เคยทานเห็ดจูนมั๊ยครับ


แกงเลียงเห็ดจูนกับบวบ สุดแสนอร่อย และสบายใจที่ปลอดสารพิษ

     เนื่องจากปัจจุบันสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป เนื่องจากการใช้สารเคมีมากขึ้น มากขึ้นทุกวัน  เห็ดธรรมชาติค่อนข้างจะหาทานยาก ซึ่งผมเคยบอกไว้ว่าถ้าเจอเห็ดก็เหมือนถูกรางวัลที่ 1 ถ้าเหมือนที่ผมบอกเอาไว้วันนี้ก็คงถูกรางวัลที่ 1 มั๊ง

     ตอนเช้าวันนี้ผมไปเก็บน้ำยางโชคดีมากครับ ในสวนผมตรงจอมปลวก เป็นจอมปลวกที่ไม่สูงมากนัก ตรงกลางปลวกก็เป็นทางเดินของผม  พอเก็บน้ำยางไปถึงจอมปลวก ข้างๆทางบนจอมปลวกก็เจอเห็ดจูน ดีใจสุดๆครับ มื้อเที่ยงนี้ได้อร่อยอีกแล้ว ผมไม่รู้นะครับว่าภาคอื่นเขาเรียกว่าเห็ดอะไร ตามความเข้าใจของผม เห็ดจูน ไม่ใช่เห็ดโคน  เห็ดโคนคือ เห็ดปลวก เห็ดปลวกจะดอกเล็กกว่าเห็ดจูน  ไม่รู้ถูกหรือผิดนะครับ 

     เจอเห็ดก็รีบวิ่งกลับบ้านเลยครับ ไปเอามีดตัดยางหักอันที่เล่าเมื่อวานมาขุดเห็ด ที่รีบวิ่งนี่กลัวคนอื่นมาเจอ แล้วเอาไปครับ ของปลอดสารพิษ แสนอร่อยแบบนี้ก็ต้องหวงไว้หน่อยครับ

    ก็เสร็จผมนะครับ มื้อเที่ยงแกงเลียงเห็ดจูนกับบวบ สุดแสนอร่อย และสบายใจที่ปลอดสารพิษ

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #เห็ดจูน
หมายเลขบันทึก: 112323เขียนเมื่อ 17 กรกฎาคม 2007 19:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 14:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เล่าเรื่องเห็ดอีกแล้ว อ่านทีไรอยากกินทุกทีเลยครับ

ถึงผมจะอยู่หาดใหญ่ก็เถอะ จะหาเห็ดกินนั้นจริงๆแล้วแสนจะยากครับ

คงจะมีก็แต่เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม (จากจีน) เห็ดแชมปิยอง (ในร้านฝรั่ง)

อยากกินเห็ดจูนบ้าง

โสทรเก่งนะครับ ทำไมจึงได้รู้จักเห็ดมากชนิดนัก

จริงๆผมก็เก่งเรื่องเห็ดครับ แต่เป็นเห็ดที่ขึ้นตามร่างกาย ตามตัว ตามขาหนีบอะไรทำนองนั้นครับ กินไม่ได้ ต้องรักษาเท่านั้นครับ

         ขอบคุณครับที่นำเรื่องของเห็ดที่รับประทานได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้แก่มวลสมชิก เป็นประโยชน์มากครับ ผมเคยเห็นเห็ดมามาก แต่ไม่เคยรู้จักเห็ดจูนครับ มาได้รับความรู้ใหม่ครั้งนี้ดีใจจริง ๆ

          ครั้งต่อไปนำความรู้แปลกๆใหม่ๆมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใหม่นะครับ

 

                                                ลุงนิตย์

สวัสดีครับโส

ขอบคุณมากครับสำหรับภาพและเรื่องเล่า ที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ และมองเห็นภาพ เพราะการดำเนินชีวิตแบบบ้านๆ ไม่ต่างกันมากครับ

เวลาโสพูดถึงผักปลอดสารพิษ ผมรู้สึกดีทุกๆ ครั้งครับ เพราะผักเหล่านั้น เกิดเองตามธรรมชาติ หรือไม่แม้ว่าเราจะปลูกเองแต่ไม่ใช้สารเคมีในการบำรุงผัก ไม่พ่นยาฆ่าแมลงใดๆ หรือยาปราบวัชพืชใดๆ

แต่ความหมายลึกๆ ของคำว่าปลอดสารพิษนั้น เราจะต้องคิดทั้ง  ดิน  น้ำ ลม ไฟ ที่จะให้กับพืชเหล่านั้นด้วยครับ  ดินก็ต้องสะอาด น้ำที่ดีไม่มีโลหะหนักคือสิ่งเจือปนที่เป็นพิษ ลมและอากาศที่ดีในสภาพที่ดี แล้วก็ไฟว่าด้วยเรื่องอุณหภูมิของดินและแวดล้อมครับ

บางที่เราจะพบพืชขึ้นเองตามธรรมชาติ เราเองก็อาจจะสรุปไม่ได้ทันที่ว่าปลอดสารพิษหรือไม่หากเราไม่ทราบที่มาของดินในพื้นที่นั่น ยกตัวอย่างเช่น แถวๆ อ.ร่อนพิบูลย์ อำเภอเก่าที่บ้านผมนะครับ เปลี่ยนชื่อแต่อำเภอแต่สถานที่ไม่เปลี่ยนครับ ในตัวเมือง หรือบริเวณที่มีการทำเหมืองแร่ มีการพบสารหนูครับ เกิดสารหนูเพราะการทำเหมืองหนักๆ จะส่งผลครับ ต่อระบบน้ำ ระบบดิน ดังนั้น หากปลูกผักในพื้นที่นั้นที่มีปริมาณสารหนูมากๆ เข้าไป โดยคนไม่ได้ทราบเรื่องเลย เรื่องนี้ก็มีอันตรายต่อชีวิตครับ

ดังนั้น เค้าเลยต้องมี หมอดิน หมอน้ำ หมอลมอากาศ หมอไฟ..ว่ากันไปครับ เพื่อตรวจสอบคุณภาพเหล่านี้ครับ หากทุกอย่างสะอาดหมด ผักนั่นก็นับว่าเป็นผักปลอดสารพิษที่แท้จริงครับ

ขอบคุณมากครับ

         สวัสดึครับ..น้องโสทร

       -พูดถึงเรื่องเห็ดแล้วนึกถึงที่บ้านเมื่อ 20 ปีก่อน โค่นตันยางทิ้งเผาปรน ทำข้าวไร่ ใส่แต่งกวาแต่งไร่ตอนเหน่าข้าว ต้นยางเริ่มเปื่อย เห็ดเริ่มขึ้น มีเห็ดแครง  เห็ดหูลิง(คล้านเห็ดหูหนู) เห็ดขาว เห็ดแครงแกงคั่วกะทิ อร่อย นักแล  เห็ดขาวแกงเลียงเคยเยี่ยมจริง ที่เหลือตากแห้งเก็บไว้กินหน้าฝน  สุดยอด

 สวัสดีค่ะ คุณโสทร

ชอบกินเห็ดเหมือนกันค่ะ อร่อยเหาะ

ไม่เห็นเห็นเห็ดจูน ประเภทนี้เลย ... 

เคยกินแต่เห็ดแครง เห็ดหูลิง เห็ดโคน

ใกล้เที่ยงพอดี ...  ยังมีเห็ดเหลืออีกไหมคะเนี่ย  55

ขอบคุณสำหรับภาพเห็ดจูน น่ารักมากค่ะ

 

สวัสดีครับ คุณหมอ ธนพันธ์

  • ผมไม่ได้รู้จักเห็ดมากชนิดครับ แค่พอรู้ตามที่เคยเจอสมัยเด็กๆ โชคดีว่าเห็ดบางอย่างยังเหลือมาถึงทุกวันนี้
  • ส่วนเห็ดของคุณหมอ ผมก็ไม่อยากได้ครับ มีแล้วก็คัน

สวัสดีครับ คุณลุงนิตย์

  • ยินดีครับ ผมคิดว่าผมยังมีเรื่องบ้านๆ ที่จะนำเสนอได้อีกเยอะเลยครับ
สวัสดีครับ เม้ง​
  • ก็เข้าใจตามที่เพื่อนบอก การที่จะให้ปลอดสารพิษ 100% นั้นคงทำได้ยาก ขึ้นอยู่หลายปัจจัยตามที่บอกมา แต่การที่เราไม่เพิ่มสารพิษลงไปอีกเป็นการดีที่สุดแล้ว

สวัสดีครับพี่ เกษตรยะลา

  • เมื่อคืนกลับมาจากดูหนังตะลุงเที่ยงคืนกว่า มาอ่านเมนูอาหารเห็ดของพี่ กลืนน้ำลายดังเอื๊อก

สวัสดีครับคุณ poo

  • เรื่องเห็ดเสียใจด้วยนะครับ เพิ่งหมดไปเมื่อเที่ยงนี้เอง ก่อนคุณปูโพสมาแป๊บเดียวเอง
  • อ่านแล้ว งง ครับ ตกลง เห็ดน่ารัก หรือ ผมน่ารักครับเนี่ย

    อ่านแล้ว ได้บรรยากาศมากค่ะ อยู่กับธรรมชาติและได้ทานของธรรมชาติ  สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย ดีจังค่ะ

สวัสดีครับคุณ มะปรางเปรี้ยว

  • เมื่อก่อนผมไม่สบายบ่อยครับ ขึ้นชื่อเรื่องไม่สบายบ่อยเลยแหละ ตอนที่อยู่กับคอมพิวเตอร์มากๆ แต่ตอนนี้ผมลืมไปแล้วว่าผมไม่สบายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่  
สวัสดีครับคุณโสทร เห็ดนี้แถว อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา บ้านผมเรียกเห็ดนมหมูครับ ใช้ผัดกับหมูก็อร่อยครับ

นึกว่าจะได้สูตรแกงเห็ด โห่ แต่ก็ไมเป็ฯไรไปหาที่อื่นก็ได้

แหม พูดถึงเห็ดจูนนี่ ก็นึกอยากทานขึ้นมาเหมือนกันเลยครับ นี่ก็คงจะเป็นข้อดีของคนที่มีสวนยางนะครับ บ้านผมเองก็มีสวนอย่างอยู่หลังบ้าน เริ่มเข้าหน้าฝน ก็จะมีเห็ดให้ได้กินกันอย่างที่ คุณเจ้าของกระทู้ได้พบเจอนั่นแหละครับ โดยมากแถวบ้านผม เห็ดจูนจะพบบริเวณข้างจอมปลอกขนาดเล็กครับ ขึ้นเป็นกอ หรือเป็นกลุ่ม โดยดอกเห็นจะแทงดินออกมา ถ้ายังไม่บานก็จะมีลักษณะของดอกเห็ดค่อนข้างแหลม สีน้ำตาลอมเหลือง หากทิ้งไว้โดยไม่เก็บ ก็ไม่เกิน 3 วันครับ ก็จะโรยเนื่องจากโดนแมลงคล้ายๆ แมงกุดจี่ กินหมดนะครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ผมเองคิดว่าเป็นเห็ดปลวก แต่พ่อกับแม่บอกว่า มันต่างกัน เพราะเห็ดปลวก ยอดของหมวกเห็ดหรือดอกเห็นจะไม่แหลมและสีน้ำตาลอมเหลืองเหมือนเห็ดจูน อีกอย่างโคนของเห็ดจูนจะค่อนข้างอวบ ที่คล้ายกันก็คือ มันจะขึ้นตามฐานของจอมปลวกนั่นเอง แต่เห็นโคนมักจะพบเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว คือประมาณ กันยา ถึงตุลาคม ในสภาพธรรมชาติของปักษ์ใต้นะครับ

เห็นจูน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง

ผัดมันเห็ดจูน คือ นำเห็นมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ เจียวกระเทียมพอหอม แล้วนำเห็ดจูนลงไปผัดน้ำมันเพียงแค่นี้ก็จะได้ความหวานหอมอร่อยของเห็ดจูนแบบเต็มๆ ครับ

แกงเลียงผักหวานเห็ดจูน นำเห็ดจูนมาหั่นพอคำ เด็ดผักหวานข้างบ้าน หรือผักหวานป่า (โด่เด่)ต้มน้ำเดือด แล้วใส่กะปินิดหน่อย พร้อมกุ้งแห้ง จากนั้นพอน้ำเดือดอีกรอบก็ใส่เห็ดจูนและผักหวานหรือโด่เด่ลงไป แค่นี้ก็เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมแล้วครับ

แกงเลียงบวบแบบเจ้าของกระทู้ ก็อร่อยไม่เบานะครับ

เขียนอธิบายให้พอเป็นความรู้สำหรับท่านผู้สนใจทั่วไปนะครับ ผมเองก็ไม่ได้กลับบ้านที่ปักษ์ใต้หลายปีแล้ว คิดถึงอาหารปักษ์ใต้มากๆ บ้านเรามีอะไรดีๆ กว่าที่เราคิดเยอะทีเดียว ว่ามะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท