การดำเนินชีวิตในยุคการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ ได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรต่าง ๆ ให้ต้องมีความกระตือรือร้นในการสร้างและใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานหรือในการแข่งขัน ทุกองค์กรจำเป็นต้องมีการปรับตัว เปลี่ยนกระบวนทัศน์ ตลอดจนวิธีการทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดศักยภาพ และเกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากเหตุผลดังกล่าว คงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่องค์กรต่าง ๆ พากันเดินหน้าเพื่อแสวงหาแนวทางและวิธีการบริหารงานในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
นับเป็นความโชคดีของเราชาวโรงเรียนบ้านพรุ ที่ได้มีโอกาส และได้รับคัดเลือก ให้เข้าร่วมเป็น 1 ในสมาชิกของโครงการจัดการความรู้ (Knowledge Management - KM) ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ซึ่งได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) โรงเรียนของเราแม้เป็นเพียงครอบครัวเล็ก ๆ ขนาดย่อม ๆ แต่เรามีความมั่นใจในความเป็นหนึ่งของเรา มั่นใจในความรัก ความสามัคคี ความกลมเกลียว ในองค์กร เราจึงคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถจัดการความรู้ในองค์กร โดยใช้กระบวนการจัดการความรู้ ที่ได้รับการถ่ายทอดและแนะนำ จากคณะวิจัยจาก สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง พัฒนาบุคคลแห่งการเรียนรู้ และส่งผลดีต่อการพัฒนาให้เกิดองค์กรหรือสังคมแห่งการเรียนรู้ต่อไป
...........กลางความมืดยืดยาวหนาวฉะนี้
...เทียนริบหรี่ดวงหนึ่งพึ่งพอแสง
...จากดวงหนึ่งจุดต่อไปไฟจึงแรง
...แม้ลมแกล้งก็มิหวั่นอันตราย.............
***JasmiN***
ระบบ KM คือ แนวทางหนึ่งที่จะนำตัวเราและองค์กรของเราสู่จุดหมายที่หวังไว้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นจะทำให้เราสามารถเข้าใจสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น
ให้กำลังใจแก่สมาชิกที่กำลังท้อถอย
เสริมแรงแก่สมาชิกที่ทำดี
ประโยชน์เยอะแยะครับ
ฉะนั้น เป็นคนที่อยู่ข้างๆ คนหนึ่ง จึงขอให้กำลังใจเต็มที่ำกับการเข้าร่วมโครงการของบ้านพรุครั้งนี้