ถ้าไม่พูดถึง นุนเบิดลาย ก็คงไม่ครบเครื่องนะครับ เรื่องต่อไปนี้ ผมอ่านแล้วสรุปเอาเฉพาะที่สำคัญนะครับ
นุนเบิดลาย เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านเดียวกันกับเสือเม้ง เพื่อนยาก ปี 2505 นุนเบิดลายป่วยเป็นโรคประสาท โรคความเครียด เที่ยวรักษาหลายโรงพยาบาลทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รักษาอยู่ 6 ปีกว่าก็ไม่หาย จนกระทั่งนุนเบิดลายได้อ่านหนังสือ สรรพลีห้วน ซึ่งเป็นหนังสือโบราณ และไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน แต่เป็นของภาคใต้แน่ๆ แต่ไม่ทราบว่าผู้เขียนอยู่จังหวัดไหนของภาคใต้แน่ พอได้อ่านหนังสือสรรพลีห้วนในช่วงที่ป่วยอยู่ ความเครียดและโรคประสาททุเลาเบาลง จึงได้ฝึกเขียนดู เขียนแล้วโรเนียวแจกคนที่ชอบ พอเขียนได้หลายตอนก็ตั้งชื่อหนังสือให้คู่กับ สรรพลีห้วน ว่า สรรพะลอด้วน
หลังจากที่ได้อ่านบ้าง เขียนบ้าง ทำให้โรคประสาทที่เป็นอยู่หายดี การสร้างอารมณ์ขันนุนเบิดลายจะสังเกตว่า ไม่ว่าจะหนังตลุง ลิเก มโนราห์ หรือมฆรสพของภาคไหน ของชาติไหนก็ตามต้องพยายามพูด หรือทำกิริยาท่าทางให้ผู้อ่านผู้ฟังได้คิดถึงอวัยวะเพศ แล้วก็จะตลกขำขันขึ้นมาทันที
ท่านคิดว่าจริงมั๊ยครับ มีคนมาต่อว่าผมแล้วว่ายืดเยื้ออยู่ได้เอากลอนมาลงซักทีซิ ไม่นานเกินรอแล้วนะครับ เอากลอนแบบเรียกน้ำย่อยไปก่อนนะครับ
ที่อยู่ของนุนเบิดลาย
เขียนหนังสือ นิทานเรื่องนี้ ปัจจุบันผู้เขียนอยูที่
เห้าสิบก้า หมองสู่ อยู่ตนบำ จงจดจำเกาแพงซำ นำหาผี
รีบจายหมดติดต่อก่อไมตรี ส่งได้ที่เอืองเพอมำจำให้นาน
นีคอนสะฯ จังหวัดอย่ากังขา เชิญส่งมาได้ดีมีหลักฐาน
นุนเบิดลายรับชอบรีบตอบงาน ส่งตอบท่านเร็วพอทั้งหอดีฯหนังสือภาษาศิลป์เล่มที่ผมมีอยู่พิมพ์เมื่อปี 2538 ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันยังมีจำหน่ายหรือไม่ คนเขียนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ก็ไม่อาจทราบได้
ตามความเข้าใจของผมตอนนี้คือ
สรรพลีห้วน ไม่ปรากฎชื่อคนแต่ง
สรรพะลอด้วน แต่งโดย นุนเบิดลาย
นุนเบิดลายได้กล่าวไว้ว่า
สรรพลีห้วน เหมือนเหล้าไม่ผสมโซดาจืด
สรรพะลอด้วน เหล้าผสมโซดาจืดมากแต่ก็สนุก
โชคดีจังหนังสือเล่มที่ผมมีอยู่ นุนเบิดลายได้เอา สรรพลีห้วนต้นฉบับลงพิมพ์ไว้ด้วย แล้วค่อยนำเสนอต่อไปครับ
เยี่ยม
เหมือนสมัยก่อนมีเพลง ยักษ์ไอบ๊อก
ที่คนยะลาแต่งไว้
สวัสดีครับ คุณสันติ อุเทน