วิธีลดการกินขนมของเด็ก


วิธีลดการกินขนมของเด็ก
  1. จัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้ปลอดขนม

    ไม่ควรตุนขนม น้ำหวาน น้ำอัดลมไว้ในบ้านทีละมากๆ พ่อแม่หลายคนชอบตามใจเด็ก และมีส่วนสนับสนุนให้เด็กกินขนมมากขึ้น โดยซื้อขนมไว้ในบ้านทีละมากๆ เด็กจึงหยิบกินได้สะดวก และจะกินขนมทุกครั้งที่หิว เมื่อกินขนมบ่อย จึงไม่อยากกินอาหารมื้อหลัก อีกทั้งยังเป็นการสิ้นเปลือง โดยไม่มีประโยชน์

    ทั้งนี้ ควรมีการควบคุมการซื้อขนมของลูก โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ซื้อของตามห้างสรรพสินค้า กับลูกๆ ผู้ปกครองมักปล่อยให้เด็กเลือกขนมตามชอบใจ วันหนึ่งได้พบแม่มากับลูกสาว 2 คน อยู่ในวัยเรียน อ้วนทั้ง 2 คน เด็กๆ หยิบลูกอมถุงใหญ่ น้ำหวาน ขนมถุงกรุบกรอบใส่เต็มรถเข็น ปรากฎว่า แม่ต้องจ่ายค่าขนมของลูก รวมแล้วเกือบสามพันบาททีเดียว แม่อาจจะคิดว่า ขนมเป็นความสุขของลูก แต่หากแม่ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ลูกๆ คงอ้วนมากกว่านี้ และเป็นโรคอ้วนได้ แม่เองจะรู้สึกเสียใจ ที่มีส่วนทำร้ายลูกอย่างคาดไม่ถึง

    ครั้งนี้ ได้มีโอกาสคุยกับคนขับแท็กซี่ เขาเล่าให้ฟังว่า "มีลูกสาวเล็กๆ อายุ 4 ปี ที่บ้านไม่เคยซื้อขนมเข้ามาตุนเลย ที่บ้านมีแต่ผลไม้ พอหิวเขาก็หยิบผลไม้กิน ลูกจึงชอบกินผลไม้เป็นนิสัย" เขายังคุยอวดต่อด้วยความภูมิใจว่า "ลูกผมฟันสวย ไม่มีฟันผุเลยนะ"

  2. สร้างกำแพงการกินขนมให้เด็ก

    ด้วยการกำหนดกติกาการกินขนมเป็นเวลา กินขนมที่เป็นประโยชน์ และควรสื่อให้เด็กเข้าใจด้วยว่า กติกานี้มาจากความรัก และปราถนาดีต่อเด็กจริงๆ แม่คนหนึ่งเล่าว่า "ตั้งกติกาให้ลูกกินข้าวอิ่มก่อน จึงจะกินขนม ลูกจึงกินขนมได้น้อย" ผู้ปกครองบางคนใช้วิธีการจำกัดค่าขนมลง บางคนส่งเสริมให้เด็กเก็บออมค่าขนมส่วนหนึ่ง หยอดใส่กระปุกอมสินไว้ แล้วพ่อแม่ช่วยเพิ่มมูลค่าการออมเป็นระยะ หรือนำเงินออมค่าขนมเด็กไปฝากออมสิน สิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มแรงจูงใจ ให้เด็กลดการซื้อขนมลงได้บ้าง

  3. ให้เด็กกินอาหารมื้อหลักครบมื้อ

    เมื่อเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป พ่อแม่ทุกคนควรให้เด็กได้กินอาหารมื้อหลักที่มีประโยชน์ ครบ 3 มื้อ ซึ่งเป็นผลดีต่อเด็กมากมาย นอกจากเด็กได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนแล้ว อาหารมื้อหลักที่เป็นอาหารที่หยาบ หรือแข็ง มีส่วนช่วยพัฒนาความสามารถของกล้ามเนื้อมือ และแขน ในการหยิบจับอุปกรณ์ในการกินอาหาร พัฒนานิสัยการช่วยเหลือตัวเอง เรื่อง การกินอาหารได้เอง รวมทั้งสร้างนิสัยการกินผัก และผลไม้ ทำให้เด็กแข็งแรง

    จากสภาพสังคมปัจจุบัน เด็กส่วนหนึ่งต้องกินขนม และนมรสหวาน แทนอาหารมื้อหลัก เนื่องจากพ่อแม่ต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้า และมักให้เงินเด็กไปซื้อกินเอง เด็กเล็กๆ มักนำเงินไปซื้อขนมถุง นมหวาน นมเปรี้ยว ที่ชอบกินมากกว่าที่จะกินอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นอาหารมื้อเช้า ของเด็กหลายคนทีเดียว ซึ่งล้วนแต่เป็นอาหารหวานที่นำน้ำตาลมาสู่เด็กทั้งสิ้น

คุณแม่ท่านหนึ่งเล่าว่า "แม้ว่าต้องทำงานนอกบ้าน และกลับบ้านค่ำแทบทุกวัน แต่ด้วยความตระหนักเรื่องอาหารมื้อหลักของลูก จึงเพียรทำให้ลูกกินอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีส่วนให้เด็กไม่ชอบกินขนม เธอเล่าด้วยความภูมิใจว่า ... ลูกไม่กินขนมเหมือนเด็กทั่วไป แม่จะตื่นขึ้นมาทำอาหารเก็บไว้ให้คุณยายป้อน เพราะต้องออกไปทำงานแต่เช้า แม่จะไม่ใส่เครื่องปรุงเลย ทุกวันนี้ ลูกก็กินไข่ดาวดับข้าวได้ โดยไม่ต้องเหยาะน้ำปลาให้ เพราะคงชินกับรสชาติเดิมๆ"

คุณพ่อคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า "อาหารมื้อหลักมีส่วนช่วยให้เด็กอิ่ม ไม่กินขนมจุบจิบ เขาเล่าด้วยความสุขว่า ... ตื่นมาทำอาหารจานเดียวให้เขาทุกเช้า เป็นข้าวกับเนื้อสัตว์ และผักเป็นประจำ ทำอาหารให้เขาตั้งแต่อยู่อนุบาล จนถึงมหาวิทยาลัย ไม่เคยรู้สึกว่าเหนื่อย คงเป็นเพราะรักเขามาก อยากเห็นเขาอิ่มไปโรงเรียน จะได้ไม่หิว ทำให้เขาชอบกินผัก ไม่ชอบกินขนมจุบจิบระหว่างมื้อ ตอนนี้เขาอายุมากแล้ว เห็นเขาตัวสูง แข็งแรง ก็ภูมิใจ"

ข้อมูลกรมอนามัย

คำสำคัญ (Tags): #สุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 111472เขียนเมื่อ 14 กรกฎาคม 2007 12:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 13:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
โอว อยากกินมื้อหลัก หิวครับ. ถ้ามื้อหลักอิ่มอร่อย มีผักผลไม้ ฯลฯ แล้วไม่ซื้อมาให้ เด็กจะเอาขนมที่ไหนมากิน?  แต่ว่า life-style ของแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน? แบบอยู่ในตลาด?
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท