ปัญหาอย่างหนึ่งที่แก้ไม่ตกในวัด ไม่ว่าจะเป็นวัดในเมือง บ้านนอก สำนักปฏิบัติ หรือสำนักเรียน ก็คือเรื่อง กุญแจ ไม่ว่าจะเป็นกุญแจรั่ว ประตูโบสถ์ วิหาร ศาลา กุฏิ หรือกุญแจห้องพักส่วนตัว... นั่นคือ มีการงัด การตัด การรื้อ การเปลี่ยนอยู่เสมอ...
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นก็มีมากมาย เช่น วัดหนึ่งท่านเจ้าอาวาสอายุมากเกินแปดสิบแล้ว สุขภาพย่ำแย่ จึงดูแลไม่ค่อยทั่วถึง... ท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสเปลี่ยนกุญแจประตูหน้าวัด แต่ไม่ได้แจ้งให้ท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสอีกรูป... เมื่อท่านกลับมาจากธุระยามดึกก็เข้าวัดไม่ได้ จึงต้องปีนกำแพงเข้ามา (เมื่อสิบกว่าปีก่อนพระทั่วไปยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ)
เพราะเหตุว่าเปลี่ยนกันเรื่อย ท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาสรูปหนึ่งจึงสร้างเลื่อยตัดเหล็กเล็กๆ ใส่ย่ามไว้เลย... ครั้งใดที่ท่านไปธุระกลับมาดึกดื่น เข้าวัดไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียกต้องปีน ใช้เลื่อยตัดเหล็กในย่ามให้เป็นประโยชน์ทันที...
จากตัวอย่างที่เป็นเรื่องจริงนี้ สาเหตุก็คือ อำนาจในวัดไม่ลงตัว บางท่านก็ใช้อำนาจอันประกอบด้วยธรรม บางท่านก็ใช้อำนาจไม่ประกอบด้วยธรรม .... ผู้ถือกุญแจบ่งชี้ถึงความมีอำนาจ เมื่อมีผู้ไม่เกรงอำนาจของผู้ถือกุญแจ การงัด การตัด การเปลี่ยนกุญแจจึงตามมา....
การเปลี่ยนกุญแจอื่นๆ ภายในวัดมักจะเป็นเรื่องของอำนาจภายในวัด...
......
กุญแจประจำห้องพักส่วนตัว แต่ละห้องพระจะอยู่รูปเดียวโดยปกติตามพระวินัย... ส่วนสามเณรก็อาจอยู่ด้วยกันหลายรูปได้... ศิษย์วัด (ถ้ามี) ก็ตามสมควรมิได้กะเกณฑ์... พระ-เณรบางรูปเพิ่งบวชเข้ามา บวชเพียง ๗ วัน ๑๕ วัน หรือ ๑ พรรษา แล้วก็ลาสิกขากลับไป... ตอนไปท่านก็ลืมคืนลูกกุญแจไว้ สอบถามได้ความว่า ท่านกลับไปทำงานที่เชียงใหม่เสียแล้ว ดังนั้น ก็ต้องงัด ตัด แล้วก็เปลี่ยนกุญแจอีกครั้ง....
ตามสำนักเรียนหรือสำนักปฏิบัติก็เช่นเดียวกัน... โดยมากตอนที่มา มักจะมีผู้นำมาฝาก หรือเข้ามามอบตัวมอบใจเป็นศิษย์ถูกต้องตามทำนองครองธรรม... แต่เวลาจะจากไป บางท่านมิกล้าไปลาท่านเจ้าอาวาสหรือพระเถระอันตนสังกัดอยู่ ปิดห้องแล้วก็ขนของอพยพไป... ต่อมาสอบถามได้ว่าท่านไปไม่กลับ... ก็จะต้องงัด ตัด แล้วก็เปลี่ยนกุญแจใหม่...
ลูกกุญแจสำรอง ซึ่งก็มีอยู่ เพียงแต่ไม่นานนักก็จะหมดไป ประมาณนั้น... หรือบางท่าน เมื่อมาอยู่ก็ไม่ใช้กุญแจลูกเดิม ซื้อกุญแจใหม่มาล็อคไว้ แต่ตอนจากไป ท่านก็ฝากไว้แต่แม่กุญแจ ส่วนลูกกุญแจนั้น ท่านคงจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก จึงต้องงัด ตัด แล้วก็เปลี่ยนกุญแจใหม่.....
นอกจากนั้น ก็มีกลุ่มเณรน้อย ชอบลองวิชาว่าสามารถุสะเดาะกลอนประตูหรือกุญแจห้องได้หรือไม่ ใช้กุญแจผีบ้าง ไขควง มีดพับ หรือเครื่องมืออื่นๆ ... ซึ่งบางครั้งก็ทำได้ บางครั้งก็ทำไม่ได้ แต่กุญแจเสียหาย ก็ต้องงัด ตัด แล้วก็เปลี่ยนกุญแจใหม่....
ดังนั้น ประตูห้องพักส่วนตัวในวัดทั่วประเทศไทย มักจะมีร่องรอยงัดแงะ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาภายในวัด...
ยกเว้นห้องพระเถระ ซึ่งท่านอยู่ที่นั้นมานานเป็นสิบๆ ปี มักจะไม่ค่อยมีร่องรอยที่ประตู เนื่องจากไม่ได้เปลี่ยนผู้อยู่ประจำห้องนั้นนั่นเอง (สำหรับห้องพระเถระ เณรน้อยโดยมากก็มิกล้าบังอาจลองวิชา) ...
ผู้เขียน จึงขอบอกกล่าวบรรดาผู้ที่จะบวชในเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ หรือผู้มีญาติมิตร พี่น้อง ลูกหลาน ที่จะบวชในช่วงนี้หรือต่อไปก็ตาม.... ช่วยเตือนตัวเองหรือเตือนผู้ที่จะสึกหาลาเพศว่า ก่อนออกจากวัด กรุณามอบคืนลูกกุญแจไว้แก่วัดด้วย กรุณาอย่านำลูกกุญแจจากวัดไปเป็นที่ระลึกเลย.....
นมัสการครับหลวงพี่
ได้ยินข่าวแต่การงัดแงะโบสถ์ แต่ข่าวงัดประตูห้องพัก ไม่ค่อยได้ยินครับ อาจเพราะหยิบมาพาดหัวข่าวได้น้อย กุญแจก็เลยหาย
นมัสการค่ะ
ตามสำนักเรียนหรือสำนักปฏิบัติก็เช่นเดียวกัน... โดยมากตอนที่มา มักจะมีผู้นำมาฝาก หรือเข้ามามอบตัวมอบใจเป็นศิษย์ถูกต้องตามทำนองครองธรรม... แต่เวลาจะจากไป บางท่านมิกล้าไปลาท่านเจ้าอาวาสหรือพระเถระอันตนสังกัดอยู่ ปิดห้องแล้วก็ขนของอพยพไป... ต่อมาสอบถามได้ว่าท่านไปไม่กลับ... ก็จะต้องงัด ตัด แล้วก็เปลี่ยนกุญแจใหม่...
ขอเรียนถามว่า ทำไมก่อนลาสิกขา จึงไม่ไปลาท่านเจ้าอาวาสล่ะคะ
ขอบพระคุณค่ะ
พระอาจารย์ครับ...
กุญแจ...มักมีไว้ขัง...
บ้างก็ขังข้าวของไว้...เกรงจะสูญหาย...
บ้างก็ขังตัวเองไว้...ไม่ต้องการเปิดตัวต่อชาวโลก...
บ้างก็ขังใจตัวเอง...ต้องใช้กุญแจใจไข....55555
เพื่อนผมบอกว่าเขาขังคนทั้งโลกไว้...ไม่ให้เข้ามาหาเราได้...555
พระมีกุญแจไว้...เพื่อขังอันใด...????
จริงของพระอาจารย์...
ผมกำลังตัดสินใจบางอย่างกับอนาคตกาล...
หากตัดสินใจไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการ...กักขังตนเอง...หรือไม่
ไม่แน่ใจว่าจะหลุดพ้นบ่วงกรรม...ที่ผูกมัดเราไว้จนไร้อิสระในที่สุดหรือไม่...
วันวานได้คุยกับครูชบแห่งจะนะ...ใจชื้นขึ้นมาไม่น้อย...หากได้ไปเยี่ยมเยียนครูชบ(เป็นข้ออ้าง)...ก็คงได้ไปกราบกราน...ปุจฉาวิสัชชนากับพระอาจารย์สักคืน...