"การจัดการความรู้"เป็นวาระแห่งชาติ?


ปีคศ.2006/พ.ศ.2549ก้าวสู่ศตวรรษใหม่ในการจัดการความรู้

ปี 49 เกาะกระแสเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้

        จากสภาพเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้ (Knowledge Based Society) ที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คงไม่มีใครหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธความรับผิดชอบในการที่จะสนองตอบต่ออิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง "รู้เท่า รู้ทันการเปลี่ยนแปลง" และสามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) โดยใช้องค์ความรู้หรือการจัดการความรู้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการดำเนินงาน

ก้าวใหม่ ก้าวมั่น ก้าวไปพร้อมๆกัน

        หากจะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ เป็นไปตามเจตนารมย์ดังกล่าวข้องต้น คนทุกคนควรจะมีบทบาท มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน โดยมีแนวทางดังนี้

1. รู้จักการแสวงหาความรู้ ควบคู่  การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
2. สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ ควบคู่ การต่อยอดองค์ความรู้เดิม
3. เป็นนักปฏิบัติจัดการความรู้  ควบคู่ การติดตามประเมินผลและปรับปรุงพัฒนาความรู้


ผลักดัน"การจัดการความรู้" เป็นวาระแห่งชาติ
 
       เมื่อทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าการจัดการความรู้มีความสำคัญและมีความจำเป็นจะต้องนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนประเทศไทย ไปสู่การแข่งขันกับนานาอารยประเทศ เพราะต้องอาศัยบุคลากรหรือทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถสูง ซึ่งผ่านการฝึกฝน อบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน  ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกันผลักดันให้ "การจัดการความรู้เป็นวาระแห่งชาติ" ในปีนี้ให้จงได้

ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ
   8 ม.ค.49

หมายเลขบันทึก: 11604เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2006 15:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม 2012 21:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท