เช้าวันนี้ตื่นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นครับ ได้ยินเสียงมโหรีดนตรีไทย และเสียงมรรคทายกป่าวประกาศเชิญชวนให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญในวันเข้าพรรษาจากวัดหน้าบ้านลอยตามลมมาเป็นระยะๆ ได้บรรยากาศของวันบุญใหญ่ อีกประเดี๋ยวชาวบ้านแถวนี้คงจะเดินหิ้วข้าวปลาอาหาร เทียนพรรษา หลอดไฟเดินตามทางกันเป็นทิวแถว เพื่อทำบุญถวายพระในวันเข้าพรรษา ใจหนึ่งคิดจินตนาการไปได้ว่าบนศาลาวัดคงอบอวลไปด้วยแรงบุญแรงศรัทธาของชาวบ้านที่ตั้งใจมาทำบุญในเทศกาลสำคัญ อีกใจหนึ่งกลับคิดถึงชีวิตของเพื่อนร่วมโลกอีกหลากหลายชีวิตที่น่าจะมีความสุขได้ในวันดีๆเช่นวันนี้ ว่าแล้วก็ชักชวนทีมงาน ทาน .....ชีวิต ไปตลาดกันดีกว่า
ตลาดใต้ ตลาดเช้าของชาวพิษณุโลก อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายข้าวปลาอาหารสารพัดชนิด เราเดินตรงไปที่แผงปลาของป้าขาประจำ ป้าจะรู้เลยนะครับว่าถ้าทีมนี้มา จะมาซื้อปลาเป็นเอาไปปล่อย ป้าก็จะวางไม้ วางมีด แล้วเอาถาดกิโลไปช้อนปลาที่ทีมงาน ทาน.. ชีวิตจะเอาไปปล่อยในเขตอภัยทาน
ทีมงาน ทาน... ชีวิต
นี่กะละมังปลาไหล ว่ากันว่าปล่อยปลาไหลทำให้ ทุกข์โศกโรคภัยไหลล่วงเลยไปกับสายน้ำ แต่สำหรับผม ผมว่าแค่มันรอดชีวิตในวันนี้ก็ดีที่สุดแล้วครับ
ปลาดุกกิโลนึงไม่รู้กี่ตัวครับ จะเหมาหมดก็ไม่มีปัญญา เอาเป็นว่าตัวไหนดิ้นเข้ามาให้ป้าตักก็เอาตัวนั้นละกันนะครับ
ปลาช่อนวัยรุ่น วันนี้รอดจากไม้กระบองแล้วครับ พรุ่งนี้เป็นงัยค่อยว่ากันใหม่
ปลาหมอ ถ้าจะตายเพราะปาก ผมว่าก็ตายเพราะปากคนนั่นแหละครับ
ครบถ้วนสี่ปลา สี่กิโล ก่อนออกจากตลาดใต้แวะเยี่ยมป้าอ้วนคนขายปลาสำหรับเอาไปปล่อยเป็นทาน ป้าอ้วนเมื่อก่อนก็ขายปลาดุกปลาช่อนเช่นเดียวกัน สองสามปีก่อนเกิดความเบื่อหน่ายเปลี่ยนอาชีพมาขายสัตว์ปล่อยเป็นทาน ขายดิบขายดี (เหมือนธรรมะจัดสรร ผมจำคำพูดนี้มาจาก อาจารย์คุณนายด๊อกเตอร์) วันนี้เหลือแค่ปลาไหลตัวเดียว ป้าอ้วนจัดการเอาใส่ถุงมาให้เป็นตัวสุดท้าย
ทีมงานทาน...ชีวิต ได้ปลาไหลตัวโตจากป้าอ้วน ตอนนี้ก็พร้อมเดินทางไปวัดอรัญญิกแหล่งอภัยทานปล่อยสัตว์น้ำของเราแล้วครับ น้องตาลสมาชิกคนสุดท้องของทีมงานเหลือบไปเห็นกรงขังกระแตสองตัว แม่ค้าเห็นเราหยุดสนใจมองรีบบอกเลยว่าต้องเอามาขายเพราะคนจับบอกว่าถ้าไม่มีใครซื้อก็จะเอาไปผัดเผ็ด ทีแรกก็ว่าจะซื้อตัวเดียว แต่เห็นอีกตัวส่งสายตาแล้วก็อดไม่ได้เหมามาหมดทั้งสองตัว เฮ้อ ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะ เอาละครับได้เวลาเคลื่อนพลออกจากตลาดใต้กันดีกว่า ไม่อย่างนั้นสงสัยสิ่งมีชีวิตคงจะหมดตลาดกันในวันนี้
วัดอรัญญิก อ เมือง จ พิษณุโลก เป็นวัดเก่าแก่ มีคูน้ำล้อมรอบโบราณสถาน บรรยากาศร่มรื่นสงบเย็น คูน้ำขนาดใหญ่นี่แหละครับเป็นแหล่งปล่อยปลาเต่าของทีมเรา
ปลาที่เราปล่อยว่ายพริ้วไปแล้วครับ
ปล่อยกระแต มันไวมากเลยครับ เปิดกรงปุ๊บก็วิ่งปรู๊ดขึ้นต้นฉำฉา จับภาพแทบไม่ทัน
ภารกิจการให้ทานชีวิตผ่านไปอย่างราบรื่นเงียบๆ สบายๆ ผมไม่ได้อธิษฐานให้ได้รับโชคลาภหรือพ้นทุกข์พ้นโศกแต่อย่างใด หวังเพียงแต่ว่า วันนี้เค้าเหล่านั้นน่าจะสบายที่ได้อาศัยอยู่ในวัดเขตอภัยทานมากกว่าเดิมที่นอนอยู่ในกะละมังแม่ค้าในตลาด ผมไม่รู้หรอกครับว่าพรุ่งนี้ มะรืนนี้เค้าเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าวันนี้เค้าว่ายน้ำและวิ่งขึ้นต้นไม้จากไปอย่างรวดเร็วเหมือนหนึ่งกับได้ชีวิตกลับคืนมา สิ่งที่ทีมงาน ทาน.... ชีวิต ได้รับคงเป็นเพียงความสุขข้างในใจอันเกิดจากความรักปรารถนาดี แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับวันเข้าพรรษาวันบุญใหญ่ของไทยแล้วใช่มั้ยครับ