เรื่องราวน่าตื่นเต้น....."เหตุเกิดบนรถไฟสายใต้"



     ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว  ผู้เขียนได้โดยสารรถไฟ ชั้น 3 ลงไปปักษ์ใต้ 
เขาเรียกว่า"รถเร็ว" ชื่อบอกว่ารถเร็ว แต่โคตะระช้าเลยละ....ฮา
ท่านที่เคยนั่งรถไฟชั้น 3 คงจะนึกถึงบรรยากาศได้ดี กระมังครับ

การเดินทางเที่ยวนั้น  มีเหตุการณ์ที่ตื่นเต้น เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทีเดียวเชียว  
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เชิญอ่าน "เหตุเกิดบนรถไฟสายใต้" ที่ผมร่ายไว้เป็นกลอน..นะครับ
...............................................................................................................

 เหตุเกิดบนรถไฟสายใต้
........................................

คราหนึ่งนั่ง รถไฟ ไปปักษ์ใต้
ยังจำได้ เกิดเรื่องนี้ มิเลือนหาย 
ตู้ชั้นสาม เหลือล้น คนมากมาย
มีวายร้าย แฝงปน ระคนกัน

ช่วงเวลา สามทุ่มกว่า น่าจะได้
เมื่อรถไฟ ถึงประจวบ - คีรีขันธ์
มีสาวใหญ่ ใส่ทอง รูปพรรณ
ข้อมือนั้น กำไลเน้น เห็นชัดเจน

เจ้าหน้าที่ ประกาศเตือน ผู้โดยสาร
อย่าคิดอ่าน ใส่ทอง ให้มองเห็น
ตำรวจเตือน เก็บทองไว้ ไม่จำเป็น
วายร้ายเห็น น้ำลายหก จะฉกเอา

คุณสาวใหญ่ ไม่เชื่อคำ คุณตำรวจ
คงอยากอวด อยากโชว์ ด้วยโง่เขลา
แล้วเธอต้อง ร้องว้าย ! เสียงไม่เบา
โอ๊ย! มันเอา ทองฉันไป จับให้ที

ไอ้วายร้าย ฉกกำไล เอาไปได้
คงตกใจ เสียงตะโกน รีบโจนหนี
คุณสาวใหญ่ เสียกำไล ไปฟรีฟรี
อวดมั่งมี ด้วย"ประมาท" พลาดพลั้งแล๚
...........................................................


ท่านผู้อ่านมีความคิดเห็นอย่างไร  เชิญแสดงความเห็นได้ตามอัธยาศัย ครับผม

........................................................................................................

หมายเลขบันทึก: 111474เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2007 12:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

กำไรทองถูกมองของมีค่า

คนต่างมีเจตนาที่หลากหลาย

ไม่จำเป็นที่ต้องอวดมีมากมาย

ควรเก็บไว้ในที่มีสมควร

บางคนดีบางคนร้ายอยู่ในจิต

ไม่อาจรู้เขานึกคิดยากสอบสวน

ใส่ล่อตาล่อใจให้ยั่วยวน

โจรผู้ร้ายวิ่งสวนก็ฉกเอา

จะโทษใครได้เล่าเรานั้นผิด

คุณตำรวจเตือนให้คิดยังโง่เขลา

ครั้งต่อไปให้เหตุนี้นั้นสอนเรา

กฏเกณฑ์เขามีบอกต้องทำตาม

               เป็นกำลังใจให้ค่ะ ---------> น้องจิ ^_^

กราบหวัดดี บายดีหม้าย พี่บ่าวนงค์
คิดว่าคง สบายดี อยู่ใช่หม้าย
เรื่องปล้นทอง บนรถไฟ ได้ไม่ได้
เกิดมิวาย เมื่อมีคน สนอยากโชว์

จะโวยวาย เมื่อทองหาย ไม่ได้คืน
แต่เพราะฝืน คำเตือนของ เจ้าหน้าที่
เกิดมาแล้ว ไม่จำเป็นบอก ว่าตัวเองมี
เพิ่งรู้ดี ตอนที่ทองหาย บ้ายบายเธอ

แต่ยังดี ที่หาย เพียงแค่ทอง
เพราะที่ต้อง ห่วงกว่านั้น คือชีวิต
เกิดมาแล้ว เกิดหนเดียว ใครลิขิต
ใช้ชีวิต ให้ดีสม ความเป็นคน

มาแต่งกลอน มั่วมั่ว ลองมั่วดู
เห็นแต่ผู้ มีประสบการณ์ กันทั้งนั้น
จึงของหยุด ก่อนจะหลุด ขอบสวรรค์
จึงอวยพร กันว่า สวัสดี

 

 

 

 

 

สวัสดีครับ  คุณ(หลาน) จิราภรณ์
.................................................

แสดงความ เห็นมา น่าสังเกต
เมื่อมีเหตุ โยงใย ไปสู่ผล
ทำผิดเพราะ ละโมบ โลภฤๅจน
การจี้ปล้น จึงเกิดได้ ในสังคม

คุณผู้หญิง ใส่ทอง ของล่อตา
ในเวลา พิเคราะห์ ไม่เหมาะสม
ตำรวจเตือน ไม่รับรู้ หูทวนลม
จึงตรอมตรม ด้วยวายร้าย หมายชิงทอง

การแต่งตัว ยั่วกิเลส เป็นเหตุหนึ่ง
โยงไปถึง อาชญากรรม ทำเศร้าหมอง
ทำให้ต้ว วายร้าย หมายตามอง
ผิดทำนอง เพราะประมาท พลั้งพลาดแล๚
.
.........................................


คำว่า "กำไร" เขียนผิด ต้อง "กำไล" ครับ

ขอบคุณที่มาร่วมแสดงความเห็นเป็นคำกลอน และเป็นกำลังใจ ครับผม

สวัสดีครับ  น้องบ่าวเม้ง สมพร
...............................................

ขอทักทาย น้องชาย ผู้หมายมั่น
จากเยอรมัน อุตส่าห์ มาทักถาม
เรื่องวายร้าย ฉกทอง คิดตรองตาม
เกิดเพราะความ อยากโชว์ โอ้อวดรวย        

อยากขอเน้น ประเด็น เป็นพิเศษ
วิเคราะห์เหตุ ปัจจัย ประกอบด้วย
เพราะไม่เชื่อ เตือนติง ยิ่งอำนวย
จึงต้องซวย เสียทอง ของรักไป

ยังดีที่ วายร้าย หมายแค่ทอง
หากเขามอง หุ่นงาม ด้วยความใคร่
เกิดวิปริต ปลุกปล้ำ ต้องช้ำใจ
หวังพึ่งใคร คงยาก ลำบากครัน

ฝึกแต่งกลอน เริ่มแรก อาจแปลกหน่อย
เขียนบ่อยบ่อย ช่วยเพิ่ม เติมสีสัน
มีฉันทะ ชอบใจ ไม่นานวัน
ดุจเดียวกัน  เช่นฝึกฝน ดนตรีการ๚

....................................................

ขอบคุณ ที่แวะมาแสดงความเห็นเป็นคำกลอน ครับผม
 

 สวัสดีค่ะคุณ
P
อ่านตอนแรกแล้วอมยิ้มเลยค่ะ รถเร็ว จริง ๆ โคตะระช้า จริงๆ ค่ะ นึกถึงตอนขึ้นรถไฟไปใต้จริงๆ ค่ะ ขึ้นรถตั้งแต่ ๖ โมงเย็นไปถึงสุราษฎร์ตอน ๑๖.๐๐ น. กว่าจะรอขึ้นรถตู้ไปถึงภูเก็ต  ๒๔.๐๐น. เลยค่ะ ถือว่าเป็นเที่ยวล่องใต้ที่จำมาจนทุกวันนี้เลยค่ะ เพราะตอนนั้นไปกับญาติ เขาซื้อตั๋วให้  ให้ไปอีกก็ขยาดเลยค่ะ เปลี่ยนไปขึ้นอย่างอื่นดีกว่าค่ะ อิ อิ      อย่างเรื่องที่นำมาเล่าให้ฟัง   เขาเรียกว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา  ขอบคุณค่ะถือเป็นอุทาหรณ์เลยค่ะ 

สวัสดีครับ  คุณ ราณี
................................

สมัยนั่งรถไฟ........ยึดบันไดตรงประตู
น้อมนึกรำลึกดู........ภาพที่เห็นเป็นธรรมดา

มองไปไม่งดงาม.........รถชั้นสามตามที่ว่า
เบี้ยน้อยด้อยเงินตรา........มองตรงที่ดีกว่าเดิน (ฮา)


รถเร็ว..."โคตะระ" ช้า...อิอิ

"ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา"
เสียน้ำตาแถมต้องมาเสียกำไลทอง....แหะๆ


ขอบคุณมาก ที่แวะมาร่วมแสดงความคิดเห็น ครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท