หลังจากออกจากฟาร์มหมู จุดมุ่งหมายต่อไปคือ ร้านค้าที่ไม่ไกลจากฟาร์มมากนัก เพราะได้ข้อมูลมาว่ามีหมูขี้พร้าอยู่ ขอเล่าการแต่งตัวของผมกับพี่ที่ไปด้วยกันก่อน ผมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ทับด้วยแจ๊คเก็ตสีดำ หมวกกันน๊อคแบบเต็ม ใส่แว่นกันแดดดำ พี่ที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ผมใส่เสื้อทหารลายพราง ขี่มอเตอร์ไซด์วิบาก MTX ที่ร้านค้ามีหญิงสาวสองคนนั่งทานข้าวอยู่ ผมขี่มอเตอร์ไซด์เข้าไปจอด
พี่ที่นั่งซ้อนท้าย ถามว่า "ที่ไหนมีหมูขี้พร้าขาย"
สาวๆ ก็ชี้ไปที่บ้านติดกัน เดี๋ยวค่อยกลับมาเล่าให้ฟังว่ามีอะไร ก็จอดมอเตอร์ไซด์ไว้ที่ร้านค้า แล้วเดินไปที่บ้านข้างๆ หมูขี้พร้ามีครับ แต่เล็กเกินยังไม่กินข้าว และใหญ่เกินเอากลับตรังลำบาก สรุปว่าไม่ซื้อ มีสิ่งที่ผมประทับใจที่บ้านนี้คือ ตู้เย็นธรรมชาติบ่อปลาไม่ใหญ่มาก อยู่ใกล้กับคอกหมู บ่อปลาเต็มไปด้วยผักกระเฉด
เห็นมั๊ยครับว่ามีเรื่องให้อิจฉาอีกแล้ว เขาไม่ต้องปูพลาสติกเหมือนอย่างผมเลี้ยงปลากินพืชได้อย่างสบาย
ไม่ซื้อหมูแล้วก็กลับมาที่ร้านค้า ซื้อน้ำดื่ม กินขนม
หญิงสาวเจ้าของร้านบอกว่า "พี่โร้ม๊ายว่าพี่มาจอดรถ นุ้ยตกใจแค่ตาย ถ้าแม่นุ้ยอยู่บ้านแกแล่นเสียนานแล้ว" แปลว่า พี่รู้มั๊ยว่าพี่มาจอดรถมอเตอร์ไซด์ หนูตกใจเกือบตาย ถ้าแม่หนูอยู่บ้านแม่วิ่งก่อนแล้ว ผมทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ผมมันน่ากลัวใครๆ ก็บอก คุยไปคุยมาพี่ที่ไปกับผมก็เป็นญาติกับหญิงสาวอีกคน กินน้ำกินขนมเสร็จก็ขอตัวกลับ ไม่ได้ขอเบอร์โทรนะครับ ยังไม่ถูกใจ เอ๊ะ ตกลงไปหาหมูขี้พร้าหรือไปหาอะไรเนี่ย ล้อเล่นครับ :)
สถานีต่อไปคือบ้านญาติของพี่เขาอีกสถานีนี้กินมื้อเที่ยงครับ ได้ขนมจีนคนละจานสองจาน กินเสร็จคุยเสร็จก็ไปต่อครับ บ้านที่ไปอีกบ้านบ้านนี้ไม่ใช่ญาติแต่เป็นคนที่สนิทกับพี่เขาสองสามีภรรยาอาชีพของเขาตอนนี้คือ เพาะพันธุ์ปลานิลขาย เลี้ยงหมู เลี้ยงปลา ดูรูปนะครับว่าท่านเคยเห็นต้นข้าวงามขนาดนี้มั๊ย ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีครับ แต่คอกหมูอยู่บนนานี้ครับ ปล่อยขึ้หมูให้ลงมาในนา และในนานี้ก็ปล่อยปลานิล 20,000 ตัว มีเรื่องน่าอิจฉาอีกแล้วครับ ไม่อยากจะนับแล้วว่ากี่อิจฉา
ข้างบ้านพี่เขาปลูกพริกด้วย พี่เขาพูดมาประโยคหนึ่งว่า
"ปลูกให้ลูกหัดรดน้ำ" แค่นี้ก็กินใจแล้วครับฝึกความรับผิดชอบให้กับลูก จากการพูดคุยกับก็ทราบว่าบ้านใกล้ๆ กันมีหมูขี้พร้าอีก ก็ร่ำลาเจ้าของบ้านเพื่อไปดู "หมาขี้พรู้" ไปถึงบ้านเป้าหมายพี่ที่ไปด้วยกันกับผมก็ถามเจ้าของบ้านว่า "หมาขี้พรู้อยู่ไหน" เขาก็ชี้ไปที่คอกหมู ตัวเล็กถูกใจครับ สอบถามราคาคู่ละ 500 บาท ที่ตรังบ้านผมตัวละ 600 บาท เจ้าของหมูบอกว่าไม่ค่อยมีทุนเลี้ยง ไม่ค่อยได้กินอาหารซักเท่าไหร่เพราะไม่มีเงินซื้อ ด้วยความสงสารเจ้าของหมู และสงสารหมู งั้นผมเอาสี่ตัวจองไว้ก่อน บ่ายแก่ๆ ค่อยมาเอา
ยังมีต่อนะครับ สรุปว่าเมื่อวานผมได้หมูขี้พร้ากลับบ้าน 4 ตัว ตอนนี้ใกล้สามทุ่มถึงเวลาพักผ่อน อยากเขียนต่อแต่ต้องตื่นกรีดยางตีสองครึ่ง แล้วค่อยมาเล่าตอนสามนะครับ
ว้าว ทุ่งนา เขียว เขียว งามมากๆ เลยค่ะ
มิน่าล่ะคะ ได้อาหารธรรมชาติ จากน้องหมูนี่เอง
ไม่อยากจะนึกเวลา ยามสายัณห์ตะวันตกดิน เลยน่ะเนี่ย .... คงงามล้น งามหลาย
... ปลูกพริกให้ลูกหัดรดน้ำ - ไอเดียนี้เด็ดมากค่ะ
เอ๊ะ ทำไมลูกหมูตัวผอมจังเลย หรือว่าเป็น หมูขี้พร้า เลยต้องผอม .. ?
สวัสดีครับ น้องจิ
สวัสดีครับคุณ poo
บันทึกการเดินทางของเกษตรกรเต็มขั้น อ่านแล้วเพลินดีครับ ได้ความรู้ด้วย...
ชอบเหมือนกันครับ ประโยคที่ว่า "ปลูกให้ลูกหัดรดน้ำ" คิดง่าย ๆ แบบชาวบ้านแต่ได้ประโยชน์จริง ๆครับ...
เป็นวิถีชีวิตแบบพอเพียง ดำเนินชีวิตแบบง่าย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน แถมมีความสุขด้วย...
ขอบคุณครับ...
เป็นไงบ้างค่ะ น้องหมูปรับตัวกับบ้านหลังใหม่ได้หรือยังคะ
จะรอดูว่า ท่านเจ้าของคนใหม่ จะเลี้ยงน้องหมูให้กลายเป็น ... หมูอวบ ค่ะ