ทำงานอย่างมีนำใจ


เบื่อหน่ายหงุดหงิด ท้อแท้สิ้นหวัง ขาดพลัง หน้าตาหม่นหมอง สิ้นสง่าราศี

            ทุกคนสามารถสร้างคุณความดีในหน้าที่ที่ตนปฎิบัติอยู่ทุกวัน  แต่น่าเสียด่ายที่คนส่วนมากทำงานโดยคิดเพียงแต่ว่าเป็นหน้าที่ " ที่ต้องทำ " ขอให้ผ่านไปวันหนึ่ง ๆ เพราะฉะนั้นแต่ละวัน  แต่ละเดือน  แต่ละปีที่ผ่านไป  จึงตกอยู่ในสภาวะที่ต้องทนทำงานอย่างเสียมิได้ยิ่งนานวัน  ก็ยิ่งเบื่อหน่ายหงุดหงิด  ท้อแท้สิ้นหวัง  ขาดพลัง  หน้าตาหม่นหมอง  สิ้นสง่าราศี  ไม่มีใครอยากเข้าใกล้

             แต่ทว่าคนที่ปฎิบัติภาระหน้าที่ของตนเองด้วยใจรัก  ย่อมแตกต่างไปจากคนที่ทำงานเพียงเพราะ  " หน้าที่ " แต่ไม่มี  " น้ำใจ" ผลที่ได้จะผิดกันราวฟ้ากับดิน

             คนที่ทำงานด้วยความมีน้ำใจ  รักในงานของตน  แต่ละวันไม่ว่าจะต้องเผชิญความยากลำบากแค่ไหน  ต้องเหน็ดเหนื่อยสักเพียงไรใบหน้าก็จะยังคงฉายแววแห่งน้ำใจที่ดีงาม

             ชีวิตจะเต็มไปด้วยพลังที่สดใสมีชีวิตชีวา  เป็นที่รักใคร่ชื่นชมของผู้คนรอบข้าง

             ทุกคืนทุกวันที่ผ่านไป  จึงสามารถเก็บสะสมคุณงามความดีจากหน้าที่ที่ตนปฎิบัติ  ชีวิตและจิตใจของบุคคลนั้นมีแต่จะยิ่งสูงส่งขึ้นไปอย่างมิต้องสงสัย

หมายเลขบันทึก: 111364เขียนเมื่อ 13 กรกฎาคม 2007 19:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 14:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
ถ้าเอาหน้าที่บวกกับน้ำใจได้ งานที่ออกมานั้นจะดีมีคุณภาพและน่าภูมิใจ

เห็นด้วยกับคุณ jr ยิ่งเฉพาะทำงานกลุ่มด้วยแล้ว มันละเอียดอ่อนต้องเปิดใจฟังความคิดเห็นทุกๆคนแล้วมาตกลงหาความลงตัวหาความต้องการร่วมกัน ถึงจะเรียกธรรมาภิบาลไม่ใช่อวดเก่งตัดสินใจเอง แต่ถ้าแก้ปัญหาเฉพาะหน้าละไม่ว่ากัน

การทำงานมันต้องปันใจให้กันบ้าง

การทำงานถ้าทำงานเครียดๆ เราต้องหาอะไรมาคลายเครียด

และผมเชื่ออีกอย่างหนึ่ง งาน10 งาน มันต้องเรียงลำดับ เอางานที่ต้องการด่วน ไม่น่าจะเกิน 3-4 งาน

เราต้องเรียงลำดับ ว่างานไหนเร่งรีบนะครับ จะได้ไม่เครียดทีหลัง

    ด้วยควมปรารถนาดี

         ฤทธิณันท์  ลำปาง

ความสำเร็จของงาน เกิดจากความสามัคคีนั่นเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท