17 กรกฎาคม 2550
เป็นการเดินทางครั้งแรกไปจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อทำการติดต่อแพทย์ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ โดยในอนาคตจะเป็นสถานที่เก็บตัวอย่างเพื่อนำไปใช้ในการทดลองในวิทยานิพนธ์ของผู้เขียนเอง
ออกเดินทางแปดโมงเช้าจากมหาวิทยาลัยไปกับอาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์หมออีกท่าน พอขับรถไปเรื่อยๆตามแผนที่ที่พี่อีกคนแนะนำมา ปรากฎว่าขับๆไปทำไมยังไม่เห็นเส้นทางหลักถนนสี่เลนสักที อาจารย์ก็บอกว่าทำไมขับมานานเหลือเกิน ใช้เวลาเกินกว่าที่จะเป็นแล้วนะ จากเดิมที่คาดว่าจะถึงรพ.ภายในเวลาสองชั่วโมงกว่าๆ ก็เลื่อนไปเป็นสามชั่วโมงครึ่ง (มาครั้งแรกก็หลงซะแล้วซีเรา)
ทำการเจรจากับคุณหมอเรียบร้อยแล้วภายในระยะเวลาอันสั้น อจ.ที่ปรึกษาก็มีความเห็นว่าเราควรจะท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย (ให้คุ้มซะหน่อยกับการเดินทางอันยาวไกล ^-^ ) ผลการตกลง สรุปว่าจะไปอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ซึ่งใช้เวลาไม่นานจากรพ.ไปยัง อ.นางรอง ค่าธรรมเนียมเข้าประตูก็ราคาย่อมเยามากๆ เพียง 10 บาท สำหรับคนไทย แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติ จะเสียธรรมเนียมค่าเข้า 40 บาท (ความไม่เท่าเทียมแบบนี้ เพื่อนชาวต่างชาติเคยท้วงติงว่าทำไมต้องคิดราคาสำหรับชาวต่างชาติแพงกว่าคนไทย ทำไมราคาจึงไม่เท่าเทียมกัน ตอนไปเที่ยวที่ปราสาทหินพิมาย)
สถาปัตยกรรมการตกแต่งที่พิมายและพนมรุ้งดูจากภายนอกคล้ายๆกัน (เนื่องจากไม่มีความรู้ด้านนี้ จึงไม่ขอแนะในรายละเอียด) แต่มีเหตุผลในการสร้างขึ้นเหมือนกันคือ เพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ แต่ผู้เขียนคิดว่าจากทิวทัศน์ที่ปราสาทพนมรุ้งซึ่งอยู่บนยอดเขาดูสวยงามกว่า ดูร่มรื่นและชุ่มชื้นมากกว่า ถึงแม้ว่าอากาศในวันนั้นจะร้อนแต่พอขับรถขึ้นไป อากาศก็กลับร่มรื่นไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนในเมือง ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ผู้เขียนก็แนะนำให้ท่องเที่ยวทั้งที่อุทยายานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง (ตั้งอยู่ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์) และ พิมาย (อ.พิมาย จ.นครราชสีมา) เมืองไทยยังมีแหล่งประวัติศาสตร์ให้น่าติดตามและชื่นชม
ภาพอาจจะไม่ชัดเจนเพราะไม่ได้เอาถ่ายจากโทรศัพท์มือถือคะ
อีกมุมมองหนึ่งนะคะ
มุมนี้ดูวิวทิวทัศน์แล้วสบายตา สดชื่นดีคะ
ภาพนี้เป็นปราสาทหินพิมาย ถ่ายเมื่อปีที่แล้ว เอามาให้ชมเปรียบเทียบคะ
สวัสดีครับ
ตามน้องกมลนารี ไปเที่ยวบุรีรัมย์ครับผม