ข้าพเจ้าจอมยุทธน้อยมีโอกาสได้เดินทางไปเยือนสหายนักศึกษาไทยที่เมืองไฮเดอราบัด (Hyderabad) เมืองที่ถูกขนานนามว่าเป็นอาณาจักรซอฟแวร์ที่ยิ่งใหญ่ของอินเดียและเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการค้าไข่มุก
ข้าพเจ้าและเพื่อนจอมยุทธอีกสองท่านออกเดินทางจากเมืองเชนไนด้วยขบวนรถไฟด่วนที่สุดมุ่งหน้าสู่ไฮเดอราบัดเมืองหลวงของรัฐอันตรประเทศใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดรวม 13 ชั่วโมงกว่าๆ จึงถึงจุดหมายปลายทาง เมื่อถึงสถานีจุดหมายปลายทาง ข้าพเจ้าก็แลเห็นสหายผู้มีจิตสูงส่งมารอรับเหล่าจอมยุทธผู้มาเยือนอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากคารวะกันตามธรรมเนียมไทยพอเป็นพิธี สหายผู้รู้ใจก็นำข้าพเจ้าและจอมยุทธทั้งสองไปพักที่บ้านเช่าหลังหนึ่งริมทางรถไฟ
บ้านเช่าที่สหายพักอยู่ช่างโอ่โถงงามสง่ายิ่งนัก ราคาค่าเช่าก็ไม่แพงมากแถมยังมีเสียงบรรเลงจากหวูดรถไฟให้ฟังเพลินๆ คลายเหงาทุกชั่วโมง พวกเราเหล่าจอมยุทธทั้งสามใช้เวลาอยู่หนึ่งชั่วยามจึงคุ้นเคยกับเสียงอันโหยหวนนั้นได้
หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จ จอมยุทธเจ้าถิ่นก็นำแผนที่มากางให้พิจารณาดูว่าจะออกเดินทางท่องยุทธจักร ณ ทิศแห่งใด เราเหล่าจอมยุทธพเนจรจึงปรึกษากันสักพักได้ข้อตกลงกันว่าเนื่องจากว่ามีเวลาเยือนเมืองนี้น้อยนิดเราจำเป็นต้องไปในที่สำคัญที่สุดและใกล้ที่สุด
จากนั้นเพื่อนจอมยุทธพาพวกเราเช่าพาหนะออกจากบ้านพักทันที แห่งแรกที่จอมยุทธเจ้าถิ่นนำพวกเราไปคือ วัดฮินดูชื่อว่า Sri Venkateshwara Temple เป็นวัดที่ทำด้วยหินอ่อนทั้งหลังสร้างอยู่บนภูเขามีที่ตั้งคล้ายๆกับวัดภูเขาทองหรือวัดสระเกศที่กรุงเทพฯ สวยงามตระการตายิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่เจ้าสำนักไม่อนุญาตให้นำกล้องขึ้นไปถ่ายรูปได้ จึงเพียงแต่เก็บภาพรอบนอกมาฝากเท่านั้น
จากนั้นสหายผู้รู้ใจพาข้าพเจ้าทั้งสามไปลิ้มรสไอศกรีมและกาแฟถ้วยที่แพงที่สุดริมสระในเมืองและนำท่องสวนสาธารณะกลางเมืองมีชื่อว่า NTR Gardens
สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งชื่อตามอดีตผู้ว่าการรัฐเมืองนี้ ในสวนก็อุดมไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาชนิด มีนักท่องยุทธมากมาย มีทั้งจอมยุทธหนุ่มและจอมยุทธสาวจากเมืองต่างๆ เข้ามาแวะชมกันมากมาย ทำให้พวกข้าพเจ้าเหล่าจอมยุทธพลัดถิ่นเพลิดเพลินใจยิ่งนักโดยเฉพาะเมื่อเห็นจอมยุทธสาวๆเดินชมความงามของดอกไม้ในสวนแห่งนั้น
พอบรรยากาศเริ่มเย็นตะวันคล้อยต่ำจุดหมายสุดท้ายของการท่องยุทธจักรในวันนี้คือนั่งเรือออกไปชมพระพุทธรูปกลางน้ำ พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินแกรนิตก้อนเดียวที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย สูง 17 เมตร หนัก 320 ตัน ใช้ช่างแกะสลักทั้งหมด 40 ชีวิต ใช้รถ 192 ล้อบรรทุกมาประดิษฐาน ณ สระน้ำแห่งนี้รวมจากระยะทางการบรรทุกมากกว่า 60 กิโลเมตรและประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้เมื่อปี 1992 หรือเมื่อ พ.ศ. 2535
ท่านผู้อ่านอาจจะแปลกใจว่าทำไมเพิ่งสร้างพระพุทธรูปเมื่อไม่นานนี้เองทั้งๆ ที่อินเดียได้ชื่อว่าเป็นแดนพุทธภูมิ อันนี้ข้าพเจ้าก็หาทราบไม่ แต่ตามประวัติศาสตร์อันยาวนานเมืองไฮเดอราบัดเป็นเมืองที่มีความสำคัญเกี่ยวกับวัฒนธรรมของศาสนาอิสลาม และปัจจุบันเมืองนี้เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญของอิสลามในประเทศอินเดีย แต่ผู้คนที่นี่ทั้งชาวมุสลิมและฮินดูก็ดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข ข้าพเจ้าแอบชมความมีน้ำใจของชาวเมืองนี้และจอมยุทธผู้มีจิตใจกว้างขวางและมองการณ์ไกลที่นำพระพุทธรูปมาประดิษฐาน ณ ที่แห่งนี้
พออาทิตย์อัสดงความมืดครอบงำสรรพสิ่งรอบกาย บรรดาสหายไทยที่ร่ำเรียนยุทธในเมืองนี้ก็เดินทางมาร่วมกันเพื่อพบปะสนทนาและรับประทานอาหารร่วมกันพร้อมกับดื่มคารวะให้แก่กันและกัน บรรยากาศแห่งการสนทนาและการร่ำสุรากับสหายไทยผู้รู้ใจดำเนินไปอย่างสุขสรรค์แม้ว่าบางท่านเพิ่งพบกันยังไม่ทันข้ามค่ำคืน
วันที่สอง ข้าพเจ้าเหล่าจอมยุทธออกท่องยุทธตามร้านหนังเพื่อซื้อตำราต่างๆ และแวะชมร้านขายสร้อยมุกกำไลมุก ราคาถูกน่าใจหาย แต่เงินที่เตรียมมาหมดไปกับการซื้อตำราไปก่อนแล้ว จอมยุทธแต่ละคนจึงซื้อมุกติดมือมานิดหน่อย มิฉะนั้นอาจจะถูกครหาว่าจอมยุทธไร้มุก
พอพระอาทิตย์อัสดงคล้อยต่ำเฉกเช่นเมื่อวันวาน ข้าพเจ้าและจอมยุทธทั้งสองคารวะบรรดาสหายเจ้าถิ่นผู้เปี่ยมด้วยน้ำใจเพื่อเดินทางกลับเชนไน ก่อนออกเดินทางสหายได้ตระเตรียมเสบียงเดินทางคือไก่ทอดและข้าวห่อให้ไว้กินบนรถไฟพร้อมเสร็จ
พอรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีไฮเดอราบัด จะรอช้าอยู่ใยข้าพเจ้าและเพื่อนจอมยุทธก็ทำพิธีเปิดห่อเสบียงและลงมือทานไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อย โดยสนใจต่อสายตาของบรรดาชาวยุทธที่ร่วมขบวนไม่
สองจอมยุทธ (จอมยุทธผู้หล่อเหลา (ไม่แหลม) ด้านซ้ายมือนั้นผู้เขียนเองครับ)
ตอนหน้ามีภาพที่เก็บเกี่ยวจากการเยือนเมืองไฮเดอราบัดมาให้ชมกันครับ
ปีหน้าจะไปค้า พึงไปอินเดียตอนเหนือมา15วันสวยมากค่ะปีหน้าจะไปอิรเดียใต้ค่ะ
ว้า... ภาพไม่โหลดค่ะ อยากดู
น่าสนใจนะคะ ยังไม่เคยไปอินเดียค่ะ