สมุนไพรไทย


พญาวานร

สมุนไพร    ไทยนี้   มีค่ามาก
พระเจ้าอยู่หัว  ทรงฝาก   ให้รักษา
แต่ปู่ย่า   ตายาย   ใช้กันมา
ควรลูกหลาน    รู้รักษา    ใช้สืบไป

พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ

พญาวานร

ลักษณะ:
      เป็นพันธุ์ไม้เตี้ย ๆ สูงประมาณ 1 เมตรกว่า ๆ แต่ก็ไม่ใช่ไม้ล้มลุก ดู ๆ เป็นพันธุ์ไม้ธรรมดา ๆ จึงไม่เป็นที่สนใจกับคนทั่ว ๆ ไป ฮวานง็อกเข้ามาเมืองไทยทางภาคอีสานแถว ๆ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ เมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา เป็นพันธุ์ไม้ใบอ่อนสีเขียว ปลายใบแหลม แตกกิ่งก้านสาขามาก ออกตามโคนง่ามใบ ใช้เคี้ยวใบสด ๆ ก่อน      รับประทานอาหารวันละ 4-7 ใบ มากน้อยแล้วแต่ชนิดของโรค กินสด ๆ ง่าย ๆ ไม่มีรสฝาดเฝื่อนแต่ประการใด ว่าจริง ๆ แล้ว แปะตำปึงที่ว่า   น่ากินกว่าจินฉี่เหมาเยี่ย แต่ฮวานง็อกหรือพญาวานรน่ากิน กว่าแปะตำปึงเสียอีก ทั้งคุณค่าทางสมุนไพรจะเหนือกว่าด้วยซ้ำไป และไม่มีศัตรูพืชเหมือนแปะตำปึง คือ  เพลี้ยแป้งที่เกาะอยู่ตามใต้ใบ ตามส่วนยอด ทำให้ยอดและใบหงิก แต่แก้ไขง่าย ๆ โดยตัดส่วนยอดทิ้งเสีย              ยอดอ่อนจะแตกใหม่ตามโคนง่ามใบ ไม่ควรใช้ยาปราบศัตรูพืช        ฉีดพ่น เพราะจะเป็นอันตรายถึงผู้ที่เก็บใบไปกินคุณค่าทางสมุนไพรเป็นที่ยอมรับกับผู้ที่ใช้มาแล้ว นอกจากเบาหวานได้ผลอย่างดีแล้ว ยังรักษาโรคมะเร็ง ไข้หวัด อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย  อาการทางเดินอาหารไม่ปกติ โรคกระเพาะอาหาร เลือดออกตามลำไส้ ตับอักเสบ ไตอักเสบ ปัสสาวะเป็นเลือดหรือขุ่นข้น โรคตาทุกชนิด รักษาอาการ มดลูกหย่อนยานของสตรีที่คลอดลูกใหม่ ๆ โรคความดันโลหิตสูง-ต่ำ ใช้กับสัตว์ก็ได้ เช่น ไก่เหงาเป็นอหิวาต์ เป็นนิวคาสเซิล หรือจากการชนไก่ โดยให้กิน 2-3 ใบ ส่วนการขยายพันธุ์ฮวานง็อกทำได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกับแปะตำปึง  คือ ตัดลำต้นเป็นข้อ ๆ นำไปปักชำ รากใหม่จะงอกออกมาภายใน 7-10 วัน   ฮวานง็อกเป็นพันธุ์ไม้ที่ขึ้นง่าย โตเร็ว โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยช่วยแต่อย่างใด เจริญเติบโตได้ดีในที่ร่มหรือแดดรำไร

หมายเลขบันทึก: 118822เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2007 10:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท