อย่างเหมาะสมและลงตัว
นิทรรศการของอาชีวศึกษาประกอบด้วยซุ้มเทิดพระเกียรติฯ จำลองนกยูงทอง-เครื่องเบญจรงค์ นกกระจอกเทศ ตุ๊กตาชาววัง มีจัดสอนวิชาชีพระยะสั้น ๑๐๐ วิชา วันละ ๓ รอบ รอบละ ๑๘ อาชีพ ที่ประชาชนสนใจกันมากได้แก่การปัดทองจตุคามรามเทพและเทคโนโลยี่การแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ การแต่งสวนรอบบ้านให้สวยงาม ที่ฮือฮามากที่สุดเห็นจะเป็นการแสดงแฟชั่นโชว์ เพราะมีการจัดนิทรรศการ ชุดไทยพระราชนิยม ๘ ชุดที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนารถทรงออกแบบ การนำเสนอแฟชั่น ๕๐๐ชุด โดยนางแบบภาคละ ๕๐ คน
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมของซุ้มต่างๆรอบบริเวณท้องสนามหลวง เช่นซุ้มน้ำดื่ม บริการอาหารฟรี หน่วยปฐมพยาบาลและตำรวจ ๖ หน่วย การวางผังงานมีการแยกส่วนของเวทีการแสดงและการละเล่นไว้เป็นสัดส่วนและชัดเจน ดังเช่นในส่วนของสนามด้านกรมประชาสัมพันธ์เดิมประกอบด้วยเวทีลูกทุ่ง โขนสด ลิเก สนามแข่งตะกร้อลอดบ่วงและสถานที่ฉายภาพยนตร์ ถัดออกไปเป็นที่จัดนิทรรศการอาชีวศึกษา ดนตรีสากลและเวทีมวย
บริเวณหัวสนามด้านวัดพระแก้วซึ่งเป็นส่วนหลัก ประกอบไปด้วย ที่ประทับ ปะรำพิธี สถานที่เลี้ยงพระ สถานที่ทำพิธีบวงสรวง สถานที่จุดดอกไม้ไฟ ส่วนเวทีการแสดงก็มีการแสดงพื้นเมือง เวทีการแสดงราชภัฏทั่วไทย เวทีลูกทุ่งภูมิปัญญาไทย และที่เป็นส่วนสำคัญในคืนวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๐ ก็คือบริเวณเวทีจุดเทียนชัย ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้มาเป็นประธานกล่าวคำถวายพระพร พร้อมจุดเทียนชัยและนำร้องเพลงสดุดีร่วมกับพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศและทั่วโลก
หลายท่านอาจจะไม่มีโอกาสได้มาร่วมงานที่ท้องสนามหลวง ก็สามารถร่วมกันส่งคำถวายพระพรแด่พระองค์ท่านได้เช่นกัน และจะดียิ่งขึ้นหากทุกท่านได้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสที่พระองค์ได้พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยผ่านทางสื่อวิทยุและทีวี ประเทศไทยเราก็คงจะเจริญและน่าอยู่ยิ่งขึ้น และอย่าลืมกราบคุณแม่ที่บ้านด้วยนะคะ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องแสดงให้ท่านรู้ว่า เราระลึกถึงพระคุณท่านอยู่เสมอ แต่หากว่าท่านได้จากพวกเราท่านไปแล้ว ก็ขอกราบอาราธนาบารมีคุณพระได้โปรดนำพาท่านเหล่านั้นไปสู่ดินแดนอันเกษมสุขด้วยเทอญ
ไม่มีความเห็น