คิด..ม่าย...ออก..!


     คิด..ม่าย...ออก..!

 

                                   คยคิดไม่ออกใช่ไหมคะ..ว่าจะเขียนอะไรดี 

                                    เหมือนกันเลย......แล้วก็เป็นบ่อยด้วย... !

                                             ยิ่งถูกบังคับ..ยิ่งเขียนไม่ออก 

                                    อยากเขียนอย่างใจคิด  แต่ไม่รู้จะเขียนอะไร

                                              บนโต๊ะมีอะไรอยู่มั่งคะ

                                            ลองเอามาทำอะไรเล่นๆดูไหม

                                     ถ้านี่ใช่เรา.....   ทำเลย    ไม่ต้องรอใครสั่ง

                                            ไม่ต้องรอหัวหน้ามอบหมาย

                                    ไม่ต้องรอให้เพื่อนบอก..ว่าใช้ได้...หรือใช้ไม่ได้

                                                      .....ทำไปเลยจ้า.....

          

 

                                           ตอนนั้นกำลังนึกอะไรเหรอคะ ........ 
                                          อืม..ม..     ตอนนั้นงานยุ่งที่สุดเลย
                                               แล้วก็นึกถึงตอนกลางคืน   
                                       นึกถึงเวลาที่เราจะได้อยู่เป็นส่วนตัว  
                                              ไม่ต้องเวียนหัวกับอะไรอีก    
                                      ชอบกลางคืนชะมัด  แต่อยากให้ฟ้าสว่าง 
                                           เห็นดวงจันทร์  เห็นดาวพราวเต็มฟ้า  
                                          แต่สองดวงที่ว่าไม่ค่อยยอมมาด้วยกัน   
                                           เจอแสงจันทร์เข้าแสงดาวก็หม่น
                                      เจอความมืดเข้าแสงเดือนก็จ๋อย......

                                 นึกออกแล้ว....   ตอนนั้นนึกถึงพระจันทร์เสี้ยว..!!!
                                  บางทีการเขียนแค่ประโยคเดียว  แต่มีภาพช่วย  
                                    ก็ทำให้เราสื่อความหมายอะไรได้ตั้งเยอะ...
: )

 

 

 

                                  

                   บางทีการเห็นอะไรง่ายๆใกล้ตัว  ก็ทำให้นึกออกไปอีกเรื่องนึงเลย 
                                     ......เพราะมันมีอะไรเชื่อมโยงกันอยู่....

                                  วันนึงเห็นกระดาษถ่ายเอกสารเสียๆ....    
                                                รู้สึกเสียดายชะมัด

                                     ไม่อยากให้เขาเอาทิ้ง  เลยขอเขามา....  
                                               แล้วมันก็แว่บ...  ปิ๊ง....!.
  
                      กระดาษถ่ายเอกสารเสียๆสองสามแผ่น กับน้ำยาลบคำผิด  : )
                                                คิดอะไรไปได้ตั้งเยอะ

                                           แล้วก็ออกมาเป็นอย่างข้างบน.....

                                          ตอนนั้นคิดถึงคนใจร้ายขึ้นมาจริงๆ
                                                     อยู่ใกล้คนใจร้ายทีไร 
                                                          รู้สึกมืดไปทั้งใจ
                                      .... ไม่ เห็น ซัก กะ ดาว  เลย จริงๆ .... 

                                               

 

 

                               

 

                              และมีอีกวัน....ที่เห็นต้นไม้ต้นหน้าอาคารต้นนั้น 
                                        แล้วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา
                                     แล้วก็เลยเขียน.....  เขียนเสร็จแล้วก็วาด
                                      วาดเสร็จแล้วก็เขียนทับไปอีกที
                                  เขียนเอง...อ่านเอง... แปะข้างตู้เอาไว้ดูเอง
                                     .....มีความสุขแบบบ้านๆดีชะมัด... : )
                                            แค่แว่บ...และ ปิ๊ง.... แท้ๆ

                                      แว่บ..... ปิ๊ง.....!   ที่ว่า....  จู่ๆมันก็มาเอง
                                มาแล้วอย่าทิ้งนะคะ  หาสมุดเล็กๆซักเล่มจดเก็บไว้
                                               จดไว้ทุกวัน  เดี๋ยวก็เต็มเล่ม
                                และเมื่อถึงสักวันหนึ่ง.....  มันจะวิ่งมาต่อกันเอง
                                           พูดจริงๆนะคะ  .....มันจะวิ่งมารอ...
                        และบอกเราว่าจะมาต่อกันแล้วนะ  หยิบปากกามาเร้ว..ว..ว

                                                     และเมื่อถึงวันนั้น...

                              ขอให้สนุกกับ"การเขียนอย่างได้อย่างใจคิด" นะคะ

                     

                           .................................................................................

 

 

หมายเหตุ(จากดวงใจน้อยๆของครู)

               ดิฉันสั่งงานเด็กๆอย่างหนุกหนาน เพราะเห็นว่าปิดหลายวัน  เขาคงมีเวลาและอารมณ์สุนทรีย์พอที่จะเขียนนั่นโน่นนี่อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ
               เด็กๆทำหน้ารันทดเป็นที่ยิ่ง  บอกเสียงอ่อยๆว่างานเยอะทุกวิชา  เขียนอะไรไม่ออกเลย   มันระทมๆไปทุกหย่อมหญ้า
               ดิฉันปลอบใจว่าเขียนอะไรก็ได้  คิดอะไรได้ก็เขียนไปเลย  เขียนอย่างเป็นตัวของตัวเอง  เขียนอย่างที่ตัวเองเป็น เต็มที่ไปเลย 
               .... อ๊ะ...เอางิ...  เพื่อฟามยุติธรรม  ครูสั่งงานคุณเท่าไหร่  ครูก็เขียนเท่านั้นด้วย  เขียนในบล็อกละกัน  แล้วค่อยลงกระดาษ  โอ.เค.แมะ  (ทำไมต้องใช้คำว่าโอ.เค.ด้วยก็ไม่รู้  แต่ดิฉันติดปาก)  
                เด็กๆค่อยหน้าตาดูดีมีระดับขึ้นมาหน่อย  แล้วก็บอกว่าจะตามไปอ่าน
               ถึงวันนัดจริงๆเข้า ด้วยงานหนักที่ติดพันจนหมุนตัวไม่ทัน ทำให้อารมณ์ สุน-ทะ-รี ของดิฉันออกจะฝืดๆพิลึก  นึกอะไรก็ไม่รื่น เขียนอะไรก็ไม่คล่อง  ไม่หนุกหนานลั้นลาอย่างที่เคย(คิดว่าตัวเอง)เป็น  กว่าจะนึกได้ว่าจะเขียนอะไร  ปาเข้าไปสองคืน  และกว่าจะเขียนให้ตัวเองอ่านรู้เรื่องได้  ก็แก้แล้วแก้อีก  หมดเวลาไปครึ่งวัน
               นึกแล้วก็เห็นใจเด็กๆเหลือเกิน  คนไม่มีอารมณ์ จะให้มาทำอารมณ์กีวี่อยู่นี่มันอึดอัดชะมัด 
               ถ้าเด็กๆหลงมาอ่าน โปรดทราบว่าครูเข้าใจนะคะ ถ้าเขียนไม่ออกจริงๆ  ครูจะไม่งอนเลย.....
               เอาเถิดค่ะ  เพื่อเห็นแก่สวรรค์  ขอให้เขียนมาเลยว่าเขียนไม่ออก  แล้วก็เล่าให้ครูฟังแทนว่าวันหยุดเราทำอะไร  เล่านิดเดียวก็ได้  เพราะครูเข้าใจแล้ว 
               เวลาเขียนไม่ออกเนี่ย  ...ก็แปลว่าเขียนไม่ออกจริงๆ...
               เอ...ว่าแต่ที่เด็กๆอ่านอยู่นี่.... เก๊าะกำลังอ่านเรื่องที่ครูบอกว่าครูเขียนไม่ออกอยู่นี่นา....  
               งั้นถ้าเราลองเขียนดูบ้าง  คงมีอะไรออกมามั่งละน่า.......
                                    .....ครูจะตั้งตารอนะคะ.....  : )

 

หมายเลขบันทึก: 115494เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2007 13:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (99)
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

น่ารักจริงๆครับ บันทึกนี้

- - -ผมกำลังคิดว่า ผมจะเขียนอะไรดี - - -

จริงๆแล้วมีประเด็นเยอะครับ วันสองวันนี้ภาระกิจล้นหลามมาก

ขออีกสักพักครับ

สวัสดีค่ะ น้องเอก

                ตอนน้องเอกเข้ามาพี่แอมป์คงกำลังแก้บันทึกนี้อย่างอกสั่นขวัญแขวน   เพราะต้องเขียนให้เสร็จทันเวลาที่บอกนักศึกษาไว้  ....เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ากรรมมีจริง... ดังหมายเหตุท้ายบันทึก 
                ....ลูกช้างเข็ดแล้ว   อิอิ.... 

                บันทึกน้องเอกเป็นเนื้องานแน่นปึ้กเลยนะคะ   แถมอ่านเพลินอีกต่างหาก  ทำงานเยอะๆกับคนหลากหลายอย่างนี้ ย่อมมีประเด็นล้นหลาม(ตามภารกิจ) เรื่องเขียนไม่ออกคงไม่มี
                มีแต่ "จะเลือกเอาอะไรมาเขียนก่อนดี" กระมังคะ  : )
                ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคะน้องเอก  ถึงแม้พี่แอมป์จะไม่ค่อยได้ฝากรอยแวะไว้  แต่ก็ซึมซับเอาความละเมียดละไมในบันทึกน้องเอกมามากโขอยู่นะคะ

P Ranee

สวัสดีค่ะพี่แอมป์

บันทึกนี้อ่านแล้วอมยิ้มเลยค่ะ  แบบตรงใจ  บางครั้งมีเรื่องที่จะเขียนมากมายแต่ไม่รู้จะเข้าประเด็นอย่างไร (นาน ๆ ครั้งนะค่ะ อิ อิ ) แต่ส่วนใหญ่อยากเขียนและคิดถึงทุกคนเลยไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี คิด คิด เท่าไร คิดไม่ออกซักที (อย่าฮัมเพลงตามนะค่ะพี่แอมป์ คิก ๆ) แต่ก็เข้ามาเขียนแล้วค่ะพี่แอมป์ กับบันทึกแบบเพื่อน ๆ ลองตามไปอ่านนะค่ะ (ให้ลุ้นหาเอง ฮ่า ๆๆๆๆๆ) คิดถึงนะค่ะ  ขอบคุณค่ะที่ทำให้ราณียิ้มได้  (ขณะพิมพ์ราณีอยู่เชียงรายค่ะ เข้ามาตอบของพี่แอมป์เป็นคนแรกเลยค่ะ แบบมาเช่าnet รายชั่วโมง อะค่ะ) ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ อ.ราณี

               คิดถึงมากๆๆๆเลยค่ะ  ดีใจจัง  เห็นบันทึกถึงเพื่อนแล้วค่ะ  อ่านแล้วสองรอบแต่รีบเขียนงานส่งเด็กๆให้เสร็จก่อนและกะจะเข้ามาอีกทีตอนดึกๆ  ไม่นึกว่า อ.ราณีจะชิงแซงมาถึงก่อน  ถึงเชียงรายแล้วเหรอคะ  เหนื่อยมากรึปล่าว...

               ไม่ว่า อ.ราณีจะอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไร  โปรดอย่าลืมว่ามีพี่ๆน้องๆอยู่ในนี้ ที่ยังคิดถึงกันอยู่เสมอนะคะ   วันนี้ยังไม่มีโอกาสได้พบ  แต่วันหน้าคงได้เจอ  ให้พี่แอมป์ได้พาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนสักมื้อเป็นอย่างน้อยนะคะ

               อ้อ...เรื่องฮัมเพลงน่ะอย่าได้ห้ามเทียว  ไม่ทันดอก  อะไรที่เป็นทำนองนี่พี่ชอบนัก  หาวยังเป็นเพลงเลย .... ห่าว..ว   ฮาว  ฮ้าว..ว..   อิอิอิ

              ดีใจออกนอกหน้าเลยนะคะที่ อ.ราณีแวะมา  และหวังว่าคงนึกออกว่าบันทึกต่อไปจะเขียนเรื่องอะไร  ขอให้งานที่ อ.ราณีตั้งใจมาทำ  สำเร็จราบรื่นโดยเร็ว  และเดินทางโดยปลอดภัยนะคะ

                                           รักและคิดถึงมากๆๆๆๆจ้า

                                                        พี่แอมป์ : )

หลานเด็กน้อยสารภี

 ...

ไกล

เหมือนใกล้

ห่างกันแค่ระยะทาง

..

ปล.ข้อหนึ่ง อ่านบันทึกของ'จารย์แล้ว ก็คิดคล้าย งานแขนโต...แขนโตของอิฉันค่ะ

      ข้อสอง ลองสมัครเปง'มาชิก ในเว็บนี้ ..พยายามอยู่เกือบ ๆ เดือนแระ...มะมีไรขึ้นเรย...วัยรุ่นล่ะเซ็ง :)

 ...รึว่าภาษาในการสื่อสารของดิฉันบกพร่อง..

ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด

..คิก มะ ออก...

มายิ้มกว้างๆให้กำลังใจพี่แอมป์อีกคราครับผม

^__________________^

สวัสดีค่ะ Nong Mam

           ครูกำลังจะปิดคอมฯ เจอ Nong Mam เลยต้องเข้ามาอีกที  อยู่ดึกจังเลย หวังว่าทุกคนที่บ้านคงสบายดีนะจ๊ะ   ฝากหอมตัวเล็กตัวน้อยด้วย  ภูขึ้น ป.หนึ่งยัง   : )
           งานNong Mam ทำให้ครูประทับใจทุกชิ้น ยังเสียดายที่ไม่ได้ขอมรดกไว้ให้น้องดู  และครูไม่ค่อยเห็นน้องที่ชอบทำ "ของเล่นแปะข้างฝา" อย่างรุ่นเรา 
หรือครูเป็นคนทำให้จินตนาการของเขาหดหายไปรึปล่าวก็ไม่รู้   .... ที่แน่ๆคือน้องที่ชอบเขียนมีน้อยลง  ครูรู้สึกอย่างนั้นนะคะ 
           สำหรับข้อสองไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับระบบรึปล่าว  (ทั้งระบบของบล็อก และระบบของเน็ตที่เราใช้) ถ้ายังไงหากสะดวกจะลอง ก็ลองดูอีกทีนะคะ  ครูก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน  ของครูเน็ตก็หลุดบ่อยพอใช้ค่ะ  ถ้าเน้นที่การสื่อสารโต้ตอบแบบสนทนา   ช่วงนี้ก็อาจไม่คล่องนัก 
           แต่ถ้าเน้นที่การบันทึกข้อมูลเพื่อการใช้ประโยชน์สาธารณะ  โดยไม่กังวลกับอย่างแรก  ก็น่าลองนะคะ 
           วันหลังจะขออนุญาตเอาเรื่อง "ต่างๆ" ของNong Mam มาเขียนถึงด้วยนะคะ   ยังจำได้ว่าตอนที่เอามาส่ง  ครูคิดในใจว่า "คิดได้ไงเนี่ย  เจ๋งจิง"  ....ครูรักกระดาษต่างสีแผ่นนั้นที่สุดเลย...   เห็นทีไรคิดถึงคนเขียนทุกที
            รักษาสุขภาพและขอให้พระคุ้มครองให้พบแต่สิ่งดีนะคะ  Nong Mam : )

สวัสดีอีกทีค่ะ น้องเอก

          พี่แอมป์ก็เข้ามายิ้มตอบอย่างกว้างขวางเช่นกันอะค่ะ    ชอบสัญลักษณ์แทนยิ้มจังเลย  คนคิดก็ช่างคิดเหลือเกิน  ทำให้คำเขียนได้อารมณ์ขึ้นอีกเยอะ

            ^^                     ^   ^                        ^_^    

            ^____^               ^____________^

        
         
  : P             : )             :- )                 ;  )   

                                          
( ^_^ )

               ....เลยยิ้มตอบกลับน้องเอกสิบทีเลยนะคะ....

เมื่อก่อนผมก็มีปัญหาเรื่องนี้ครับพี่(กระ)แอมป์

แต่ตอนนี้ปัญหานี้หมดไปแล้วครับ

ก็เราจะคิดเองทามมาย  เอาของเพื่อนมาเขียนซิครับ  ง่ายจะตาย  แรกๆ ก็เขียนแปะหัวแปะท้ายเพิ่มเติม  สังเกตไหมครับหลังๆ เอาเขามาทั้งดุ้นเลย  สะด๊วกสะดวก

แต่ก็มีปัญหาเหมือนกันครับ  ก็ตรงที่ขี้เกียจพิมพ์นี่แหละครับ อิอิ

ราตรีสวัสครับ 

สวัสดีค่ะ น้องทะเฮป  : )

ก่อนอื่นพี่ขอแสดงความยินดีที่น้องไม่มีปัญหา (นึกถึงอัสนันท์กับวสีเลยแฮะ   น้องเทพทันรุ่นนี้รึปล่าวคะ)

อะฮ่า....  ไอเดียดีมาก  การยกข้อเขียนดีๆมานำเสนอนี่ได้บุญนะคะ  คนอ่านที่ไม่เคยอ่านจะได้ตามอ่านถูกที่  เพราะได้รู้ว่าเรื่องดีๆนี้อยู่ที่ไหน  อันนี้พี่แอมป์ชอบ

ส่วนเรื่องพิมพ์นี่ตัวใครตัวเผือกละ  พี่เป็นคนพิมพ์เร็ว  แต่ลำบากใจตรงหาช้าเนี่ยอะค่ะ  

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ  ว่าแต่เข้ามานั่งที่โต๊ะรับแขกนี่ก็ได้  ไหงไปยืนคุยอยู่ตรงประตูยังงั้นล่ะคะ

ไม้ตียุงนี่อันไม่ยาวเท่าไหร่หรอก  พี่เอื้อมไม่ถึงหรอกค่ะ  อิอิ

สวัสดีค่ะ คุณแอมป์

...  กว่าจะตามมาเจอ ช่วงหลังๆ หายาก

ขออนุญาติเอาเข้าแพลนเน็ต เลยดีกว่านะคะ

* บันทึกนี้น่ารักมากๆ เลยนะคะ

* คุณพี่แอมป์คงสดชื่นมากเลย อยู่กับเด็กๆ

* ชอบม๊ากกๆ เลยค่ะ  คิดได้ไงค่ะ มุขนี้

* ภาพสุดท้าย ... ยึดราก ยึดดิน ยึดชีวินไว้ให้มั่น ...

- ทำให้คิดถึง จิตต้องนิ่ง

จดจ่อกับสิ่งตรงหน้า

หากหวังผลสัมฤทธิ์ ไม่กี่พริบตา

...  พยายามเข้าว่า จะสำเร็จดั่งใจ

* ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากันไหมนะคะ มองภาพแล้วคิดออกแบบนี้ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องปู

ตานี้ขออนุญาตแทนตัวว่าพี่แอมป์นะคะ  ดูจากภาพพี่แอมป์มั่นใจว่าแก่เอ๊ยโตกว่าน้องปูไม่น้อยกว่าสามรอบแหงๆ  : )

ขอบคุณที่ปูตาม "หากันจนเจอ" นะคะ ช่วงหลังๆหากันยากจริงๆด้วย  พี่แอมป์พยายามทำแพลนเน็ตของตัวเอง แต่ไม่รู้ทำไมมันมีเครื่องหมายกาผิดสีแดงแจ๊ดอยู่หลังชื่อบล็อกทุกคน  กลัวมีปัญหาในช่วงระบบยังไม่เสถียร  เลยใช้วิธีจำเอา  หรือไม่ก็ไต่ไปตามแพลนเน็ตพี่ๆน้องๆ  คืออาศัยไต่กะไดบ้านเพื่อนไปก่อน  หวังว่าเจ้าของบ้านจะไม่ตื่นขึ้นมาเห็น  เพราะพี่มารอบดึกเป็นส่วนมาก อิอิ

ภาพสุดท้ายพี่แอมป์ชอบตรงที่ลูกปูโค้ดมาเด๊ะเลยค่ะ  เห็นต้นไม้ต้นนั้นแล้วแว่บรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ 
ปูแต่งกลอนเก่งจังเลย  เร็วมากด้วยนะคะ    คนที่มีอารมณ์ "กีวี่" เหมือนกันนี่เข้าใจกันเร็วดีจังเนอะ ... 

อ้อ..และจะบอกว่าชอบกลอนของปูมากๆๆๆทุกบันทึก  แต่ยังไม่ได้ฝากรอยมือไว้ที่ลูกบิดประตู  : )    วันก่อนก็ยกกลอนของปูในบันทึกบรรยายภาพของน้องเม้งไปสอนเด็กเรียบร้อยแล้ว  ขออนุญาตย้อนหลังจะอนุมัติไหมคะเนี่ย

ขอบคุณที่ปูแวะมานะคะ   อารามดีใจ  ดูซิ...พี่เลยพร่ำพรรณนายืดยาวไปห้ากิโลอีกแล้ว    อิอิ 

อาริษา ปัญญาทิพย์

   ดิฉันคิดว่าข้อเขียนของอาจารย์เขียนได้ดีนะคะ เขียนอย่างเป็นตัวของตัวเองดี คือเขียนโดยไม่ต้องกังวลกับการใช้คำมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้คิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไร

นางสาวหามี้ดะ สงเดช
ขนาดอาจารย์คิดอะไรไม่ออก ก็สามารถบรรยายได้เป็นเรื่องเป็นราว  แล้วก็ยังมีอารมณ์สุนทรีย์อีกด้วย
นางสาวปรีดา ชูขันธ์
     การเขียนตามใจของตัวเองเป็นสิ่งที่วิเศษสุดๆเพราะได้แสดงความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาอย่างเสรี  เช่นเดียวกับท่านอาจารย์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงคิดอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น ดิฉันชอบบทความของท่านมากๆๆๆๆๆเพราะท่านเขียนได้มันดี(ถูกใจ๋ ถูกใจ)

อาจารย์เขียนได้ตรงใจหนูมากเลยค่ะเพราะบางครั้งหนูก็คิดอย่างอาจารย์ที่ไม่รู้จะเขียนอะไรนึกไม่ออกนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกจนบางครั้งเขียนไปโดยที่ตัวเองยังไม่พอใจกับผลงานของตัวเองและเมือนึกอีกครั้งก็อยากเอางานกลับแก้ไขให้ดีกว่าเพราะตอนทำจริงไม่ได้ตั้งใจทำในผลงานเท่าไหร่จึงอยากทำใหม่ให้ดีกว่าเดิมค่ะ

สวัสดีค่ะเจี๊ยบ (อาริษา)


ขอบคุณที่เจี๊ยบแวะมาโพสต์ได้เร็วดีนะคะ แถมให้กำลังใจกันสุดชีวิต  ไม่ว่าครูจะเขียนลั้นลาไปอย่างไรก็ตาม  : )      ครูตั้งใจเขียนเรื่อง คิด ม่าย  ออก  ให้น้องเอกไทยโดยเฉพาะเลยนะคะ  ครูคิดเอาเองว่าครูเข้าใจจริงๆ  เวลาถูกบังคับให้เขียนในเรื่องที่เราไม่อยากเขียน....มันน่าเบื่อชะมัด   

ขอบคุณอีกครั้งที่แวะมาเร็ว  แต่ครูขออีกนิดได้มั้ยคะ  ถ้าครูเข้าใจไม่ผิด  ครูบอกให้เด็กๆแวะไปที่ เลิร์นเนอร์ส์ ที่เด็กๆเปิดบล็อกอยู่  และไปโพสต์ที่บล็อกครูที่นั่น  ครูว่าครูบอกแบบนั้นนะคะ  หนนี้ครูคงสื่อสารไม่ชัดเจนเอง

  เจี๊ยบแวะไปอีกทีเถิดนะคะ  ตามลิงก์นี้ที่ครูแปะไว้ 
 http://learners.in.th/profile/starkiss

            ......ครูจะรอนะคะ......   : )

สวัสดีค่ะด๊ะ (หามี้ดะ)

ด๊ะพูดสั้นๆอย่างเคยนะคะ  เมื่อไหร่จะบ่นเอ๊ยพูดยาวๆอย่างครูมั่ง  เจอกันเกือบครึ่งเทอมแล้ว  ไม่ติดนิสัยครูไปมั่งเหรอจ๊ะ  : )

ขอบคุณที่มองเห็นอารมณ์สุนทรีย์ (สมัยสาวๆ)ของครูนะคะ  เพราะตอนนี้ครูไม่ค่อยได้ทำ "ของเล่น" แบบนี้บ่อยนัก  แต่ชอบอะค่ะ   ได้อารมณ์ สิน-ละ-ปิน ดี

ว่าแต่วันนี้ครูคงพูดอะไรตกหล่นไปจริงๆ  ครูขอให้ด๊ะแวะไปที่เลิร์นเนอร์ส์อีกทีเถิดนะคะ  ตามลิงก์ที่แปะให้นี้  http://learners.in.th/profile/starkiss

แล้วลองโพสต์อีกที  ที่อีกสองบันทึกที่ครูบอก  บันทึกไหนก็ได้ก็ได้  ครูอยากฟังด๊ะพูดยาวๆกว่านี้อีกนิด  อีกนิดเดียวเอง ....นะคะด๊ะ...   : )

สวัสดีค่ะพี่เจี๊ยบ (ปรีดา)

ครูก็ดีใจ(แบบว่าโล่งอก)ที่เด็กๆอ่านแล้วไม่หาวหวอดๆ   คือตอนเขียนครูก็หนุกหนานลั้นลันลาของครูไปนะคะ  ..........และครูก็เชื่อว่าเด็กๆทุกคนจะเขียนได้ดีในแบบฉบับของตัวเอง  ขอเพียงแต่เราหาตัวเองให้เจอ    ครูทำได้แค่ "ช่วย"  เป็นพี่เลี้ยง  แต่ครูไป "สั่ง" หรือ"กำหนด"  ให้เป็นไม่ได้  การเขียนคงเหมือนการสั่งสมโดยประสบการณ์และการฝึกเป็นความถี่ซ้ำๆ   ..... จนกลายเป็นลักษณะเฉพาะตัวของเรา  ถึงวันหนึ่งมันจะออกมาเอง

เพียงแต่วันนี้ครูขำตัวเองว่ามีเด็กๆแวะมาที่นี่ตั้งสี่คน  แสดงว่าใช้กูเกิลค้น  แต่ไม่ได้ดูชื่อเว็บไซต์  หรือไม่ครูก็บอกไม่ชัดเองมังคะ  

พี่เจี๊ยบแวะไปที่ลิงก์นี้อีกทีเถิดนะคะ 
http://learners.in.th/profile/starkiss
 แล้วช่วยโพสต์ความเห็นแบบที่เป็นตัวของตัวเอง อย่างนี้อีกทีเถิดค่ะ    ครูจะรออ่านความเห็นของพี่เจี๊ยบอีกนะคะ  : )

สวัสดีค่ะน้องแพร (สาวิณี)

ดีใจนะเนี่ยที่เขียนแบบ คิด ม่าย ออก แล้วตรงใจน้องแพร : )  และที่ดีใจยิ่งกว่าคือที่น้องแพรบอกว่า
       "เมื่อนึกอีกครั้งก็อยากเอางานกลับแก้ไขให้ดีกว่าเพราะตอนทำจริงไม่ได้ตั้งใจทำในผลงานเท่าไหร่จึงอยากทำใหม่ให้ดีกว่าเดิม"
เคล็ดลับของการเขียนให้ดีอยู่ตรงนี้แหละค่ะน้องแพร  และครูก็เชื่อว่าถ้าตั้งใจจริง.....น้องแพรจะทำได้ดีเลยแหละ 

ว่าแต่น้องแพรอ่านที่ครูตอบของเพื่อนๆข้างบนหรือยังจ๊ะ   วันนี้ครูบอกให้เด็กไปโพสต์ความเห็นที่ บล็อกของครู  ที่เลิร์นเนอร์ส์  (ที่เด็กๆไปเปิดบล็อกไว้)  ช่วยเข้าไปที่  เลือกอ่านบทความ(บันทึก)ที่ครูแจ้งไว้  แล้วช่วยตั้งใจโพสต์ใหม่อีกที  ไปตามลิงก์นี้นะจ๊ะน้องแพร  
: )
http://learners.in.th/profile/starkiss

  • สวัสดีครับ
  • เข้ามาซึมซับความงามของเรื่อง, คำและความหมาย  รวมถึงอารมณ์อันละเมียดละไม
  • ผมชอบถ้อยคำเหล่านี้จังเลยครับ ..ชอบกลางคืนชะมัด  แต่อยากให้ฟ้าสว่าง ...
  • ....
  • หัวใจมีปีกเสรี,  แต่นั่นก็ใช่ว่าปีกแห่งเสรีจะได้รับเสรีในเส้นทางเสมอไป
  • ดีใจครับที่รู้ว่า ... บางเส้นทาง หัวใจของใครหลายคนยังได้ใช้ปีกเสรีอย่างเสรี...

สวัสดีครับ ท่าน ดอกไม้งามในทะเลลึก

P

มาแบบเขียนไม่ออกเหมือนกันครับ 

เลยมาจิ๊กบางส่วนไปรวมครับ ขอบคุณมากครับ

http://gotoknow.org/blog/mrschuai/113523#

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน

          ตอนอ่าน "ลำนำ" ที่แสนละเมียดละไม ของคุณแผ่นดินใน G2K ใหม่ๆ  ดิฉันก็ได้ตามอ่านอย่างเพลิดเพลินเบิกบานเป็นที่ยิ่ง  เพราะเวียนหฤทัยกับภาษาวิชาการที่ต้อง(ตีลังกา)เขียนอยู่ทุกวันเต็มที  

         ถ้อยคำเป็นสื่อนำเสนอตัวตนของผู้สื่อสาร  ถ้าสมมุติฐานนี้เป็นจริง  ดิฉันก็เห็นด้วยกับน้องเบิร์ดเป็นอย่างยิ่ง  ที่เคยบอกไว้ว่า  คุณแผ่นดิน  น้องเอก(จตุพร) และคุณคติ  มีอะไรบางอย่าง"ในการสื่อสาร" ที่นุ่มนวล อ่อนโยน และละเอียดอ่อน" คล้ายๆกัน   แบบที่สุภาพสตรีเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์อย่างดิฉันทำไม่ได้

        หัวใจดิฉัน มีปีกเสรีเมื่อนานมาแล้วค่ะคุณแผ่นดิน   ตอนนี้กลายเป็นปีกกาไปเป็นทีๆ  คือต้องเรียนรู้ที่จะทำอะไรให้เข้ากับขนบวิชาการ  แต่นั่นก็ยังไม่ทุกข์เท่าการตัดปีกเสรีของจินตนาการ ของเด็กๆที่ดิฉันสอน  ให้เหลือเพียงตัวอักษร A B C และ D  

        คือว่าปวดใจชะมัดเลยอะค่ะ.....
  
         "หัวใจมีปีกเสรี,  แต่นั่นก็ใช่ว่าปีกแห่งเสรีจะได้รับเสรีในเส้นทางเสมอไป"

  
        ขอบคุณที่แวะมาด้วยความเข้าใจจริงๆนะคะ  : )

สวัสดีค่ะ เล่าฮู
P

            เห็นนามแฝงตัวเองทีไร  ...นึกกลุ้มใจในความ "งามยุ่บยั่บ" ทุกที  แอมแปร์ไม่รู้จริงๆว่าจะเป็นตัวร้อยหนวดอะค่ะ  ....
             แต่เพื่อนปลอบใจว่าอยู่ลึกออกยังงั้นคงไม่มีใครเห็นหรอก  มีแต่เล่าฮูนี่แหละค่ะ  ที่ตาแหลมมองเห็นความงามในนามแฝง  สมเป็นแพนด้าแห่งอนาคตจริงๆ   อิอิ  : )
             
ช่วงนี้แอมแปร์เร่งงานสอนก็เลยไม่ค่อยได้แวะไปทัวร์บันทึกประชาชนมากนัก  แต่ก็ยังระลึกถึงอยู่เสมอนะคะ  เล่าฮูสิทธิรักษ์  
: )

สวัสดีครับพี่แอมป์

  • เข้ามาสวัสดีครับ สบายดีไหม บายดีหม้าย สบายดีบ่
  • เข้ามาชมความ สว่าง ความมืด ความลาดเอียง ความเที่ยงดิ่งของต้นไม้ และหลากหลายอรรถรส
  • โอเคแมะ จะลองเปลี่ยนมาเป็น ลองแลหม้าย
  • หรือ เอาหม้าย
  • หรือ หมันแหล่ว  ผางเข้าแล้วละก้า ก็ได้ครับพี่ อิๆๆๆ
  • คิดถึงและรักษาสุขภาพนะครับพี่สาวที่แสนดี
  • กราบงามๆ ยามเย็น ครับ

ขอนอกรอบหน่อยครับ

ผมสนใจเรื่องน้องนักศึกษาที่เพิ่งจากไปน่ะครับ

พีี่แอมป์เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ

อยากรู้ว่าปัญหาจริงๆ มันคืออะไรครับ  ผมไม่อยากสรุปเอาจากข่าว(ลือ) 

สวัสดีครับ 

ขอบคุณอาจารย์ที่เข้าไปเยี่ยมชม พร้อมทั้งให้กำลังใจในบันทึกนะคะ   

เห็นชื่อบันทึกของอาจารย์ฉบับนี้ แล้ว โดนใจ อย่างแรง (ต้องห่อลิ้นหน่อยนะคะ จะได้สำเนียงใต้) เพราะได้รับมอบหมายให้เขียนบทความวิชาการเสนอในงานสัมมนา  โดยเค้าให้เขียนไม่เกิน 7 หน้า  แต่อาจารย์ขา เนื้อหาที่จะต้องนำมาวิเคราะห์ สรุป แล้วเรียบเรียงใหม่นั้น  เท่าที่มีอยู่ในแฟ้มก็หนาประมาณ 4 นิ้ว ไม่รวมที่อยู่ใน HardDisk และในหัวอีกบานเลยค่ะ

กำลังกลุ้มใจว่าจะเขียนให้ครอบคลุม ภายใน 7 หน้าได้ยังไง   ตั้งท่าเขียนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แล้วก็ยังไม่ถึงไหนซักทีค่ะ

สวัสดีค่ะน้องเม้ง

  • เม้งสบายดีนะคะ พี่แอมป์สบายดีเป็นระยะๆ
  • ขอบคุณที่แวะมาชมจันทร์และต้นไม้ค่ะ ขอรับรองว่าตอนเขียน พี่แอมป์อยู่ในระยะสบายดี
  • วันก่อนที่พี่เจอเพื่อนที่เป็นนักเขียน   ตอนที่เพื่อนเขาคุยโทรศัพท์เป็นภาษาใต้อย่างสนุกสนาน  พี่แอมป์ฟังอย่างเพลิดเพลินและรู้สึกดีชะมัดเพราะเข้าใจความหมาย  เข้าใจน้ำเสียง 
    เข้าใจความเป็น"ภาษาใต้"มากขึ้น  ต้องขอบคุณเม้งและหลายๆท่านที่เขียนถึงคำภาษาถิ่นนะคะ 
  • การเขียนเล่าถึงภาษาที่ใช้จริงๆและสื่อความหมายอย่างเป็นธรรมชาติในชีวิตจริง แบบสนทนากันให้"อ่าน" หลังจากที่ได้"ฟัง" มานานพอแล้วนั้น  ทำให้เกิดความเข้าใจที่ละเอียดและลึกซึ้งขึ้นอีก .....พี่เลยฟังเพื่อนคุยด้วยความรู้สึก "จับใจ" จัง
  • ตอนนี้พี่กำลังทำ รี-เสิด การใช้คำว่า โอ.เค.ในภาษาไทยอย่างเมามัน  (ทำแบบเอามันส์ส่วนตัว)  จะได้เอาที่เม้งแปลให้ไปแปะไว้ด้วย  แปะไปขำไป  อิๆๆๆ
  • เช่นกันค่ะ  : ) และขอให้ รี-เสิด ของเม้งราบรื่นผ่านฉลุยโดยเร็วนะคะ     เห็นภาพคุณพ่อกับคุณแม่ของเม้ง  ที่ อ.ดร.แสวงถ่ายมาฝากจากบ้านแล้วชื่นใจแทน  คราวนี้เห็นทีจะไปไวกว่าเติมน้ำมันโซล่าร์
  • อ่า...อุ้ย... กราบเลยละหรือเจ้าคะ    อิฉันพนมมือไหว้ตอบแทบไม่ทันอะค่ะ ทั่น   อิอิ

Pสวัสดีค่ะน้องเทพ

          ขอบคุณมากสำหรับความห่วงใยในข้อเท็จจริงค่ะ  พี่ก็อยากทราบและอยากเข้าใจที่มาที่ไปของปัญหาเหมือนน้องเทพเลยค่ะ   เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้รับผิดชอบทุกฝ่าย
 
          ขณะนี้ได้ทราบข้อมูลเฉพาะจากสื่อโดยไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงจากครอบครัวโดยตรง   ผู้เกี่ยวข้องกำลังเร่งหาข้อมูลและข้อเท็จจริงจากบุคคลแวดล้อมทุกฝ่าย

          มีความคืบหน้าอย่างไรพี่แอมป์จะรีบมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ

สวัสดีค่ะคุณvisitsri

       ยินดีที่แวะมาเยี่ยมบันทึกค่ะ     คุณvisitsri เขียนถึง"ฟ้าจรดทราย"ได้น่าอ่านนะคะ  ทำเอาอยากไปดูอีกรอบ : )
      
       ดิฉันก็อยู่ในช่วงเขียนงานวิชาการแบบว่าต้องสรุปห้าเล่มยักษ์ให้เหลือประโยคหลักประโยคเดียว
ยังนั่งขำตัวเองอยู่เนี่ยค่ะ  สรุปทีไรไปเรื่อยเจื้อยยาวเป็นวาทุกที  แต่ของคุณ visitsri    ท่าทางจะดุเดือดกว่าของดิฉัน เพราะต้องวิเคราะห์ สรุป  และเรียบเรียงใหม่อีกต่างหาก  เร้าใจดีชะมัดเลยค่ะ
      (โดยเฉพาะข้อมูลที่อยู่ใน head disk

       เอาใจช่วยคุณvisitsri    ให้เขียนครอบคลุมภายใน 7 หน้านะคะ  เพราะเลขดูเป็นมงคลดี  ขอให้เขียนออกลิ่วๆๆไปเลยนะคะ 
หลานเด็กน้อยสารภี

ที่เข้ามาดึก ๆ เพราะมาหายานอนหลับค่ะ

(ล้อเล่น!!)

ตอนแรกคิดว่าอาจารย์เขียนบอกอะไรน้องนิเทศซะอีก

ตกลง ว่าบอกน้องเอกไทยเหรอคะ ?

ถึงแม้' จารย์จะไม่ให้เด็ก ๆ เขียนบันทึกส่งแล้ว

อิฉานคิกว่า จารย์คงมีวิธีการสอนในใจเจ๋ง ๆ อยู่แล้วล่ะค่ะ ..

สวัสดีค่ะน้องแหม่ม

         ทำไมนอนดึกนักจ๊ะ .....  : )

         บันทึกนี้ครูเขียนลั้นลาไปตามใจตัวค่ะ  ไม่สามารถจัดเข้ารายวิชาของนิเทศศาสตร์ที่สอนในเทอมนี้ได้   แต่จัดเข้าวิชา ความคิดสร้างสรรค์ทางภาษาไทยได้   ครูเลยสั่งงานเอกไทยไปสามตั้งใหญ่ๆ    แล้วครูก็ต้องมาเขียนเองตาตั้ง  เพราะไปบอกเด็กๆไว้ว่า  "คุณเขียนเท่าไหร่  ครูก็เขียนเท่านั้น"     เลยต้องเขียนกันเมื่อยมือ.......    อิอิ  

         ของน้องนิเทศ  ครูก็กำลังฝึกเขาอยู่ค่ะ  และก็จะพยายามต่อไป  ส่วนวิธีสอนนี่ครูเองก็ตอบไม่ค่อยถูก.... 
         ขอแค่เด็กๆไม่หลับกันครึ่งห้องก็เป็นพระคุณแล้วอะค่ะ  : )

คิดถึงมากกกกกกกก : )

มัทเขียนอะไรที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก สิ่งที่เห็นที่ได้ยินในชีวิตประจำวันได้มากมาย

เป็นพวกถูกกระตุ้นง่าย เห็นอะไรแล้วคิดต่อไปเพียบ จดไว้เพียบ แต่สั้นๆนะคะ มีสมุดเก็บไว้เหมือนกัน

แต่..... เขียน thesis ไม่เสร็จซักที ..... มันยาว : P

คิด ม่ายยยย ออก : ) 

ไว้รอพี่แอมป์รวมเล่มสมุดบันทึกนะ : ) 

โอ้..   ดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  : )

กำลังคิดถึงเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ อ.มัท  ขณะเดียวกันก็ลุ้นให้ อ.มัท  คิดออกทุกวัน  และตะลุยงานผ่านไปอย่างคล่องแคล่วเฉียบฉลุย

thesis นี่เวลาเขียนออกละก็ "มันส์" ชะมัดละ  ไม่หลับไม่นอนสามคืนติดกันก็ยังไหว  แต่เวลา "คิด ม่าย..ย  ออก" นี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันเนอะ  ต้อง(หาเหตุ)ออกไปเที่ยวไหนๆสักพัก   อย่างเช่นไปเก็บสตรอเบอรี่ .... อิอิ


สงสัยพี่แอมป์จะเป็นพวกถูกกระตุ้นง่ายเหมือนกันอะค่ะ  เห็นอะไรแล้วชอบคิด  ตอนไล่จดนี่ยิ่งสนุก  เพราะความคิดมันไปเร็ว เหมือนกำลังวิ่งไปคุยไป  คุยกับตัวเอง  คุยเองสนุกเอง แล้วก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว  ขำอะ

อยากอ่านธีสิส อ.มัทที่สุดเลย  พี่แอมป์จะรอตอน อ.มัทแปลเป็นภาษาไทยนะคะ  จะตัดแว่นรอไว้สองอันเลยจ้า   
: )

สวัสดีค่ะพี่แอมป์

เดินยิ้มๆจากเขียนเรื่อยเจื้อย ของพี่แอมป์มาเจอ คิดม่ายออก..ยิ่งทำให้หัวเราะก๊ากเลยล่ะค่ะ เพราะเบิร์ืดกำลังคิด ม่าย..ออกจริงๆว่าจะลิขิตเรื่องอะไรดีถึงแม้จะมีแรงบันดาลใจจากบันทึกเขียนเรื่อยเจื้อยก็ตามแต่

แว่บ..... ปิ๊ง.....!   ที่ว่า....  จู่ๆมันก็มาเอง
มาแล้วอย่าทิ้งนะคะ  หาสมุดเล็กๆซักเล่มจดเก็บไว้ จดไว้ทุกวัน  เดี๋ยวก็เต็มเล่ม
และเมื่อถึงสักวันหนึ่ง.....  มันจะวิ่งมาต่อกันเอง
                                           

พูดจริงๆนะคะ  .....มันจะวิ่งมารอ...
และบอกเราว่าจะมาต่อกันแล้วนะ  หยิบปากกามาเร้ว..ว..ว                                                     และเมื่อถึงวันนั้น...

                              ขอให้สนุกกับ"การเขียนอย่างได้อย่างใจคิด" นะคะ

.................................................

เบิร์ดล่ะรอ ร้อ รอ เจ้าแว่บปิ๊งนี่มานานแสนนานเลยล่ะค่ะพี่แอมป์ เพราะพยายามจะญาติดีด้วยก็แล้ว พยายามจะหาทางพูดดีด้วยีก็แล้ว พยายามฟังด้วยใจ หัว หู ทั้งหมดทั้งมวลก็แล้ว  หรือแม้แต่ขุดบ่อล่อจระเข้ก็แล้ว  คุณเธอ ก็ยังมาแบบเป็นพักๆ ชั่วครั้งชั่วคราว นานๆมาที ไม่ยอมมาแบบค้างคืน เอ๊ย..บ่อยๆครั้งมาถี่ๆซักทีเลยล่ะค่ะ

มีวิธีจับตัวไว้เลยบ้างมั้ยคะจะได้ไม่ต้องวิ่งไล่จับหรือขุดบ่อล่อตะเข้ตะโขงให้เหนื่อยอีก

ขอบพระคุณมากๆค่ะสำหรับบันทึกที่น่ารักๆของพี่แอมป์ อืม...ลองเล่าเรื่องด้วยภาพอีกสักทีถ้าจะดีแฮะ ( อันนี้บ่นกับตัวเองนะคะพี่แอมป์ เพราะคุณปิ๊งแว่บเธอ เพิ่งเข้ามาตะกี้ แต่ก็หนีไปอีกแหล่ว ) 

สวัสดีอีกทีจ๊ะเบิร์ด

        พี่แอมป์นั่งหัวเราะฮ่าๆๆ อย่างกุลสตรีอยู่พักนึงละ  ขำคุณลิขิตรี ระดับมือโปรอย่างเบิร์ด   ถ้าเบิร์ด  ...คิด  ม่าย  ออก..  แล้วอย่างพี่จะเหลือเหรอจ๊ะ  อิอิ

       ของพี่ใช้วิธีบ้านๆ  คือ จับและจำอารมณ์ตอนนั้นไว้  โดยอัตโนมัติ  ถ้ามีภาพ แสง สี เสียง กลิ่น รส อะไรก็ตาม  ก็จำไว้ให้หมด  แล้วจับปั๊บใส่ลิ้นชักในหัวเรา  เก็บสต็อกไว้ในกล่องอารมณ์และความรู้สึก  มันจะเชื่อมกับคลังคำชุดนี้ที่เราสั่งสมไว้ในหัว หู และใจโดยอัตโนมัติ    (ดูซิเบิร์ด...พี่เลยเป็นไปด้วย)

        พอถึงเวลาที่ข้อมูลหนาแน่นเข้มข้นและระดับอุณหภูมิอารมณ์ได้ที่     เธอจะเดือดปุดๆๆๆๆอย่างร่าเริงและมีพลัง  แล้วเธอก็จะแว่บ..บ..   ดัง       ปริ๊ง..ง..ง...ง... ง...   เป็นประกายดาวสีทอง   (แบบที่พร่างประกายออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของนางฟ้า  อิๆๆๆ)

        ถึงตอนนี้   ต้องหยุดกิจกรรมอื่น  แล้วรีบกระโจนไปจับกระดาษปากกา(หรือคีย์บอร์ด)  แล้วก็เขียนๆๆๆๆๆๆๆๆ    เขียนทันทีเมื่อมีอารมณ์   ทุกอย่างจะพรั่งพรูออกมาจากหัวและใจ    ถึงตอนนั้นอย่าได้รีรอ  ก่อนที่เธอจะวิ่งจู๊ดหนีหายไปอีก 

        การสื่อสารคือการระบายอารมณ์ชัดๆละทีนี้  ถ้าไม่มีอารมณ์  เก๊าะแปลว่าไม่มีอารมณ์  คือถ้าไม่รู้สึกอยากเขียน   ก็แปลว่าไม่อยากเขียน  ยิ่งฝืนเขียนจะยิ่งฝืดคำ    และจะกลายเป็นการเขียนที่แสนจะฝืดฝืน    คนเขียนก็ขมขื่น  คนอ่านก็รันทด  หมดอารมณ์กันไปทั้งสองฝ่าย.....เศร้าชะมัด  ....

       อ๊าว.... เบิร์ดหัวเราะไมน่ะ ?    พี่พูดเรื่องเศร้านะเนี่ย   อิๆๆ  : )

ซาหวัดดีค่ะ..คุณ แอมป์   ได้เวลามาแบบให้สุ้มให้เสียง ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..อ่านบันทึกนี้แล้วมีแบบว่า หัวเราะฉุกเฉิน..ดีนะคะไม่มีใครอยู่ข้างๆ ...ดีมากเลย..อ่านแล้วมีความสุขดี...ในความไม่มีอะไร ก็มีอะไรมากมายอยู่ดี...เนอะ... และก็..คิดถึงน่ะ..เลยเอาดอกไม้เมืองชัยภูมิมาฝากค่ะ...ขอให้มีความสุข อารมณ์สุนทรีย์ ต่อไปนะคะ....

img474/4923/12820lg2.jpg

หวัดดีค่ะคุณแหวว

         ขอตอบแบบไฮไลต์ด้วยคน  อิอิ  ขอบคุณมากค่ะสำหรับดอกกระเจียวเมืองชัยภูมิที่สวยแปลกตา  คุณแหววมีของฝากหวานๆสมชื่ออะค่ะ  แต่ที่คุณแหววหัวเราะ  ฮ่า..  ฮ่า.. ฮ่า..  อย่างเปิดเผยและจริงใจนี่ทำให้แอมแปร์ดีใจหนักเข้าไปใหญ่   อย่างนี้แหละค่ะถึงจะเข้ากันได้กับลูกสาววัยรุ่นอย่างหนูอิน

        ขอให้ทั้งคุณแม่และคุณลูก  มีความสุขมากๆในวันแม่ปีนี้นะคะ  
: )

  • มนุษย์  คือ เสรีภาพก็จริง..
  • แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดในโลกความเป็นจริง
  • เสรีภาพ  , บางทีก็เกี่ยวโยงกับบทบาทและสถานะด้วยเช่นกัน  ...ใช่ไหมครับ
  • แต่อย่างไรก็ตาม...
  • หัวใจก็ติดปีกแห่งเสรีอยู่วันยังค่ำแหละครับ ...
  • .....
  • คุณเบิร์ดก็พูดเกินไปแล้วกระมังครับ ...  คุณแผ่นดิน  น้องเอก(จตุพร) และคุณคติ  มีอะไรบางอย่าง"ในการสื่อสาร" ที่นุ่มนวล อ่อนโยน และละเอียดอ่อน" คล้ายๆกัน   แบบที่สุภาพสตรีเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์อย่างดิฉันทำไม่ได้ ....
  • .....

สวัสดีค่ะ Pคุณแผ่นดิน

ขอบพระคุณจริงๆค่ะที่แวะมายืนยันว่า "หัวใจก็ติดปีกแห่งเสรี"  อยู่วันยังค่ำ   ฟังแล้วรู้สึกเบิกบานดีจังเลยสามารถบินต่อได้อย่างสบายใจอะค่ะ  .....

ที่ดิฉันจำมาจากบันทึกของน้อง ไม่แน่ใจว่าบันทึกไหนนะคะ  แต่ถ้อยคำคล้ายๆอย่างนี้     "คุณแผ่นดิน  น้องเอก(จตุพร) และคุณคติ  มีอะไรบางอย่าง"ในการสื่อสาร" ที่นุ่มนวล อ่อนโยน และละเอียดอ่อน" คล้ายๆกัน"     และไม่เกินจริงดอกค่ะคุณแผ่นดิน   เพราะตามอ่านกี่บันทึก ก็ยังรู้สึกอย่างที่บอก  : )

แต่ที่บอกว่า  "แบบที่สุภาพสตรีเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์อย่างดิฉันทำไม่ได้ ...."  สุภาพสตรีที่ว่าหมายถึงตัวดิฉันเอง     อยู่ใกล้ๆเบิร์ดทีไรเป็นต้องเหลือเก้าสิบห้าเปอร์เซนต์ทุกที   เพราะขืนมัวเสงี่ยมเฟี้ยมก็อยู่วิ่งไล่กวดไม่ทันนกเอ๊ยไม่ทันน้องอะค่ะ   : )

เป็นยังไงบ้างครับ,  การงานหนักหน่วงหรือเปล่า ..

ตอนนี้  คิด..ม่าย...ออก

เลยยังไม่เขียนบันทึกหรือเปล่าครับ, ยังไงก็รอ (ได้) ..เสมอนะครับ....

สวัสดีตอนสายค่ะคุณแผ่นดิน

        ขอบพระคุณที่แวะมาทักทายค่ะ  วันนี้โชคดีที่เป็นวันหยุด (แบบของแถม  คือไม่ได้มีมาก่อนในปฏิทิน)  เลยได้พักทำอะไรโน่นนี่อย่างมีความสุขได้ตั้งครึ่งวัน
        แต่อีกครึ่งวัน...  ต้องไปทำงานอีกแล้ว  เลย "หนักหน่วง" แบบที่คุณแผ่นดินว่านั่นเลยค่ะ  ตรงใจดีจริงๆ 
        และจริงๆแล้ว ดิฉัน "คิด ออก  แล้วววว..."  และออกเยอะด้วย  แต่ " เขียน  ม่าย..ย..  ทัน" เพราะแต่ละวันช่างมีโน่นมีนี่มีนั่นมาเบรคอารมณ์ สิน-ละ-ปิลล์ ของดิฉันให้ชะงักเป็นช่วงๆได้ตลอดเวลา
       แต่โชคดีเหลือเกินค่ะคุณแผ่นดิน  ที่โลกนี้มีกระดาษกับปากกา  ทันทีที่"รู้สึก"   หรือ "คิด" อะไรขึ้นมา    ดิฉันก็คว้าเครื่องมือแห่งความสุขขึ้นมาก้มหน้าก้มตาเขียนๆๆๆๆๆๆๆ   จนลืมโลกภายนอกไปชั่วขณะ 
        ท่ามกลางผู้คนและกิจกรรมที่แสนวุ่นวาย  ขอแค่เวลาสามนาที  กับโลกส่วนตัวใบเล็ก(บนแผ่นกระดาษ) .... ก็แสนจะมีความสุขอะไรเช่นนี้  : )  
        ดิฉันชอบจังเลย  ที่ได้เห็น(ตอนแก่)ว่ามนุษย์ทุกคนสามารถผลิตความสุขเล็กๆ  เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่จิตใจของตนเองได้  โดยไม่ต้องเริ่มด้วยการคิดเบียดเบียนใคร     ทำให้รู้สึกว่าใจเบิกบานดี
         ดังนั้นแม้จะเจอการงานที่หนักหน่วง เราก็จะไม่ "เหนื่อยหน่าย"  (ที่ใจ)โดยง่าย   .
         ..... แค่ "เหนึ่อยหน่อย" (ที่กาย) ...  พอกลับถึงบ้านก็มีความสุขแล้วค่ะ...   : ) 

เมื่อเช้า ผมตามเรื่องที่อยากรู้เข้ามาใน gotoknow.org พอดี ทำให้นึกถึงพี่ขึ้นมาได้ว่าเคยชวนให้เข้ามาอ่านบล็อกที่นี่ ก็เลยลองค้นดู พอเจอนี่ ต้องบอกว่า ทึ่งจริงๆ ครับ แม้ว่าจริงๆ แล้วผมจะเคยเข้ามาแล้วแว๊บๆ  เมื่อกาลครั้งหนึ่่งที่จำไม่่ค่อยได้แล้ว แต่ตอนนั้นดูเหมือนบล็อกจะยังไม่มีความเคลื่อนไหว

มากเหมือนตอนนี้ หรือบางที่ผมอาจจะยังดูไม่ทั่วถึง ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

น่าทึ่งครับที่พี่เขียนไว้เยอะแยะขนาดนี้ อ่านกันไม่หวาดไม่ไหวเลยเนี่ย สุดยอดจริงๆ 

เมื่อเช้าผมมีเวลาน้อยเลยยังไม่ได้อ่าน นี่ดึกๆ ก็เลยมานั่งดูอีกที แต่เดี๋ยวจะค่อยๆ ทะยอยอ่านครับตามกำลังครับ

 

 

 

สวัสดีด้วยความคิดถึงน่าดูเลยจ๊ะ ปะการังน้อยๆของพี่

             ดีใจจังเลย....และนึกไม่ถึงเลยว่าน้องจะแวะมาบันทึกนี้  พี่แอมป์เลยรีบโพสต์ภาพใหม่      หลังจากที่ภาพประกอบในบันทึกอันตรธานหายไป(หน้าตาเฉย)อยู่พักนึง 

             พี่แอมป์รู้สึกขอบคุณเออยู่เสมอนะจ๊ะ  ที่น้องเข้าใจ(และทำใจได้เมื่อ)ฟังพี่แอมป์"บ่น" เรื่องการรู้เท่าทันการสื่อสารนานเป็นชั่วโมง  และเข้าใจในการสื่อสารอันสับสนอลหม่านของพี่แอมป์เป็นอย่างดี  

              แม้ว่าพี่จะพูดอะไรมั่วตั้วมั่วตุงอยู่เสมอ  เอก็ยังคงรับฟังพี่ด้วยท่าทีนิ่งสงบ (แบบปะการังน้ำลึก..อิอิ) อย่างใจเย็น  ทำให้พี่รู้สึกเย็นใจเสมอเมื่อได้คุยด้วย   .....และจะว่าไปแล้ว  ในโรงเรียน  พี่แอมป์ก็คุยเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจังกับน้องคนเดียว  พี่เลยภูมิใจเสนออยากให้อ่านมาก   เพราะน้องรู้จักตัวเป็นๆของพี่แอมป์   และมักจะมีคำแนะนำดีๆให้พี่แอมป์ทึ่งได้เสมอ  แล้วก็ปฏิบัติจริงได้ด้วย   

              สำหรับเรื่องต่างๆที่พี่แอมป์เขียนที่นี่ จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องทั่วๆไปที่มิได้เป็นงานเขียนเชิงวิชาการที่ลึกซึ้งแต่อย่างใด  พี่แอมป์เพียงแต่เขียนไปอย่างที่เห็น รู้สึก และคิด  
              ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่งของชีวิต 

               การได้เขียนอย่างที่คิด  การได้ถ่ายทอดอย่างที่รู้สึกนั้น  เป็นอิสรภาพทางจิตวิญญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์   .....ว่าเข้าไปนั่น.....  : )

              และการได้สื่อสารกับผู้ที่มีความเป็นกัลยาณมิตร ในพื้นที่การสื่อสารที่มีวุฒิภาวะอย่างนี้  พี่แอมป์รู้สึกว่าเป็นโชคดีมหาศาล  พี่ก็เลยเขียนๆๆๆ อย่างมีความสุขสนุกสนานมากจ๊ะ  

             พี่เดินผ่านโต๊ะคอมฯที่เอชอบมานั่งเสิร์จข้อมูลแล้วคิดถึงทุกที   รูปสวยที่เอส่งเมลมาคราวนั้นก็ทำให้สาวๆแถวนี้กระตือรือร้นอยากข้ามน้ำข้ามทะเลหนักเข้าไปอีก  เข้าใจทำนะน้อง  ....ถูกใจคนชอบเที่ยวจริงๆ....

สุดท้ายนี้ขอบคุณมากๆๆอีกครั้งนะจ๊ะที่ปะการังน้อยๆของพี่แวะมาเยี่ยม  ตอนนี้หิมะตกหรือยังจ๊ะ   ใกล้คริสต์มาสแล้วเนอะ    หนาวมากมั้ย  อย่าลืมรักษาสุขภาพและขอให้น้องมีความสุขในทุกจังหวะของชีวิตนะจ๊ะ   : )

สวัสดีครับ

       เข้ามาอ่านบันทึกที่มีสีสันมากๆ สนุกดี ดูมีชีวิตชีวา ไม่ค่อยเป็นทางการเหมือนบันทึกของพี่ เพราะคงเป็นอาจารย์ภาษาไทย ระเบียบกฏเกณฑ์มีมากและมักถูกนักศึกษาค่อนแคะถ้าเผลอใช้ภาษาพูดในภาษาเขียน ทำให้งานเขียนของพี่กลายเป็นบทเรียนสำคัญของนักศึกษาเอกภาษาไทยที่ต้องการตัวอย่างการใช้ภาษาที่ดีไปโดยปริยาย  ยกเว้นจะบอกนักศึกษาว่า บันทึกนี้ต้องการเขียนโดยใช้ภาษาพูด เพื่อสร้างสีสัน จึงจะรอดตัวไป

        เขียนไม่ออก  บอกไม่ได้   

หัวคิดตื้อไป  เหมือนเทียนไขอับแสง

หากปล่อยใจให้ว่าง  ปล่อยวางอย่าแกล้ง

สิ่งที่อับแสง  สว่างพลันวาบคิด

บางทีเหนื่อยล้า  บางทีอ่อนระโหย

ความคิดคนโดย  เกิดเหมาะเพราะวาง

    เขียนเป็นเครื่องเตือนใจ บางทีพี่ปล่อยวางไป 2-3 วันจึงคิดออก  เรื่องธรรมดาครับ

  P  สวัสดีค่ะพี่กรเพชร

ดีใจจังเลยค่ะที่พี่กรเพชรแวะมา   แอมแปร์ชอบอ่านเรื่องราวความรู้ดีๆทางภาษาไทยที่พี่เขียนมากนะคะ   แต่แอมแปร์เขียนถ่ายทอดไม่ได้อย่างพี่   เขียนทีไร.... มักออกไปทางถ่ายทอดความรู้สึกมากกว่าความรู้ทุกที....   

การเป็นต้นแบบนี้สำคัญจริงๆค่ะ  อาจารย์ภาษาไทยต้องแม่นยำในหลักการเขียน ตามระเบียบกฏเกณฑ์ที่ถูกต้อง   ซึ่งจำเป็นมากที่จะต้องอธิบายให้เด็กๆเข้าใจ ว่าในกาลเทศะใดควรเขียนสื่อสารให้ถูกต้องตามหลัก  และเมื่องานเขียนของผู้สอน  " เป็นบทเรียนสำคัญของนักศึกษาเอกภาษาไทยที่ต้องการตัวอย่างการใช้ภาษาที่ดี" อย่างที่พี่บอก  แอมแปร์คิดว่านี่เป็นสิ่งดีที่สุดในการสอน  คือครูทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง(ที่ดี) ได้จริงๆ

แอมแปร์เขียนอะไรไปตามใจตัวแล้วก็ออกจะหวั่นๆเหมือนกันค่ะ  เพราะเมื่อสอนการเขียนเชิงสร้างสรรค์  บางทีก็ต้องลองให้เด็กฝึกคิดนอกกรอบ  เขาจะได้มีเสรีที่จะเลือกสรรถ้อยคำมาถ่ายทอดให้ตรงใจ 

การวางตัวเองให้สมดุล   ระหว่างความเป็นตัวแบบ (แม่พิมพ์)ที่มีกรอบแน่ชัด  กับการเป็นตัวของตัวเองอย่างอิสระเสรี (ที่รู้กาลเทศะ รู้จักความพอเหมาะพอดี ) นี้มิใช่เรื่องง่ายเลยค่ะพี่กรเพชร    แต่แอมแปร์ก็รู้สึกสนุกดีที่จะได้ฝึกฝนตนเองไปทุกวัน

อย่างไรก็ตาม  สิ่งที่แอมแปร์ชอบที่สุดในการเขียนสื่อสาร  คือการถ่ายทอดทุกคำให้ตรงใจ  หัวใจเรารู้สึกอย่างไร  เราก็เขียนไปอย่างนั้น  เวลาบอกเด็กๆอย่างนี้ เธอจะทำท่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกที .....ไม่รู้เธอขำอะไร     (สงสัยคงนึกว่าแอมแปร์กำลังพูดอะไรโรแมนติกมังคะ)  : )

........ชอบกลอนสดๆของพี่จังเลยค่ะ  ตรงใจดี  : )

สวัสดีจ้ะP

พี่แวะหอบกลอนมาฝากถึงที่ครับ

            นับถอยหลังทบทวนในปีเก่า

ชีวิตเราบกพร่อง ดีไฉน

ทบทวนแล้วปรับปรุงกันต่อไป

ถึงปีใหม่ชีวิตดีมีมงคล

ตั้งใจหมั่นทำได้ไม่ตกอับ

วาสนาโถมทับมาอีกหน

ทั้งลาภ ยศ สรรเสริญเจริญตน

เกิดเป็นคนรู้แก้ไขได้ดีเอย

              มอบไว้ให้เป็นคติอีกครั้งนะครับ

สวัสดีค่ะพี่กรเพชร

ขอบพระคุณพี่มากๆเลยค่ะ ที่

แวะหอบกลอนมาฝากถึงฟากนี้
จากใจน้องถึงพี่ปรีดายิ่ง
ด้วยข้อคิดเตือนตนมงคลจริง
ถึงพร้อมสรรพสิ่งอันยิ่งพร

จักตั้งจิตคิดดีในปีใหม่
จักตั้งใจทำดีตามพี่สอน
จักคิดครบทบทวนกระบวนกร
จักสังวรมงคลกุศลธรรม 

ปีใหม่นี้ได้รับคำอวยพรอันเป็นมงคลจากพี่   รู้สึกมีกำลังใจจะทำอะไรที่ตั้งใจมุ่งมั่นไว้อีกหลายเรื่องเลยค่ะ    ขอบพระคุณพี่กรเพชรมากๆอีกครั้งนะคะ  : )

 img231/5741/11830564932789nr3.gif

มาสวัสดีปีใหม่ และขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่ส่งไปให้นะคะ...ส่วนแหววก็ขอมอบคำอวยพรไว้ ที่นี่ค่ะ

คุณแหววจ๋า.... 

แอมแปร์ว่าปีนี้เราคงอิ่มความสุขกันน่าดู    เพราะเราอวยพรกันไปอวยพรกันมาอย่างตั้งใจและเต็มใจ   และนั่นก็เป็นความรู้สึกที่ดีชะมัด

ความรู้สึกว่าเรามี เพื่อน นี่ดีจังค่ะคุณแหวว ถึงจะยังไม่เคยเจอตัวจริง  แต่แอมแปร์ก็รู้สึกว่าคุณแหววเป็น เพื่อน  และเป็นเพื่อนใจดีที่น่ารักมากด้วย เพียงแต่คุณแหววแซงแอมแปร์ไปหนึ่งก้าวยาวๆ  เพราะมีหนูอินตัวน้อย เป็นตัวแทนของความสำเร็จในชีวิตอีกหนึ่งขั้น 

การเป็นแม่  เป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิง  และความเป็นแม่  เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ในความเป็นผู้หญิง  พูดแล้วมีความสุขขึ้นมาทันที : )  ถึงแม้แอมแปร์จะมีความเป็นป้า  แต่ก็อยู่ในทีมสุภาพสตรีเหมือนกัลล์   ว่าแล้วก็ขอดีใจไชโยซะอีกทีค่ะคุณแหวว  อิๆๆๆๆ     

ขอบคุณมากๆค่ะ  สำหรับความสุขสายรุ้งสวยระยิบระยับ  ที่คุณแหววนำมาฝากถึงในบันทึก 
                                   สุขสันต์ปีใหม่นะคะ คุณแหวว : )                          

พี่แอมป์ครับ เอารูปตอนที่ ประทับใจมาฝากครับผม เป็นรูปที่ผมถ่าย ตอนที่รอเด็กๆเข้าเรียน เช้าวันที่ฝนตก มีเมฆหมอก ที่ภูเขาหลังมหาลัย ชอบมากเลยครับ

                    

 หมายเหตุ ถ่ายจากมือถือ ห้อง 1661 คร๊าบบบ

หวัดดีจ๊ะน้องต่อ

เก่งจัง  อัพโหลดภาพได้แล้ว..ว..    เห็นรูปสวยๆที่ถ่ายจากอาคาร 16 ที่น้องต่อเอามาฝากแล้วพี่ชอบใจจริงๆ  ขอบคุณมากนะจ๊ะ   วิวมหาชลาลัยของเราก็สวยไม่เบาแฮะ  พี่เห็นสีมือ "เก็บสายหมอกที่หยอกขุนเขา" ในยามเช้าของน้องต่อแล้ว  รู้สึกเย็นฉ่ำดีจัง  มองจากอาคาร 16 ตึก สนอ.ใหม่สร้างเสร็จเมื่อไหร่ ฉากหลังคงสวยไม่เบาเลยเนอะ

พี่แอมป์ขออภัยอย่างสูงที่แวะมาตอบช้าน่าดูจ๊ะ  อย่างไรก็ดี  พี่ก็เชื่อแบบเข้าข้างตัวเองหน้าตาเฉยว่าน้องต่อเข้าใจ  พี่ก็เลยยังสบายใจดีอยู่  และมาสบายใจที่สุดในวันนี้  เพราะเข้าข้างตัวเองหน้าตาเฉยอีกเหมือนกัน(โดยที่ยังไม่มีใครบอกอย่างเป็นทางการ) : )  ว่าวันที่พี่รอคอยได้มาถึงแล้ว  บัดนี้พี่น่าจะได้ไปเป็นครูบ้านๆธรรมดาสมใจ  จะได้ทำงานอย่างที่คิดว่าต้องทำให้สมอยาก   นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไอ้ที่พี่เคย "คิด ม่าย ออก"อยู่เป็นนานสองนาน  คงคิดออกวันละหลายๆแวบ  เพราะได้ไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่แล้ว(วงเล็บ สักที) 

สุดท้ายนี้ขอดีใจมากๆๆๆอีกอีกทีจ๊ะ  ที่น้องต่อมาช่วยนิเทศศาสตร์ราชภัฏนครฯ   พี่แอมป์คิดออกเห็นภาพเลยว่าความสามารถที่น้องต่อมี บวกกับความเป็นครู แบบที่น้องต่อเป็น จะสร้างคุณค่าให้แก่เด็กๆนิเทศศาสตร์ได้มหาศาลประมาณไหน   และดีใจกับน้องสาวคนใหม่ที่จะมาร่วมด้วยช่วยกันในนิเทศศาสตร์ของเรา  พี่ยังไม่ได้เจอน้องเขาเลยจ๊ะ  แต่น้องต่อคงได้เจอเร็วๆนี้  

เด็กๆที่เคย "คิด ม่าย ออก" ว่าเป็นคนนิเทศศาสตร์ต้องทำอย่างไร  คราวนี้คงมีความสุขกับการเป็นนิเทศศาสตร์ตัวจริงเสียงจริงแบบที่เขาอยากเป็นจริงๆสักทีนะจ๊ะ  : )   : )

  • มาทักทายพี่แอมป์
  • ฝากพี่ต่อทักทายพี่แล้ว
  • ปรากฏว่าพี่ต่อเป้นรุ่นพี่ที่ มศว สงขลา
  • ฮ่าๆๆๆๆๆ
  • โลกกลม
  • พี่แอมป์สบายดีนะครัย
  • คิดถึงๆๆๆๆหายไปนาน
  • หวัดดีด้วยความคิดถึงมากจ้า น้องกามนิตเอ๊ย น้องขจิต ที่ปรึกษาของน้องๆหน้าตาดี    ..เท่ชะมัด.. 
  •  อ่า.. พี่หมายถึงสโลแกน ~natadee   น่ะนะฮะ  อิๆๆๆๆ
  • พี่ก็เพิ่งรู้จากน้องต่อ  ว่ามาเจอน้องๆหน้าตาดี เอ๊ยน้องๆ มศว.สงขลาที่นี่ตั้งหลายคน  แถมยังรู้จักน้องขจิตคนดังเสียด้วย  ดีจังเลย 
  • โลกกลมจริงๆ.. !!! ..
  • คิดถึงน้องมากๆๆเช่นกันจ๊ะ  พี่แอมป์งานยุ่งเป็นยุงตีแมงวัน  สับสนอลหม่านมาหลายเดือน  เพราะงานไม่ลงตัว แต่คาดว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไป  งานของพี่จะเข้าที่เข้าทางสักที
  • พี่จะได้เลิก "คิด ม่าย ออก"  และมีเวลามาทัวร์ G2K ทักทายพี่ๆน้องๆที่คิดถึงทุกท่านอย่างมีความสุขเช่นเคย
  • ขอให้น้องขจิตมีความสุขมากๆในการทำงาน  และมีความเบิกบานเป็นอันมากในการเป็น"ที่ปรึกษา" ของหนุ่มสาว ~natadee   นะจ๊ะ  อิๆๆๆๆ

สวัสดีค่ะดอกไม้ทะเล

อาจารย์สบายดีนะคะ

ดีใจที่ได้มาอ่านบันทึก ที่นี่อีกครั้งค่ะ

ขอให้อาจารย์มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ

หวัดดีค่ะพี่แอมป์

  • ใช่ค่ะพี่  พี่ต่อเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยของพวกเราค่ะ  เลยมาเจอกันเมื่อคืนที่ผ่านมา  แล้วพี่ต่อก็บอกว่าสนิทกับพี่มากๆ น่ะค่ะ  เลยฝากคิดถึงพี่กันมาค่ะ
  • ถือเป็นพี่สาวและครูที่แสนดีเลยนะคะ  พี่ต่อว่างั้น
  • เลยดีใจกันใหญ่เพราะต่างก็คนใกล้ตัวกันทั้งนั้น
  • ว่าแต่พี่แอมป์สบายดีอยู่นะคะ
  • รอคอยอ่าน  "บทความตามใจ--ดอกไม้"  อยู่นะคะพี่สาว
  • คิดถึงนะคะ

 

สวัสดีอย่างสนุกสนานมากค่ะครูคิม 

ดิฉันวิ่งไปวิ่งมาตอบคอมเม้นต์อย่างสนุกสนานมากค่ะครูคิม  ไม่ได้สนุกอย่างนี้มานานแล้ว  เข้ามาที่นี่ทีไรต้องใช้เคาน์เตอร์เพนนวดนิ้วทุกที  (เพราะพิมพ์เยอะ)  : )

ขอให้ครูคิมสนุกและมีความสุขในโลกของการสื่อสารที่น่ารักใบนี้เช่นกันนะคะ   : )

P หวัดดีจ้าแอน

  • น้องต่อบอกว่าดีใจมากๆเลยจ๊ะ ที่มาเจอพี่ๆน้องๆ มศว.สงขลา ที่นี่  ...แถมหน้าตาดีอีกต่างหาก (ประโยคหลังนี่พี่ว่าเอาเอง อิอิอิ)
  • พี่รู้จักน้องต่อไม่นาน  แต่แม่ของพี่ก็รู้จักคุณพ่อคุณแม่ของน้องต่อ คือรู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นยายเลยจ๊ะแอน  ดีใจชะมัด  พี่เลยรู้สึกว่าน้องต่อเป็นน้องชายแท้ๆเลย  ผิวก็คล้ายกันอีกต่างหาก
  • คือว่าอยู่ใกล้กันแล้วต้องใช้สป็อตไลต์  เปลืองไฟน่าดู  อิๆๆๆๆ
  • ของพี่แอมป์งานสับสนอลหม่านซะไม่มีเลยจ๊ะแอน  มันไม่เชิงยุ่งหรอก  แต่พี่เรียงไม่ถูกว่าควรทำอะไรก่อน   ผิดที่พี่เองแหละ  พี่บริหารเวลาไม่ดีเอง  แต่หลังจากงานลงตัวหนนี้แล้วคงดีขึ้น  พี่จะได้มีเวลามาลั้นลันลาเขียนอะไรต่อมิอะไรอย่างมีความสุขอีกครั้ง
  • คิดถึงมากเช่นกันนะจ๊ะน้องสาว  สโลแกนของน้องประทับใจพี่มาก และช่วยให้พี่มีวิธีคิดที่ชัดเจนเมื่อไปคุยกับเด็กๆที่พี่สอน ให้เข้าใจความเป็นครู แบบที่เข้าใจได้  และรับความเป็นคนของครูได้อย่างที่ครูเป็น
  • คำว่า "คนเป็นครู  ครูเป็นคน"ของแอน ทำให้พี่มองเห็นชัดเจนเลยว่าจะฝึกวิธีคิดเด็กๆครุศาสตร์อย่างไร 
  • ภาพลักษณ์ของคนเป็นครู  การเป็น ปูชนียบุคล นั้นดียิ่งแล้วจ๊ะแอน  แต่การที่เราได้"รู้ตน"ว่าเราก็ยังเป็นคนธรรมดา   มันทำให้เราไม่หลงไปว่าเราเป็นผู้ที่อยู่เหนือใคร 
  • สโลแกนของน้องทำให้พี่รู้สึกมั่นใจในความเป็นคนธรรมดาที่ตั้งใจทำหน้าที่"ครู" อย่างมีความสุขขึ้นอีกอักโขเลยจ๊ะแอน
  • พี่ไม่ได้ตั้งใจบ่นยาวเลยนะเนี่ย  นี่แค่รำพึงเองนะแอน  อิอิอิ
  • ขอให้น้องทำงานมีความสุขนะจ๊ะแอน  คิดถึงเน้อ..อ..  : )   : )

เพิ่งจะมาอ่านอย่างช้า ๆ

แต่ ขำ ๆ มาก...ค่ะ

สวัสดีค่ะ และขอบคุณด้วยค่ะสำหรับบันทึกน่ารัก ๆ อย่างนี้

สวัสดีค่ะคุณหมอ ภูสุภา   : ) 
 
 คราวก่อนโน้น  พี่โอ๋ อโณ เคยชวนดิฉันไปเขียนอนุทินแต่ด้วยว่ามีเวลาจำกัดเลยไม่ได้แวะไปเขียนสักที  ได้แต่ติดตามอ่านอย่างสนุกทุกครั้งที่แวะไป  และได้สัมผัสมิตรภาพการสื่อสารที่น่ารักมากอีกรูปแบบหนึ่งในอนุทินของ G2K   อ่านแล้วมีความสุขไปด้วยทั้งที่ไม่ได้ร่วมสนทนา  อาทิ  อาจารย์ wwibul คุยสนุกจริงๆ (อ่านทีไรยิ้มทุกที) คุณศศินันท์ก็ยังเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักอยู่เสมอ  มุมมองซูซานก็สุดยอดสมเป็นครีเอถีฟ  อ.มัทก็ช่าง "หยิบประเด็น เห็นประโยชน์" ไปทุกบรรทัด ฯลฯ ถ้าบรรยายหมดคงถึงมะรืนนี้เลยค่ะ   มุมมองในอนุทินมีค่ามากอย่างที่พี่โอ๋ว่า  ดิฉันรู้จักและประทับใจคุณหมอเล็ก (ขออนุญาตเรียกตาม อ.มัทนะคะ) อยู่นานแล้วค่ะ  โดยเฉพาะเรื่องความรักลูกและเข้าใจเด็ก   น้องภูเป็นเด็กน่ารัก ช่างคิดพิจารณาซึ่งดูจะละเอียดอ่อนเป็นพิเศษกว่าเด็กวัยเดียวกันนะคะ  ต้องขอบพระคุณคุณหมอเล็กด้วยที่เล่าเรื่องลูกได้อย่างน่ารัก อบอุ่น และมีวิธีดูแลลูกอย่างเข้าใจ  ดิฉันมีหลานก็อาศัยอ่านประสบการณ์ของผู้รู้ไปปรับใช้  มีค่ามากเลยค่ะ

บันทึกนี้ดิฉันเขียนไว้นานแล้วและขำตัวเองทุกครั้งที่อ่านเพราะที่เขียนไปทั้งหมดนั้นเกิดจากอาการ คิด ม่าย ออก อย่างแท้จริง  แต่ก็คิดปลอบใจตัวเองว่าอะไรก็ตามที่เขียนจากใจโดยอิสระนั้น ทำให้ผู้เขียนสบายใจดี เพื่อนดิฉันแซวว่าส่วนผู้อ่านจะสบายใจด้วยหรือไม่นั้นค่อยว่ากันอีกที

ดิฉันมานึกดูแล้วก็เห็นขำไปพร้อมๆกับได้ข้อคิดดีๆจากเพื่อนนะคะ  เพราะส่วนมากเวลาเขียนนั้นดิฉันจะอ่านก่อนอย่างน้อยสองเที่ยว  คือต้องเขียนให้ได้อย่างที่เรารู้สึกจริงๆก่อนจึงจะสบายใจ  ดังนั้น กว่าจะสบายใจก็ต้องแก้กันหลายเที่ยวให้ตรงกับใจตัว  และกว่าจะได้ตรงกับใจตัวก็ต้องถ่ายทอดให้ครบทุกคำที่อยากเขียน   ทำให้เขียนสั้นๆไม่เป็นเหมือนพี่โอ๋ว่า  เขียนทีไรต้องยาวเป็นวาทุกที     : )   : )  

ขอบพระคุณมากๆที่คุณหมอเล็กแวะมาพร้อมกับกำลังใจที่น่ารักนะคะ 

 

สวัสดีค่ะ คุณแอมป์ (อยากเรียกแบบน้องมัทนะคะ พี่แอมป์..แต่เกรงใจ ฮา)  หมอเล็กมาอ่านอีกครั้งเพราะอยากอ่านคำตอบของคนอารมณ์ดี ยาว ๆ และสมใจ

ตัวเองเป็นคนที่เขียนอะไรยาว ๆ ไม่ค่อย(จะ)เป็น ยิ่งถ้าตรวจทานจะยิ่งหั่นออก ต้องโพสต์เลย และต้อง improvise (ใช้คำนี่ถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้) คือต้องสด ไม่ว่าจะเป็นร้อยแก้วหรือร้อยกรอง ไม่เช่นนั้นจะรู้สึกว่า ถอยดีกว่า ม่ายเอาดีกว่า

เวลาเขียนถึงลูก จะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องคิดเท่าไร เพราะเขามีธรรมชาติของเขา ซึ่งดูใสซื่อ บริสทธิ์ เราไม่ต้องปรุงมากนัก เด็กทุก ๆ คนคงคล้ายกัน นะคะ

เป็นนิสัยไปแล้วมังคะ เวลาเริ่มอ่านของใคร จะขุดกรุมาอ่านน่ะค่ะ

ต้องขออภัยผู้เขียนไว้ด้วย(เผื่อลืมไปแล้ว..ฮา)

อย่างไรก็ตาม บันทึกนี้ของคุณแอมป์ ไม่ใช่แค่นำความขำ ๆ ให้อย่างที่อ่านรอบแรกหรอกค่ะ มีอะไร ๆ ซ่อนไว้เยอะ....

ซึ่งแบบนี้ ตัวเองเขียนไม่ค่อยเป็น แต่ชอบอ่านค่ะ

สวัสดีอีกทีด้วยความดีใจค่ะคุณหมอเล็ก

อ่า... เรียกพี่แอมป์ได้เลยค่ะ  เพราะว่าพี่ก็วัยพอเหมาะที่จะเป็นป้าน้องภูได้อย่างเต็มภาคภูมิ  อิอิอิ 

คุณหมอเล็กเขียนบันทึกได้น่ารักออกค่ะ  เขียนสั้นแต่ได้ใจความน่าอ่านดี   คนที่เขียนความคิดสดๆได้นี่โชคดีนะคะ  improvise ได้นี่ภาษาวรรณคดีเขาเรียก ปฏิภาณกวี  เป็นคุณสมบัติที่จะทำให้เขียนได้สนุกมากค่ะ   ของพี่แอมป์ก็ถนัดไปทางพร่ำเพ้อพรรณนายืดยาวทุกที

ยินดีอย่างยิ่งให้ขุดกรุนะคะคุณหมอเล็ก  : )  การสนทนาต่อยอดให้นี่ทำให้ข้อเขียนมีชีวิตชีวาดีค่ะ  ชอบมากที่คุณหมอบอกว่า  "เวลาเขียนถึงลูก จะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องคิดเท่าไร เพราะเขามีธรรมชาติของเขา ซึ่งดูใสซื่อ บริสุทธิ์"  นี่เป็นสิ่งที่ทำให้คนอ่านมีความสุขไปด้วย  เพราะข้อเขียนนั้นเกิดจากความบริสุทธิ์และความเป็นธรรมชาติ  

ว่าแล้วก็คิดถึงมัทและบันทึก"พุงโต"ขึ้นมาทันที   คนที่มีโอกาสเป็นคุณแม่นี้โชคดีจัง  เพราะได้สัมผัสความบริสุทธิ์และความเป็นธรรมชาติที่เราสร้างขึ้นจากตัวตนของเราเอง     น่ารักจังค่ะ : )

 

แหม พี่แอมป์คะ (รีบสวมรอยเลย..)งั้นฝาก อันนี้ ให้อ่าน..(สวมรอยอีกครั้ง..)

ขอตัวไปทำงานก่อนแล้วค่ะ

ดีใจค่ะคุยกันหลายรอบ ;P

ดีใจที่พี่แอมป์ฟังเพลงแล้ว

....

สวัสดีปีใหม่ มีความสุขมากๆ นะคะ

สวัสดีค่ะ

* มาดูคนคิดม่ายออก

* ตัวช่วยคิด

   

    

     

และ

 

* สุขกายสุขใจนะคะ

(^_^)   ดีใจที่คุณหมอเล็กแวะมาสวมรอยเอ๊ยมาคุยอย่างสนุกสนานเช่นกันค่ะ
หลังๆนี้ไม่ใคร่ได้เข้ามา G2K บ่อยนัก  แต่เข้ามาทีไรก็ได้พบมิตรภาพที่อบอุ่นเช่นเคย

และพี่แอมป์รู้สึกว่า น้องภู โชคดีจังเลยที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักและเข้าใจลูกอย่างนี้  จะแวะไปอ่านบันทึกดีๆของคุณหมอนะคะ  ขอบคุณมากๆค่ะ : )

หวัดดีด้วยความคิดถึงและขอบคุณมากสำหรับเพลงและภาพน่ารักๆจ๊ะลูกปู : )

รู้สึกว่าเรามีภารกิจนางสาวไทยเยอะเหมือนกันเลย  ของพี่ก็นานๆได้เข้ามาที  ลูกปูสบายดีนะจ๊ะ
ขอให้น้องทำงานอย่างมีความสุขและสดชื่นเหมือนสาวน้อยตัวนิดๆในภาพที่นำมาฝากพี่
Happy(belated)New year และ  Happy Valentine (in advance) นะจ๊ะ  : )

สวัสดีค่ะอาจารย์   พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)

ขอบพระคุณที่อาจารย์แวะมาพร้อมตัวช่วยนะคะ  ภาพสวยชวนให้จินตนาการดีจังค่ะ  ตัวอีโมติค่อนก็ทำเอาดิฉันหัวเราะไปหลายกิ๊ก   เจอแบบนี้เข้าคาดว่าจาก "คิด ม่าย ออก"  จะเปลี่ยนเป็น "คิด ม่าย หยุด" ได้เลยค่ะ   : )    : )   : )

ปล.ดิฉันชอบตรงวงเล็บ (ไม่มีชื่อกลาง) ของอาจารย์มากเลยค่ะ  : )

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วเพลิดเพลินใจ สนุกสนาน ได้แง่คิดหลากหลายดี ครูแป๋มชอบค่ะ

สวัสดีค่ะครูแป๋ม

ขอบพระคุณมากค่ะที่ครูแป๋มแวะมาร่วมเพลิดเพลินไปกับการ คิด ม่าย ออก  ของดิฉัน  : )  และดีใจจังที่ยังไม่ทันล็อกเอาต์ เลยได้ตอบครูแป๋มทันที   ขอบพระคุณอีกทีและราตรีสวัสดิ์ค่ะ ขอให้ครูแป๋มหลับฝันดีนะคะ  : )

สวัสดีครับ

มีบ้างเหมือนกันครับ

คิดไม่ออก

มาคลิกๆ แถวนี้ พอจะจุดประกายความคิดได้บ้าง

อิๆ

สวัสดีค่ะคุณธ.วั ช ชั ย

ดีใจจังค่ะที่บันทึกนี้พอจะทำให้"คลิก"ได้บ้าง คืนนี้ดิฉันมีจังหวะตอบเมลเพื่อนๆ  เป็นโชคดีจริงๆที่ได้พบมิตรใหม่ใน G2K ด้วยหลายท่าน 

บันทึกของคุณ ธ.วั ช ชั ย       ก็ทำให้ดิฉัน"คลิก"ในหลายประเด็นนะคะ  ตามอ่านมานานแล้วแต่ไม่ได้โพสต์ความเห็น  ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลที่แม่นยำและความรู้ที่แบ่งปันนะคะ  ดิฉันชอบมุมมองทางภาษามาก อ่านแล้วทำให้ได้คิดอะไรไปอีกมากมาย   (....จากที่เคย คิด ม่าย ออก นะคะ)      : )   : ) 

มาทักทายพี่แอมป์ ด้วยคิดถึงอย่างแรงค่ะ

เห็นพี่แอมป์ แว้บๆ ไปมา ในหลายๆ บันทึก

เลยตามมา เผื่อโชคดีบ้าง อิ อิ รางวัลที่๔

ยังดี ...  เห็นพี่เขียนอวยพรล่วงหน้า โห

ปูกลับมาอีกรรอบยังไม่ถึง วาเลนไทน์เลย

.... เหนื่อยไหมคะ กับหลาน และ การงาน

รักษาสุขภาพนะคะ

สวัสดีครั้งแรกครับคุณพี่ดอกไม้ทะเล

บันทึกนี้อ่านเพลินๆดีนะครับ ชอบรูปวาดมากเลยครับ น่ารักดี อิอิ :) เดี๋ยวแวะมาทักทายเรื่อยๆนะครับ

หลับฝันดีนะคร๊าบ

 

หวัดดีจ๊ะลูกปู 

อ้าว..เห็นพี่เป็นกองสลากไปเสียแล้ว  มะ..  เด๋วพี่หมุนให้  อิอิอิ

ตอนนี้พี่แอมป์เหนื่อยหัวฟูกับงานอย่างเดียวแล้วจ๊ะ  เพราะหลานกลับกรุงเทพฯไปอยู่กับน้องชายและน้องสะใภ้พี่เรียบร้อยแล้ว  ว่าแล้วก็คิดถึงน้องเอิร์ธขึ้นมาทันที  หลังสุดที่ไปเจอกันนี้น้องเอิร์ธเห็นป้าแอมป์แล้ว  จำ ม่าย  ด้าย  พอจะเข้าไปอุ้มก็ทำท่าจะร้องไห้  พี่ต้องร้องเพลงทวนความจำกันตั้งนาน  : )  

ขอบคุณสำหรับภาพลูกอะไรแดงๆ(ที่ดูน่ารับประทานดี)ด้วยนะคะ   พี่นั่งนึกตั้งนานว่าลูกอะไร  ก็ยัง คิด  ม่าย ออก  อยู่ดีอะค่ะ : ) 

สวัสดีครั้งแรกเช่นกันค่ะคุณเดย์  adayday

ป้ายเท่ดีนะคะ  ขอบคุณที่แวะมาค่ะ  พี่แอมป์เขียนบันทึกนี้ตอนแรกก็กลุ้มใจเพราะ คิด ม่าย ออก ว่าจะเขียนอะไรจริงๆ 
แต่พอเขียนไปๆก็ยาวเป็นวาเช่นเคย
..เลยขำๆว่าไม่ค่อยเข้ากับชื่อเรื่องเท่าไหร่อะค่ะ  : ) 

พี่แอมป์จ๋า...ดีใจจังที่ได้คุยกะพี่แอมป์..บันทึกนี้..

..โห..บันทึกนี้..โดนใจมากๆ..กาลังอยากเขียนมากๆ..แต่นังนึกไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องไรดี..แต่แบบว่า..อารมณ์มาเต็มๆนะคะ.พี่แอมป์..

..

พี่แอมป์สบายดีนะคะ..คิดถึงมากๆเลยค่ะ..

...มีกลอนหงานๆ..มาฝากค่ะ..

คนดี...อย่าเหงา..

ปิดตาเบาเบา...ในคืนนี้..

เธอ..จะได้หลับฝันดี..

อย่างน้อย..เธอก็มี..คนห่วงใย..

....แม้ฉันจะไม่ใช่.คนดีนัก..

แต่ก็..มีรัก..จะให้..

จริงๆนะ....จริงจากใจ..

อยากฝากไว้ให้..เธอ..เก็บไป..เนิ่นนาน...

.........................

พี่แอมป์นอนหลับฝันดีนะคะ..

มีความสุขมากๆๆๆๆๆค่ะ..

^^

P แอมแปร์นั่งหัวเราะชอบใจลีลาพี่อึ่งอ๊อบอยู่พักใหญ่ 

ขนาดพี่ คิด ม่าย ออก นะคะเนี่ย  อิอิ

ขอบพระคุณที่พี่แวะมาเยี่ยมสองทีเลยนะคะ  แม้ว่าจะไม่ได้สื่อสารกับพี่บ่อยนักแต่ก็ยังรักและระลึกถึงเสมอ ยังมั่นใจว่าจะได้พบและได้เลี้ยงข้าวพี่อย่างน้อยหนึ่งมื้ออย่างแน่นอนจ๊ะ  : )   : ) 

ใช่ๆๆๆ   อ่านตั้งยาว แต่ก็คิดอะไรไม่ออก  เลยมาบอกว่าคิดถึง

พอมะ

หวัดดีจ้าแอ๊ว

ดีใจที่ได้พบกันในบันทึกที่แสนจะ"วัยรุ่น"บันทึกนี้นะจ๊ะ  ทำให้เราต่างลืมวัยไปได้ชั่วคราว  และเราจะช่วยกันทำเป็นลืมต่อไปอีกพักใหญ่  อิๆๆๆ

เด็กๆในบันทึกแอ๊วน่ารักเหลือเกินจ๊ะ  พี่กำลังกลุ้มใจกับลูกศิษย์ที่ไม่คิดและไม่ยอมเขียน  พวกเขาเอา"อิสรภาพที่จะถ่ายทอดจินตนาการและความรู้สึกอย่างเสรี"ไปทิ้งไว้ที่ไหนก็ไม่รู้  ตรวจงานเขียนทีไรหนักใจเหลือแสนทุกที  รู้สึกคล้ายๆกับเห็นคนที่แทบไม่มีตังค์ติดกระเป๋าทั้งๆที่ต้องซื้อข้าวปลาอาหารกลับบ้านนะจ๊ะ  อยากช่วยก็ช่วยไม่ได้  เพราะจินตนาการของใครก็ของคนนั้น  เราไปบังคับให้เขาฝันเหมือนเราไม่ได้  เพราะมันเป็นฝันปลอมๆ ที่ไม่ทำให้คนฝันสุขใจ

แต่พออ่านที่เด็กๆเขียนในบันทึกแอ๊ว  พี่ก็คิดอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง 

....ถ้าเรา(คือครู) ไม่ไปเร่งให้เขาฝัน แต่กล่อมให้เขานอน เอ๊ยช่วยให้เขามีอารมณ์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจด้วยตัวเอง  เขาก็อาจจะ "อารมณ์มาเต็มๆ" อย่างแอ๊วบ้างก็เป็นได้  ซึ่งนั่นจะทำให้พี่ดีใจไชโยเป็นอันมาก  : )

ขอบคุณที่แอ๊วคนดีแวะมาบอกพี่ด้วยวลีเท่ๆแถมด้วยกลอนหวานละมุนที่ชวนให้ประทับนอนเอ๊ยประทับใจนี้นะจ๊ะ  : )   อ่า..สงสัยว่าจะได้เวลาอันเป็นมงคลแล้ว  จำพี่จะเสด็จขึ้นแท่นบรรจถรณ์เสียแต่บัดนี้  ขอให้แอ๊วหลับฝันดีเช่นกัน  ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะน้องสาว  : )   : ) 

P สวัสดีค่าเล่าฮูสิทธิรักษ์

 

(^_^)                    (^_^)                         (^_^) 

เล่าฮูทำแอมแปร์ขำแทบกลิ้งก่อนนอน  เพราะมาบอกว่าคิดถึง  แถมยังถามว่า"พอมะ" เพื่อความแน่ใจอีกด้วย  สุดยอดแพนด้าจิงๆ

แอมแปร์ก็เลยตอบด้วยความจริงใจ  ดังความแจ้งมาพร้อมนี้  ว่า "..ม่าย  พอ  ค่า.."   เล่าฮู     อิๆๆๆ

อูย คืนนี้ ฝันดี ฝันหวาน ฝันละมุน อุ่นละไม เป็นแน่แท้เลยค่ะ

พี่แอมแปร์จ๋า ตั้งแต่ ได้รับ ของขวัญกาลเวลา เป็นกลอนหวานซะ

จากครูพี่แอ๊ว อย่างที่พี่แอมป์ว่าแหละคะ ...

.... แล้วมาเจอ บันทึกตอบพี่แอมป์ ขำ แบบงง ตัวเองว่านึกไม่ออก

อยู่ตั้งนาน ... กว่าจะเก็ท อิ อิ  ... แล้วก็ ขำกลิ้ง กับมุข พี่แอมป์เลยค่ะ

อ้าว..เห็นพี่เป็นกองสลากไปเสียแล้ว  มะ..  เด๋วพี่หมุนให้  อิอิอิ

อย่างนี้พี่แอมป์ ก็ว่างแล้วสิคะ ไม่มีเด็กกวนตัว ไม่มี ... ใครมากวนใจ :)

""" เข้าใจค่ะ เวลาอยู่เดก แป๊บๆ นึงก็โอเคนะคะ แต่นานๆ ก็ปวดหัวเหมือนกัน ... คิดถึงหลาน เช่นกันค่ะ ... ถามเป็น เจ้าหนูจำไม

แล้ว พยายามให้เล่านิทานอยู่นั่นแหละ ค่ะ ซ้ำไปซ้ำมา เรายิ่งขี้เบื่ออยู่ด้วย .. :)  พี่แอมป์ ล่ะ เป็นไหมคะ ... เคยเจอแบบนี้ไหมคะ :)

นานๆ แล้วคุยยาวเลยค่ะ ... แค่นี้ก่อนนะคะ ... คิดถึงจริง คิดถึงจัง วันนี้ พี่กินข้าวค่ำอะไรเอ่ย ...

 กินผักผัดเหมียง อร่อยอย่างแรงค่ะ พี่แอมป์

หวัดดีจ๊ะลูกปู

พี่เพิ่งเคยเห็นผักเหมียงแบบตัวเป็นๆในภาพของลูกปูนี่แหละ  ธรรมดาเห็นตอนผัดอยู่ในจานหรือโดนเลียงอยู่ในหม้อเรียบร้อยแล้ว : )   พี่ชอบทานมากเลยจ๊ะ 

สำหรับหลานๆหรือเด็กๆ  ถ้าต้องทำอะไรซ้ำๆให้เขาดู  หรือพูดซ้ำๆให้เขาฟัง พี่ก็พอไหวจ๊ะ   เพราะแบบว่าง่ายดี  ไม่ต้องคิดซับซ้อน  อิอิ

ขอบคุณสำหรับความคิดถึงที่ลูกปูหอบมาฝากได้อย่างน่ารักเสมอนะจ๊ะ : ) 

รูปตามมาไม่ทันมือคลิกค่ะ

สบายดีนะคะน้องแอมแปร์ ไม่เจอกันซะนาน ต้องขอบคุณคุณหมอเล็กที่เขียนบันทึกและเชื่อมโยงถึงจนพี่อดไม่ได้ต้องมาทักทายด้วยความคิดถึง

หมู่นี้พี่ไม่ค่อยได้แวะเวียนท่องบล็อกอย่างทั่วถึงนักค่ะ ก็อาณาจักรนี้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และชีวิตของคนอยู่บ้านนั้นมีเรื่องมากมายให้ทำอย่างเหลือเชื่อเพราะพี่และคนข้างกายพยายามทำงานกับชีวิตให้เป็นเรื่องเดียวกัน

ดีใจที่น้องแอมแปร์จับเรื่องรู้เท่าทันการสื่อสารอย่างจริงจัง พี่คิดว่าเป็นเรื่องเดียวกับการมีสติกับปัจจุบัน รู้เท่าทันทั้งตนเองและผู้อื่น เมื่อมีสติ ปัญญาย่อมเกิดให้เห็นสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นตรงตามความเป็นจริง คนสมัยนี้มักชินกับการถูกรุกเร้ากิเลส ให้จิตใจเป็นไปตามกิเลส ตามอารมณ์ที่ปรุงแต่ง มากกว่าการใช้สติและปัญญากันนะคะ

สวัสดีด้วยความระลึกถึงอย่างที่สุดเลยค่ะพี่นุช

ก่อนอื่นแอมแปร์ต้องร้อง "..อุ๊ย ! .." แล้วทำท่าตกกะใจปนเขินอายน้อยๆอย่างกุลสตรี  เพราะพี่นุชเข้ามาจ๊ะเอ๋แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว   อิอิ
แอมแปร์ดีใจมากจริงๆนะคะที่พี่นุชมาเยี่ยม  ต้องขอบคุณคุณหมอเล็กมากๆด้วยที่เชื่อมโยงให้ถึงกันด้วยบันทึกที่ให้กำลังใจจนเต็มอิ่ม

ขอบพระคุณสำหรับภาพน่ารักที่เอามาฝากนะคะ  คุณกระรอกน่ารักจังค่ะ  เอ่อ..  ถ้าแอมแปร์เรียกชื่อคุณเขาผิดไปต้องขออภัยด้วยนะคะ  : )   : )  

ชีวิตสงบเงียบและเรียบง่ายแบบพี่นุชเป็นชีวิตในฝันของแอมแปร์เลยค่ะ  ผู้ที่ใช้ความรู้ความสามารถในการทำงานอิสระเพื่อส่วนรวมได้นี้น่านับถือจริงๆ  เป็นอุดมการณ์ที่ไม่ต้องอิงองค์กร  และแอมแปร์ชอบที่สุดที่พี่นุชบอกว่า "..พี่และคนข้างกายพยายามทำงานกับชีวิตให้เป็นเรื่องเดียวกัน.."  นี่คือสุดยอดของความสุขเลยค่ะพี่นุช  นึกแล้วแอมแปร์ก็อดอมยิ้มไม่ได้  เพราะเคยนึกไม่ถึงว่า

"..ชีวิตของคนอยู่บ้านนั้นมีเรื่องมากมายให้ทำอย่างเหลือเชื่อ.."  แต่เมื่อได้เห็นพ่อกับแม่มีโน่นมีนี่ทำทั้งวันแล้วก็ได้เห็นว่าคนอยู่บ้านนี่แหละ"มีเรื่องให้ทำมากมาย"กว่าตอนอยู่ที่ทำงาน  เพราะมีอิสระที่จะคิดงานเองได้  แถมคิดออกเยอะเสียด้วย    : )  

กราบขอบพระคุณพี่นุชที่สุดเลยนะคะ สำหรับกำลังใจ ข้อคิดในทุกๆครั้ง  และมรดกหนังสือถอดรหัสภูมิปัญญาฯที่แอมแปร์ไม่เคยได้อ่านที่ไหนมาก่อน (และไม่คิดจริงๆว่าจะมีวาสนาได้อ่าน)  อ่านแล้วก็ได้เชื่อมโยงกับปริบทชีวิตที่กำลังรับผิดชอบอยู่ได้อย่างดี ทำให้มีภูมิคุ้มกันในการคิดโจทย์วิจัย เพราะรู้และเข้าใจแล้วว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่แท้ต้องเกิดแต่ตัวตนภายใน  ไม่ใช่เพียงภาพผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ภายนอก  เรื่องการรู้เท่าทันการสื่อสาร communication literacy นี้แอมแปร์ก็เน้นตัวตนภายใน คือเน้นที่จิตใจ เอ่อ..พอจะเรียกจริงๆเข้าก็เรียกไม่ใคร่ถูกค่ะพี่นุช  จะเรียกว่า "จิต" ก็เกรงว่าจะต้องเริ่มด้วยการนิยามศัพท์กันอีกยืดยาว  : ) 

พี่นุชช่วยเชื่อมโยงทำให้แอมแปร์เข้าใจเรื่องการรู้เท่าทันการสื่อสาร  ในฐานะผู้รับสารและผู้ส่งสารที่รู้ตัวทั่วพร้อม  ดีจังเลยค่ะพี่นุช   แอมแปร์เห็นด้วยอย่างที่สุดเลยค่ะ เรื่องที่พี่นุชคิดว่าการรู้เท่าทันการสื่อสาร "...เป็นเรื่องเดียวกับการมีสติกับปัจจุบัน รู้เท่าทันทั้งตนเองและผู้อื่น เมื่อมีสติ ปัญญาย่อมเกิดให้เห็นสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นตรงตามความเป็นจริง..."  แอมแปร์ขออนุญาตอ้างอิงถ้อยคำในความเห็นนี้ของพี่นุชในบันทึกต่อๆไปด้วยนะคะ  แม้ว่าแอมแปร์จะจับเรื่อง"การรู้เท่าทันการสื่อสาร" แบบไม่ใคร่มั่นใจในเบื้องต้น  แต่ตอนนี้แอมแปร์ได้ตั้งใจจับไว้อย่างแน่วแน่ไม่หวั่นไหว  เพราะอยากฝึกเด็กให้ฉลาดและเข้าใจชีวิตมากกว่าตัวเองสมัยเมื่อสาวๆให้จงได้   เอ่อ..สำหรับเรื่องที่มหาชลาลัยให้เขียนผลงานวิชาการแอมแปร์ก็จะกัดฟันเขียนไปตามลู่ถึงแม้จะต้องใช้เวลาสักหน่อย  เพราะรู้ตัวเองว่าไม่เก่ง   และไม่สบายใจที่จะทำผลงานแบบบ่มแก๊ส  รู้สึกว่ารับประทานไม่อร่อยเลย  อย่างไรก็ตาม  เมื่อเขาให้เวลามากกว่าหนึ่งปีก็ทำให้แอมแปร์ดีใจไชโยมาก    : )    

มีเรื่องนึงค่ะพี่นุชที่แอมแปร์ดีใจน่าดู  คือถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่แอมแปร์ก็ดีใจน่าดูจริงๆ 

แอมแปร์ตั้งใจมุ่งมั่นว่าจะไม่ทิ้งเด็กๆไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว  เด็กตัวน้อยตัวนิดผ่านมือเมื่อไหร่แอมแปร์จะจับฝึกให้เรียบ  เพราะไม่อยากให้เขาเป็นคนเข้าใจอะไรช้า  คิดช้าและทำอะไรไม่เป็นเหมือนเรา  แอมแปร์อาศัยงานธุรการและคุณสมบัติแบบเลขานุการเป็นฐานในการฝึกเด็ก  คือถ้าเด็กๆคิดละเอียดและรู้จักวางแผนการทำงานธุรการด้วยคุณสมบัติของเลขานุการอย่างเป็นระบบได้  เขาก็อาจจะพัฒนาสมรรถนะขึ้นเป็น"เลขาธิการ"ได้ในสักวันหนึ่ง  เมื่อเขาสามารถ(กล้า)คิดเองได้และ(กล้า)ตัดสินใจเองเป็น และรับผิดชอบสูงสุดในงานที่เขาลงมือทำได้   

มีเด็กๆจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาฝึกงานในหน่วยงานที่แอมแปร์ช่วยงานสารบรรณอยู่ (คือไปทำงานที่ไหนเขาก็ให้ช่วยฝ่ายนี้ทุกที  เฮ้อ..)  เด็กน้อยสองสาวนี้ยังเรียน ปวช. แอมแปร์รู้สึกว่าเธอยังเล็กน่าเอ็นดูนัก  และด้วยความรักแอมแปร์ก็จับเอ๊ยเชิญเธอมาช่วยงานเล็กๆน้อยๆ  อาทิเช่นการใช้ตุ๊ดตู่เจาะกระดาษ  เอ่อ..  เค้าเรียกที่เจาะกระดาษแต่แอมแปร์ขอเรียกแบบใกล้ชิดธรรมชาตินะคะ : )  

คืออย่างนี้นะคะพี่นุช  แอมแปร์ก็นึกไม่ถึงจริงๆว่าแค่ใช้ที่เจาะกระดาษ เด็กน้อยก็สามารถทำผิดๆพลาดได้จนกระดาษแอมแปร์แทบหมดตั้ง  แอมแปร์ต้องเริ่มจากการสอนให้พับกระดาษแข็งแล้วขีดเส้นแนวนอนตรงกลางเพื่อใช้เจาะเป็นตัวตั้ง เอาไว้ทาบกระดาษที่เราจะเจาะชุดต่อๆไป จะได้เข้าตรงกลางพอดี  ปรากฏว่าสาวน้อยสามารถเจาะให้ไม่ตรงรูเดิม(จน)ได้อย่างน่าอัศจรรย์ 

แอมแปร์ก็ฝึกไปเทศน์ไปรอไป...แล้วให้เจาะใหม่   ผิดก็แก้ใหม่สอนใหม่บอกใหม่ แล้วก็ฝึกไปเทศน์ไปรอไป... แล้วให้เจาะใหม่  ทำอยู่อย่างนี้สามสี่รอบ จนเธอเจาะได้ตรงเป๊ะท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของแอมแปร์เพราะเอกสารหลักฐานของเราปรากฏรูเบี้ยวๆเยๆอย่างสร้างสรรค์เกือบทุกแผ่น  : ) 

ตอนที่เทศนาให้เธอตั้งสติ และสมาธิอันแน่วแน่ แลพินิจพิจารณาการเจาะกระดาษด้วยปัญญานั้น  แอมแปร์ก็ดีใจจังเลยที่ได้มองเห็นว่าการใช้งานเล็กๆอย่างง่ายเป็นอุบายฝึกสติ สมาธิ และปัญญานั้น  ถึงแม้จะต้องแลกด้วยเวลามหาศาล  แต่ก็อาจช่วยปรับพฤติกรรมของเด็กให้เป็นคนทำงานที่พึงประสงค์ขึ้นได้ (นิดหน่อยก็ยังดี)  ทุกครั้งที่เสร็จงานแอมแปร์ก็จะขอให้เด็กๆช่วยบอกข้อคิดที่ได้จากการทำงานครั้งนั้น เพื่อว่าเธอจะได้สะท้อนย้อนคิดทบทวนด้วยสติปัญญาอีกครั้ง  เผื่อว่าเธอจะได้นำไปเป็นข้อเตือนใจให้สติตนเองในการทำงาน(เล็กๆ)ครั้งต่อๆไป

กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่คุณครูจำนวนมากท่านใช้ฝึกลูกศิษย์ในโรงเรียนของท่านอย่างเป็นปกติ  โดยไม่ต้องคิดนวัตกรรมซับซ้อนแต่ประการใด  ขอแค่ความตั้งใจจริง ความเอาใจใส่  การไม่มองข้ามรายละเอียดที่เป็นนิสัยเล็กๆน้อยๆที่จะส่งผลต่อพฤติกรรมใหญ่ๆในวันหน้า  การให้เวลาโดยไม่รู้สึกว่าเป็นการเสียเวลา  และความรักเด็กๆด้วยใจจริงเท่านั้น  เอ่อ..บวกการสื่อสารแบบเทศนาโวหารอีกนิดหน่อยเท่านั้น : ) 

ที่ทำให้แอมแปร์ดีใจน่าดู  คือเจ้าหน้าที่(ซึ่งเป็นลูกศิษย์แอมแปร์ที่เรียนจบแล้ว)บอกว่าเด็กคนที่แอมแปร์ดึงตัวมาฝึก มีพฤติกรรมการทำงานแตกต่างจากเด็กคนที่แอมแปร์ไม่ได้ดึงตัวมาอย่างมีนัยยะสำคัญ  : )    ตัวชี้วัดคือสาวน้อยคนที่ได้รับการฝึกแล้วนี้ถูกเรียกหาบ่อยที่สุด เหตุเพราะพูดรู้เรื่อง  บอกให้ทำอะไรก็เข้าใจ  และทำไม่ใคร่ผิดพลาด  และที่แอมแปร์ดีใจที่สุดคือลูกศิษย์แอมแปร์บอกว่าอยากให้อาจารย์ช่วยดึงตัวเด็กอีกคนที่มาด้วยกันไปฝึกให้หน่อยได้ไหม  จะได้ทำงานกันได้อย่างดี 

คืออย่างนี้นะคะ  ถึงแม้ว่าตัวชี้วัดความ(เกือบ)สำเร็จของแอมแปร์จะมีแค่ตัวเดียวเอ๊ยคนเดียวในรอบสิบปี  แต่แอมแปร์ก็หาเรื่องจะดีใจจนได้ เพราะไม่เคยเห็นผลทันตาแบบนี้มาก่อนเลย  ปกติลูกศิษย์ต้องจบไปแล้วอย่างน้อยสามปีห้าปี ถึงจะกลับมาบอกว่าที่ฝึกไปนั้นได้ผลหรือไม่  นอกนั้นก็มีแต่ทำหน้าเมื่อยๆแล้วบอกตรงๆว่าอาจารย์สอนอะไรก็ไม่รู้  ไม่รู้เรื่อง  ให้แอมแปร์จ๋อยบ่อยๆ

เพราะคิดว่าเรากำลังสอน"อะไรก็ไม่รู้"  อยู่จริงๆ   : ) 

กราบขอบพระคุณพี่นุชที่สุดอีกครั้งนะคะที่แวะมา ทำให้แอมแปร์เกิดกำลังใจอย่างมหึมาที่จะเพียรพยายามเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และสื่อสารเรื่อง"การรู้เท่าทันการสื่อสาร" ต่อไปอย่างมีความสุขเพราะรู้สึกดีจริงๆ  ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวกับการที่เรา"มีสติกับปัจจุบัน รู้เท่าทันทั้งตนเองและผู้อื่น เมื่อมีสติ ปัญญาย่อมเกิดให้เห็นสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นตรงตามความเป็นจริง" อย่างที่พี่นุชได้บอกไว้ 

ซึ่งแอมแปร์เชื่อว่าวิธีคิดเช่นนี้จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขอย่างแท้จริงนะคะ

แอมแปร์ตอบคอมเม้นต์พี่นุชอย่างมีความสุขจัง  เอ่อ..ถึงแม้ว่าจะยาวไปบ้างแต่แอมแปร์ก็อยากเล่าให้พี่นุชฟังจริงๆ 
แม้ว่าเรื่องที่เล่านี้จะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยเหลือเกิน  แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เป็นงานของชีวิตที่แอมแปร์เลือกและทำมาอย่างต่อเนื่องนี้ 
... ก็ทำให้มีความสุขแบบสบายใจนิ่งๆเย็นๆดี  แถมยังดีใจน่าดู  ....

เลยอยากเล่าให้พี่นุชฟังนะคะ    เพราะเวลาพี่นุชเข้ามาเยี่ยมทีไร .. 
แอมแปร์ก็รู้สึกแบบประโยคข้างบนนี้...ทุกครั้งที่พี่นุชแวะมาเลยนะคะ  : )   : )   : )      

แหม น้องแอมแปร์ทำให้พี่ดีใจจริงๆ ที่ประโยคเล็กๆจากมุมมองของพี่โดนใจน้องแอมแปร์ ^____^

ขอบคุณด้วยค่ะทีแบ่งปันเรื่องราวเล็กๆแต่งดงามด้วยหัวใจของผู้มีเมตตา มีความเป็น"ครู" สำหรับพี่นั้นก็เช่นกันมักปลื้มกับเรื่องราวเล็กๆมากกว่าเรื่องใหญ่ๆ เช่น ได้ใช้ประสบการณ์และหลักธรรมช่วยบรรเทาไฟทุกข์ของบริวารรอบตัว มีค่ากว่าการไปยืนบรรยายวิชาการเวทีนานาชาตินะคะ สิ่งดีๆที่เราทำจะเกิดความสุขทันที โดยไม่ต้องมีใครมารับรองว่าสิ่งที่เราทำนั้นดี มีมาตรฐาน

ทุกวันนี้พี่จึงรู้สึกสบายกับการเป็นนักวิชาการอิสระ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ งานวิชาการ ที่ไปเกี่ยวกับสถาบัน หน่วยงานก็จะทำน้อยมาก และเดี๋ยวนี้ชักเก่งคือปฏิเสธเป็น ดีกว่าแต่ก่อน หลังจากที่รู้สึกว่าอย่าไปยุ่งกับกระแสหลักเขาเลย เพราะวิธีคิดที่แตกต่าง นอกกรอบอย่างเราคนทั่วไปมักมองว่าเราคิดยุ่งยาก ประหลาด ทำไมชอบคิดใหญ่ทั้งบริบท พี่ชอบพิจารณาหรือมองทั้งบริบทเพื่อเข้าใจจุดเล็กๆที่เรากำลังทำอยู่ และจะได้อ่านออกว่าสิ่งที่เราทำมันจะไปทางไหน จะไปถึงไหน มันจะไปสร้างความแตกต่างอะไรได้บ้างมั้ย นอกจากนั้นทำแล้วเรารู้สึกว่าทำอย่างมีความเคารพตัวเองหรือเปล่า

พี่ก็เชื่อว่าการเรียนรู้จากข้างในก่อนนั้นสำคัญค่ะ โดยเฉพาะครูผู้สอนนั้นต้องทำความเข้าใจตัวเองก่อน รู้เท่าทันตัวเองก่อน ว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร จะพัฒนาความเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจสูงขึ้นๆได้อย่างไร พี่ขอชมน้องแอมแปร์นะคะที่อดทนด้วยเมตตาที่ให้เด็กเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติ เรียนรู้วิธีคิด วิธีทำ เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้เคยทำผิด แถมให้สะท้อนย้อนคิด เรียกว่าใช้กระบวนการKM ครบวงจรเลยนะคะ

ตอนนี้มีแนวคิดของการศึกษาที่ไม่ได้เอาแต่สอนวิชา ทว่าเป็นการเรียนรู้ที่ผนวกเรื่องของจิตใจทั้งของผู้สอนและผู้เรียนเข้าไปด้วย เรียกว่า Humanized Edu Care เป็นเรื่องดี แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นสิ่งสะท้อนว่าการศึกษาของเราที่ผ่านมามีปัญหาเพราะไม่ได้ใช้การพิจารณาเรื่องจิตใจควบคู่ไปกับให้วิชาการใช่มั้ยคะ

นึกถึงครูบาอาจารย์ยุคก่อนๆที่ท่านมีความเป็นครูเต็มเปี่ยม วิชาการกับการดูแลทุกข์สุขของศิษย์ให้ศิษย์มีความพร้อมที่สุดที่จะเรียนรู้อย่างมีความสุข มีความเบิกบานจากการได้เรียนรู้ เป็นสิ่งเชื่อมโยงกัน ความเป็นครูเป็นศิษย์ไม่ได้มีอยู่เฉพาะแค่ในโรงเรียนหรือในห้องเรียน

ขอให้กำลังใจน้องแอมแปร์ค่ะที่มีความสุขกับตัวชี้วัดแบบคุณภาพ ขอให้มั่นใจกับสิ่งที่ทำแม้อาจไม่ตรงกับกระแสหลักที่ตัวชี้วัดมักต้องการปริมาณเป็นเรื่องใหญ่

 

 

 

 

P สวัสดีอีกครั้งและขอบพระคุณมากที่สุดเลยค่ะพี่นุช

แอมแปร์จะตั้งใจทำงานนี้อย่างมีความสุขต่อไปจนกว่าจะเกษียณนะคะพี่นุช  ทุกคำที่พี่นุชเขียนมีคุณค่าต่อจิตใจของแอมแปร์จริงๆ
แล้วก็ยิ้มชอบใจอีกทีที่พี่นุชบอกว่า "พี่ชอบพิจารณาหรือมองทั้งบริบทเพื่อเข้าใจจุดเล็กๆที่เรากำลังทำอยู่ และจะได้อ่านออกว่าสิ่งที่เราทำมันจะไปทางไหน จะไปถึงไหน มันจะไปสร้างความแตกต่างอะไรได้บ้างมั้ย นอกจากนั้นทำแล้วเรารู้สึกว่าทำอย่างมีความเคารพตัวเองหรือเปล่า"

แนวคิดนี้สวนกระแสอย่างมีพลังมากค่ะพี่นุช  แอมแปร์ชอบจริงๆ   : )   : )   : )   แอมแปร์มองคนที่เป็น นักฝัน(คิด)   กับ นักปฏิบัติ(ทำ)  แล้วนึกสนุก(ปนกลุ้มใจ)อยู่เนืองๆ    ว่าแล้วเราก็สนุกกับการเป็นตัวอะไรประหลาดๆของเราต่อไป  เพราะสร้างวิมานในอากาศไม่เป็น  เราจะจับลงวิมานดินให้หมด  อิอิอิ  : )    
 
พี่นุชพูดถึงเรื่อง เรื่อง Humanized Edu Care   หรือเรื่อง "การเรียนรู้ที่ผนวกเรื่องของจิตใจทั้งของผู้สอนและผู้เรียนเข้าไปด้วย"  นี้ดีจังค่ะ  การ"พิจารณาเรื่องจิตใจควบคู่ไปกับให้วิชาการ" ที่เคยขาดหายไปจากการศึกษาไทยจะได้กลับมา  หากมีการสื่อสารเรื่องนี้กันมากๆและประกาศใช้ในระดับนโยบาย  ศธ. จะได้วิ่งทัน สธ. สักที   : ) ล่าสุดแอมแปร์ได้อ่านจากบันทึกของน้องเอกจตุพร และรู้สึกชื่นชมน้องจริงๆที่มองเห็นและมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเรื่องสำคัญ
คำสำคัญที่แอมแปร์ชอบมากและสนใจอยากรู้อยากเข้าใจมานาน  คือคำว่า "ความเป็นมนุษย์"  เพราะหาความหมายสำเร็จรูปไม่ได้อย่างใจสักทีค่ะ  ส่วนคำว่า"การศึกษา"นั้น ยังพอหาความหมายสำเร็จรูปได้ง่ายกว่า   อยากเข้าไปคุยกับน้องในบันทึกจังเลย 

ว่าแล้วก็ยาวไปครึ่งกิโลตามเคยค่ะพี่นุช  ขอบพระคุณมากๆค่ะที่พี่นุชแวะมาให้กำลังใจเต็มเปี่ยมอีกครั้ง  แอมแปร์ก็ได้เห็นอีกครั้งว่า"พลังใจ"ที่ดีนั้นมาจากคำอันเป็นมงคลของกัลยาณมิตรจริงๆค่ะ  : )

มา(เฝ้าแอบ)อ่านอีกแล้ว

ดีใจจังที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงให้พี่นุชและพี่แอมป์มาคุยกันออกอากาศอย่างสนุกสนาน แฝงปรัชญา

น้องชอบมาก ๆ ค่ะ เก่งด้วยเรื่องฉก   เอ๊ยก็อบปี้เอาความรู้จากผู้รู้กว่าเรา

 

เช่นเรื่องพี่แอมป์อดทนสอนเด็กใช้เจ้าตุ๊ดตู่จนสำเร็จ

น้องจึงเพียรพยายามสอนน้องภู ให้เย็บเล่มกระดาษที่ใช้แล้วไปหนึ่งหน้า ให้เป็นสมุดทด หรือ โน้ตบุ๊ค (ตามสำนวนคุณน้องซาน)จนเขาทำได้...

 

ดีใจ๊ดีใจ

P สวัสดีค่ะคุณหมอเล็ก

 

 

 

ฮันแน้ะ..  จับได้แล้วว่าใครมาแอบอยู่ตรงนี้ : )

พี่แอมป์ต้องขอบคุณคุณหมอเล็กมากๆเลยค่ะที่ช่วยเชื่อมโยงให้พี่กับP พี่นุชได้คุยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง  คุยกันทีไรพี่นุชก็ช่วยชี้ทางสว่างให้พี่แอมป์ได้อย่างนุ่มนวลและลุ่มลึกทุกครั้ง  คนที่ดีใจที่สุดคงเป็นพี่แอมป์นี่แหละค่ะ  : ) 

คุณหมอเล็กเล่าเรื่องลูกภูให้ฟังทีไร พี่แอมป์ชอบคิดเชื่อมโยงไปถึงเรื่องหลานๆและได้ข้อคิดดีๆในการดูแลอบรมบ่มเพาะ"คนตัวเล็ก"ของเราทุกครั้งเลย 

ในความคาดหวังนั้น  พี่แอมป์คิดว่างานของคนที่โตกว่า คือสอนและฝึกคนตัวเล็กที่อยู่ตรงหน้า ให้"เข้าใจ" มากกว่าที่เราเข้าใจ  ทำได้ดีกว่าที่เราเคยทำ  และไม่พลาดในสิ่งที่เราเคยพลาดมาแล้ว 

(หมายถึง ฝึกอย่างเข้าใจ(เขา)และไม่เอาแต่ใจ(เรา)นะคะ)  และในความเป็นจริง พี่แอมป์ก็ได้มองเห็นว่าการเพียรพยายามฝังรูปรอย  เจียรนัย  หรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อเราทำอย่างดีที่สุดและทำจนสุดฝีมือแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยให้เขาเติบโต และบินในแบบของเขา  ด้วยปีกของเขาเอง....  ซึ่งหลายๆครั้งพี่ก็ไม่รู้ว่าควรเป็นจังหวะเวลาไหน  แต่มันจะมาถึงเข้าสักวัน

และเมื่อถึงวันนั้น เมื่อคนตัวเล็กๆของเราเติบโตขึ้นเป็นคนที่  "มีสติกับปัจจุบัน รู้เท่าทันทั้งตนเองและผู้อื่น เมื่อมีสติ ปัญญาย่อมเกิดให้เห็นสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นตรงตามความเป็นจริง" อย่างที่พี่นุชบอก 

พี่คิดว่าพี่คงมีความสุขน่าดู  : )

แบบเดียวกับที่เห็นสาวน้อยเจาะกระดาษด้วยตุ๊ดตู่จนเสร็จ  และแบบเดียวกับที่คุณหมอเล็กเห็นลูกภูทำ"โน้ตบุ้ค"(ตามสำนวนซูซาน)  : )ได้สำเร็จอยู่ตรงหน้า  น่าชื่นใจนัก

ความสำเร็จ มิได้อยู่ที่วัตถุอันจับต้องได้แต่ประการเดียว ความสำเร็จที่ยั่งยืนกว่านั้น อยู่ที่"คุณภาพ"ของจิตใจด้วย   

และแม้ว่าความสำเร็จนั้น  ภายนอกอาจจะปรากฏเป็นสิ่งที่ดูเล็กน้อยเหลือเกินในสายตาของผู้อื่น  แต่หากว่าเป็นความสำเร็จของคนที่เรารัก...

                    ก็ทำให้เราชื่นใจจริงๆนะคะ    : ) 

สวัสดีค่ะ

ตามบันทึกนี้มาจากน้องเอก  ชื่นชอบแนวคิด  ข้อเขียน บันทึก  และข้อความในประวัติทำให้คงต้องติดตามการดำเนินงานอีกหนึ่งมุมมองที่แตกต่างสถานที่ แต่มีความสุขกับการได้สรรค์สร้าง  ...

คงขอเป็นเพียงหนึ่งกำลังใจ...ที่อาจจะคัดลอก แนวทางไปบ้าง แต่ทุกสิ่งจะเพื่อการศึกษา เพื่อเด็กไทยค่ะ

 

สวัสดีค่ะน้องพยอม

ขอบพระคุณมากๆค่ะที่แวะมาพร้อมกำลังใจที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจจริงๆ  ขออนุญาตแทนตัวว่าพี่แอมป์ และขออนุญาตเรียกน้องพยอมเลยนะคะ เพราะพี่แอมป์รู้จักน้องพยอมจากบล็อกมานานแล้วโดยตามไปทางบันทึกน้องเอกเช่นกัน  (ต้องขอบคุณน้องเอก จตุพร มากๆด้วยเพราะทำให้พี่ได้มีโอกาสรู้จักคนดีของสังคมอีกหลายท่านผ่านบันทึกใน GotoKnow แห่งนี้)

ในฐานะครูสอนเด็กโต พี่แอมป์รู้สึกขอบพระคุณคุณครูทุกท่านอยู่เสมอค่ะเพราะการส่งไม้ต่อมือของคุณครู ตั้งแต่อนุบาล ประถม จนถึงมัธยม ทำให้ครูในอุดมศึกษาได้รับคุณค่าจากการที่ท่านเหล่านั้นได้กรุณาฝึกนักเรียนมาให้อย่างดี และแม้ว่าจะมีข้อจำกัดมากมายในระบบการศึกษาของไทย แต่พี่เชื่อว่าการทำงานส่งไม้ต่อมืออย่างเต็มความสามารถของพวกเรา อย่างน้อยๆก็คงมีเด็กๆที่รอดพ้นจากข้อจำกัดของระบบไปได้เป็นจำนวนไม่น้อย 

พี่เข้าข้างตัวเองว่าพี่ก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่รอดจากพ้นจากข้อจำกัดของระบบมาได้ เมื่อได้มาเป็นครูพี่จึงตั้งใจมุ่งมั่นที่จะฝึกเด็กๆทุกคนอย่างเต็มความสามารถในทุกทักษะที่พี่จะสามารถฝึกได้  เพราะเข้าข้างตัวเองอีกเช่นเคยว่าทุกระบบมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด หากเรารู้เท่าทัน"ระบบ"นั้น เราจะก้าวผ่านข้อจำกัดไปได้ในที่สุด

พี่จึงชอบคำว่า"รู้เท่าทัน"นักจ๊ะ   เพราะฟังแล้วชวนให้รู้สึกว่าผู้ที่มีทักษะเช่นนี้จะก้าวผ่านข้อจำกัดหลายๆประการไปได้  และเรียนรู้ที่จะอยู่กับข้อจำกัดนั้นได้โดยไม่ต้องรู้สึกคับข้องใจ เพราะรู้แล้วว่า"สิ่งนั้น คืออะไร" "มีไว้เพื่อการใด" "หากเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น เราต้องมีวิธีคิด  และทำอย่างไร" จึงจะเหมาะสม

พี่อยากเขียนยาวๆจังเลยจ๊ะ แต่ติดที่พรุ่งนี้ยังมีงานรออีกหลายตั้ง พี่ก็ต้องวิ่งหน้าตั้ง เอ๊ยต้องตั้งหน้าตั้งตาไล่จัดการงานให้เสร็จ(ณ เวลานั้นๆ) เป็นงานๆไป พร้อมกับบอกตัวเองว่างานหนักดีกว่าว่างงาน  เวลาขู่เอ๊ยบอกตัวเองแบบนี้ทีไรพี่จะมีกำลังใจบุกตะลุยทำงานอย่างสนุกสนานทุกครั้งเลยจ๊ะ  

ว่าแล้วก็ขออนุญาตตอบแบบสั้นๆอย่างยาวเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ  ขอบคุณน้องพยอมมากๆค่ะที่แวะมา (พี่รู้สึกดีใจจริงๆ) ขอให้น้องพยอมมีความสุขกับการสร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อวงการศึกษาไทย พี่อยากบอกว่าพี่ชื่นชมงานที่น้องพยอมทำ"ด้วยใจ"ดังที่น้องเล่าไว้ในบันทึกของน้องเช่นกันจ๊ะ

ขอบคุณน้องพยอมมากๆอีกครั้งค่ะ

พี่แอมป์ ^_^

สวัสดีด้วยความระลึกถึงยิ่งและดีใจจนออกนอกหน้าเลยค่ะพี่อึ่งอ๊อบ

กว่าแอมแปร์จะได้มีจังหวะ เวลา และสติอันพึงมีในการสื่อสารนี้ก็เข้าไปข้ามปีเลยค่ะพี่อึ่งอ๊อบ เพิ่งรู้สึกสำนึกตัวว่าการทำงานแบบ "แบก" นั้นมั้นหนักหนาสาหัสขนาดไหน พี่สาวน้องสาวที่นิเทศศาสตร์บอกว่าถ้าย้ายกลับไปหลักสูตรเดิมก็จะรับ แอมแปร์(ซึ่งบัดนี้ย้ายมาอยู่ครุศาสตร์ เอกไทยแล้ว)ให้รู้สึกซาบซึ้งใจในความน่ารักของพี่ๆน้องๆเหลือเกิน บางทีกำลังใจเล็กๆจากคนที่เรารักก็ทำให้เรามีความสุขแบบอ้วนใหญ่ได้เหมือนกัน...

แบบที่พี่แวะมาเยี่ยมแอมแปร์ในยามดึกแบบนี้ไงจ๊ะ ดีใจจังเลย อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าพี่สบายดีหนึ่ง นอนดึกนิดหน่อยเหมือนเคยหนึ่ง และมีความสามารถในการพูดสั้นๆแต่ได้ใจความทำให้คนอ่านยิ้มได้อีกหนึ่ง : )

ขอให้พี่มีความสุขกับทุกช่วงชีวิตนะคะพี่อึ่งอ๊อบ ของแอมแปร์ก็กำลังเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับงานหนักแบบ"แบก"(ให้จงได้)ในตอนแก่อย่างมีความสุข หรืออย่างน้อยก็คล้ายๆว่าจะมีความสุขเช่นกัน เพื่อนแอมแปร์บอกว่าที่จริงพวกเราโชคดีออกเพราะยังไม่ได้แต่งงาน แปลว่าเราแบกอยู่ข้างเดียว แอมแปร์ก็ถามด้วยความบริสุทธิ์ใจ(จริงๆ)ว่า ..ข้างไหนเหรอ...?

...งานนี้โดนเพื่อนค้อนไปหลายขวับเลยอะค่ะ.. อิอิอิ

วันนี้ที่กรุงเทพฯฝนตกหนักค่ะ รู้แล้วว่าเพราะอะไร

 

เพราะพี่แอมป์มาโกทูโนนี่เอง มาทิ้งร่องรอยให้ เชอร์ล็อคโฮล์มตามอ่านจนได้

เชอร์ล็อคโฮล์มที่ลูกภูบอกว่า"แม่ ๆ ๆ" "เรื่องตลกนะครับที่ซับนรก(สำนวนวัยรุ่น)เขาแปลว่า บ้านเชอร์ล็อค"..

อิ อิ เรื่องของเรื่องที่ได้อยู่ดึกวันนี้จนมาเจอพี่แอมป์ เพราะ อาบน้ำก่อนนอนแล้วตามคำเตือนของลูกภู หนึ่ง พรุ่งนี้เป็นวันหยุด อีกหนึ่ง และวันนี้เป็นวันที่เรา(หมอเล็ก)ทำงานมาก ๆ จนกระทั่งลูกมาลูบแขนแล้วถามว่า "เป็นครูนี่ ต้องทำงานมากขนาดนี้หรือ"...ท่าทางน้องคงเริ่มเห็นใจครูของน้องแล้ว...!!!

เอ้า "น้องอนุญาตให้แม่นอนดึกด้าย...."

 

ยังมันส์หลาย ๆ กับหน้าที่เป็นครูค่ะ เดี๋ยวนี้ครูและลูกศิษย์เริ่มมีพูดคุยแบบว่า..

"พี่*พี่จะริ...อยู่เดียว เดี่ยว ๆ ดีหรือมีคู่ดีคะ พี่จะริ"

"ขับรถเก่งเปล่า?"

"ไม่เก่ง..!!??..ไมหรือคะ"

"ถ้าไม่เก่ง มีคู่ดีกว่า"

 

"อ้าววว"

ว่าแล้วก็แอบมาหยิกครูเบา ๆ กัน หาว่า เราเล่นมุก...เฮ้อความจริงเลยนะเนี่ย

 

ถามจริง ๆ นะคะพี่แอมป์ พี่แอมป์มาวันนี้ได้นี่เพราะอะไรเอ่ย...(ห้ามตอบว่า ปาก)

มาอีกนะคะ คิดถึงค่ะ

 

*นิคเนมใหม่ที่เด็ก ๆ ตั้งให้ค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์ จะยังจำผมได้ไหมครับ ผมเชน ลูกศิษย์ที่อยู่เทพศิรินทร์นะครับ ไม่ได้ติดต่ออ.นานมากๆ สาเหตุนึงก็คือผมย้ายมาเรียนที่ประเทศจีนอยู่นานหลายปี และอีกหนึ่งสาเหตุก็คือกระดาษเบอร์โทรที่อ.ให้ไว้นั้นหายไป เลยไม่รู้จะติดต่อทางไหน โชคดีที่เดี๋ยวนี้ยุคอินเตอร์เนตทำให้การค้นหาอะไรต่ออะไรง่ายขึ้นเยอะ พิมพ์ แต่ดูจากวันที่ๆลงในบล็อกของอ.นั้นก็นานโข ไม่รู้ว่าอ.ยังจะได้เข้ามาเห็นข้อความนี้หรือเปล่า ถ้าอ.เห็นแล้วรบกวนติดต่อผมหน่อยนะครับ อยากคุยกับอ.มากๆ :D

หวัดดีจ๊ะเชน ดีใจจัง!

 ครูจำเด็กๆห้องสองทับสี่ได้เสมอจ๊ะ  ^_^ ถ้าเชนแวะกลับมาอีกที และสะดวก รบกวนเลื่อนสกรอลบาร์ขึ้นไปด้านบน แล้วช่วยคลิกที่ อีเมลติดต่อ และส่งแมสเสจเบอร์อีเมลของเชนไปให้ครูนิดนึง ครูจะดีใจมากๆจ๊ะ แล้วครูจะรีบติดต่อกลับไปนะจ๊ะ

อ.แอมป์ ^_^

 

คุณหมอเล็กคะ ..คิดถึงจัง ^_^

ก่อนจะเริ่มต้นสื่อสารในครอบครัวโกทูโนว์ พี่ต้องมาขอบคุณคุณหมอเล็กก่อน เพราะเป็นผู้มีอุปการคุณที่ช่วยขุดกรุ เรื่อง "การรู้เท่าทันการสื่อสาร" Communication Literacy งานที่พี่รักและตั้งใจจะทำไปตลอดชีวิต แม้จะ คิด ม่าย ออกไปมั่งในบางช่วง แต่ตอนนี้เริ่มมีอารมณ์หนุกหนานกลับคืนมา ในภาวะที่งานหลักสูตรที่พี่ต้องแบก หนักหนาสาหัสนัก แต่ ณ วันหนึ่ง พี่ก็ได้คำตอบว่า "การได้ทำในสิ่งที่เรารัก ทำให้เราเกิดแรงใจมากพอ ที่จะไม่ผลักภาระทิ้ง"
...ก็ในเมื่อ"เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก"แล้วนี่นะ

วันก่อนโน้น น้องถามพี่ว่า
"ถามจริง ๆ นะคะพี่แอมป์ พี่แอมป์มาวันนี้ได้นี่เพราะอะไรเอ่ย.."
พี่ตอบจากหัวใจของพี่เลยจ๊ะ..

พี่แอมป์มาที่นี่ เพราะที่นี่ "มีคนที่พี่รัก...และมีงานที่พี่รัก" ^_^

พี่มาด้วยความรักเต็มหัวใจเลยจ๊ะคุณหมอเล็ก
คิดถึงน้องมากเน้อ
พี่แอมป์จ๊ะ ^_^

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท