<p>พวกเราคงจะได้ยินคำปลอบใจว่า “ใจเย็นๆ” มาแล้วไม่มากก็น้อย คนไทยเรามีวิธีทำหน้าร้อนให้สนุกกันหลายวิธี เช่น เล่นสงกรานต์ ฯลฯ วันนี้มีข้อควรระวังในเรื่องอากาศร้อนมาฝากครับ...</p>
ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ลิซา เพจ และคณะ แห่งสถาบันวิจัยจิตเวชลอนดอน สหราชอาณาจักร(หมู่เกาะอังกฤษ) ทำการศึกษาข้อมูลคนที่ฆ่าตัวตาย 50,000 คน ในอังกฤษและเวลส์ในช่วงปี 1993-2003 (พ.ศ. 2536-2546)
ผลการศึกษาพบว่า เมื่ออากาศร้อนเกินกว่า 18 องศาเซลเซียส คนเรา(ฝรั่ง)มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตายมากขึ้นดังต่อไปนี้
อาจารย์เพจกล่าวว่า เมื่ออากาศร้อนขึ้น คนเรามีแนวโน้มจะหงุดหงิดง่าย และก้าวร้าวมากขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากสารเซโรโทนิน (serotonin) ในสมองลดลงในช่วงหน้าร้อน และสาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ คนเรามักจะกินเหล้าเพิ่มขึ้นในหน้าร้อน
ข่าวที่อาจจะดีสำหรับผู้หญิงคือ คนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ 3 ใน 4 เป็นผู้ชาย...
วันที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดได้แก่ วันที่ 1 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีวันหยุดเทศกาลติดต่อกันนานตั้งแต่คริสต์มาสจนถึงปีใหม่ ขณะที่คนส่วนใหญ่มีความสุข หรือเฉลิมฉลองกัน ช่วงนั้นอาจเป็นช่วงที่ใครบางคนรู้สึกว่า ถูกทอดทิ้ง เดียวดายมากเป็นพิเศษ
วันที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดในรอบสัปดาห์ได้แก่ วันจันทร์... ไม่ทราบเพราะเป็นวันที่ต้องกลับไปทำงานกับเจ้านายโหดๆ หรือเปล่า เรื่องนี้อาจารย์เพจไม่ได้กล่าวไว้
สาเหตุแฝงของการฆ่าตัวตายที่สำคัญคือ “โรคซึมเศร้า (depression)” ซึ่งพบมากถึงประมาณ 10% ของประชากร...
พวกเราที่สังเกตเห็นญาติสนิทมิตรสหาย หรือสังเกตพบว่า ตัวเองซึมเศร้า เนือย เฉื่อยชาไป น่าจะลองพาไปขอทำแบบทดสอบซึมเศร้าที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
โรคซึมเศร้าทุเลาลงได้ด้วยยาต้านซึมเศร้า การออกกำลัง และการทำตัวให้มีคุณค่าเป็นประจำ เช่น บริจาคเลือด ทำงานอาสาสมัคร ฯลฯ
ไม่ควรใช้เหล้า เบียร์ ไวน์ แอลกอฮอล์ หรือยาเสพติดเป็นเพื่อนแก้เหงา เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท การทำร้ายหรือฆ่าแกงกันโดยไม่จำเป็น
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
<p>ข่าวประกาศ... </p>
ข่าวประกาศ...
ขอแนะนำ...
แหล่งที่มา:
</span><ul><li>Many thanks to BBC > Suicide rate rises in hot weather > http://news.bbc.co.uk/1/hi/health/6925882.stm > August 1, 2007. // source: British Journal of Psychiatry. <li> ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก “บ้านสุขภาพ” มีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค </li>
</font> </li></ul></font></span></span></span></span></span></span>
ไม่มีความเห็น