Global Warming - 01 - ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ มาจากประเทศไหนมากที่สุด ?


หากปราศจากชั้นของ "ก๊าซเรือนกระจก" แล้ว พื้นผิวโลกจะมีอุณหภูมิต่ำถึง -18 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว

สวัสดีครับ
      อากาศร้อนอบอ้าว  ทำให้นึกถึงเรื่อง โลกร้อน ( Global Warming )  และเมื่อศึกษาจริงๆจะพบว่ามันเป็นสิ่งใกล้ตัวและเป็นเรื่องน่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว 
     ข้อมูลที่น่าสนใจมีมากมาย  หลายประเด็น  หลายแง่มุมครับ  หลายท่านที่ได้อ่าน ได้ศึกษามาคงตระหนักว่า  อีกไม่ช้า หายนะจะคืบคลานมาสู่มวลหมู่มนุษยชาติ  ไม่ใช่เพราะใครที่ไหน  แต่เป็นด้วยน้ำมือมนุษย์เรานั่นเอง เป็นสำคัญ   ผมจึงตั้งใจว่าจะนำเสนอเกร็ดความรู้สั้นๆเกี่ยวกับเรื่อง โลกร้อน  เป็นครั้งคราว  เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกท่านเกิดสำนึกที่จะทำอะไรบางอย่าง หรือหลายๆอย่างเท่าที่ทำได้  เพื่อช่วยกันยืดเวลาไม่ให้ มหันตภัย ย่างกรายมาสู่ชีวิตผู้คนในโลกเร็วเกินไปนัก
    
     สำหรับตอนนี้ขอกล่าวถึงตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหา นั่นคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ครับ

     คาร์บอนไดออกไซด์ เป็นหนึ่งในบรรดาก๊าซที่เรียกว่า "ก๊าซเรือนกระจก" (Greenhouse gas)  ก๊าซกลุ่มนี้จะมีโมเลกุลใหญ่  ทำหน้าที่ดูดซับ เก็บกัก พลังงานความร้อน ที่มาในรูปของรังสีอินฟราเรด จากดวงอาทิตย์ไว้ได้มาก  หากชั้นบรรยากาศมีปริมาณก๊าซกลุ่มนี้อยู่ในระดับพอดีๆ  ก็จะเป็นคุณ  ทำให้โลกอบอุ่น  เหมาะแก่การดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตในโลก  หากปราศจากชั้นของ "ก๊าซเรือนกระจก" แล้ว  พื้นผิวโลกจะมีอุณหภูมิต่ำถึง -18 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว 
      แต่ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  ปริมาณของ  "ก๊าซเรือนกระจก"  ที่มี ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นพระเอกนั้น  มีมากเสียจนน่ากลัว  ที่ว่าทำให้โลกอุ่น  ก็กลายเป็นทำให้โลกร้อน  และนับวันจะร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ  หากมนุษย์ยังไม่สามารถหยุดยั้ง  หรือลดปริมาณการปล่อยก๊าซดังกล่าวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของโลก
     ที่ผ่านมาประเทศใดได้มีส่วนสำคัญในการก่อปัญหา  ด้วยการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ออกมา ทำความไม่ปกติให้แก่โลกของเรานั้น  มีตัวเลขที่ได้สำรวจล่าสุด เรียงตามลำดับประเทศที่ปล่อยควันพิษ  และมีปริมาณสะสมมาตั้งแต่ปี 1950 ดังนี้ครับ

  • สหรัฐอเมริกา     186,100    ล้านตัน
  • สหภาพยุโรป      127,800   ล้านตัน
  • รัสเซีย                  68,400    ล้านตัน
  • จีน                        57,600    ล้านตัน
  • ญี่ปุ่น                     31,200    ล้านตัน
  • ยูเครน                    21,700   ล้านตัน
  • อินเดีย                   15,500   ล้านตัน
  • แคนาดา                14,900    ล้านตัน
  • โปแลนด์                14,400   ล้านตัน
  • คาซัคสถาน            10,100   ล้านตัน
  • แอฟริกาใต้                8,500   ล้านตัน
  • เม็กซิโก                     7,800  ล้านตัน
  • ออสเตรเลีย               7,600   ล้านตัน

             พี่ไทยไม่ต้องรีบตามเขาไปหรอกนะครับ  เพราะมันคือการตามไป ตกเหว  หรือพูดให้หนักๆ  ก็คือ  ตามไปลงนรก  นั่นเอง.

  แหล่งข้อมูล :

หมายเลขบันทึก: 117205เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2007 02:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 16:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับพี่บ่าว

  • ยังดีที่ไทยยังทำพื้นที่เกษตรกรรมหลงเหลืออยู่ไม่งั้นก็คงเข้าไปติดอันดับกับเค้าด้วยนะครับ
  • มีคำถามครับ ว่าเมื่อใดหลังคาเหล่านั้นจะตกลงมาใส่หัวคนบ้างครับ เพราะไอน้ำลอยขึ้นไปก็พลัดตกลงมา อยากทราบว่า ลมหายใจออกของคนและเครื่องจักรและอื่นๆ เหล่านี้ จะตกลงมาใส่หัวผู้ผลิตบ้างไหมครับ เผื่อจะได้สูญพันธุ์บ้างครับ
  • อิๆๆ เข้ามาแซวพี่บ่าวเล่นครับ ก่อนนอน โชคดีในการทำงานครับ

สวัสดีครับท่านพี่Handy

  •  ถ้าจำไม่ผิดได้ดูข่าวเมื่อเร็วๆนี้
  • ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่น่าเชื่อนะครับ  ประเทศมาเลเซียมาเป็นอันดับหนึ่ง  ส่วนประเทศไทยเรานั้นตามมาเป็นอันดับสองครับ

 

อาจารย์ค่ะ  เป็นโอกาสเชียวคะ นศ. กำลังหาแหล่งข้อมูลในเรื่องนี้  ขอบพระคุณคะ

สวัสดีค่ะอาจารย์

ทุกวันนี้โลกร้อนขึ้นทุกๆวัน จนเราสัมผัสได้ด้วยตัวเราเอง  และเคยได้ดูข่าวจากทีวีเค้าบอกว่า รัสเซีย ได้ปักธงประเทศรัสเซียใต้ทะเลลึกทางขั้วโลกเหนือเพื่อบ่งบอกถึงอณาเขตและดินแดนของรัสเซีย เพื่อในอนาคตอันใกล้นี้โลกร้อนขึ้นแน่นอน แหล่งนี้แหละจะเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและอื่นๆต่างๆมากมายที่จำเป็นต่อมนุษย์  ?

ขอบคุณค่ะ

โอ๊ย  ร้อนจะตายอยู่แล้ว  โลกร้อนจริงๆด้วย อีก 100 ปี..........แถวๆสุพรรณจะกลายเป็นทะเลหมดแล้ว...แล้วหนูจะไปอยู่ที่ไหนเนี่ย...ว่าแต่ว่าหนูจะมีอายุอยู่ถึง 100 ปีหรือเปล่า 55555555555+++

                ขอบคุณค่ะ -------> น้องจิ ^_^

สวัสดีครับท่านอาจารย์Handy

วันนี้มีโอกาสรับรองลูกค้าจากอินเดีย เราคุยกันเรื่อง global warming ด้วยครับ

เขาเล่าว่า.....ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สังเกตว่าสภาพภูมิอากาศมีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท