เก็บตกการบรรยายของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ.อยุธยา บรรยายที่โรงเรียนเพลินพัฒนาภาคต่อ
ในชั่วโมงวิทยาศาสตร์ของสอนเรื่องคุณสมบัติของแสง ให้เด็ก ๔คนถือกระจกเงา คนแรกสะท้อนแสงอาทิตย์มาจากหน้าต่าง คนที่เหลือก็สะท้อนแสงนั้นไปมาจนถึงจุดหมาย
วิธีการสอนที่ดีที่สุดคืออย่าสอน ครูให้เด็กได้สังเกต วิเคราะห์และเรียนรู้เอง
จากการทดลองครูถามเด็กว่า สังเกตเห็นคุณสมบัติจากการทดลอง
เด็กตอบ “แสงเดินทางเป็นเส้นตรง”
ครูถามต่อเห็นอะไรอีกไหม ถ้าเด็กนึกไม่ออก ครูอาจพูดให้เด็กๆคิดตาม “ตอนแสงเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงแสงค่อยๆวิ่งช้าๆหรือเปล่า”
เด็กตอบ “เปล่าครับ แสงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง สูงมากครับ”
ถึงตอนนี้ก็บูรณาการเข้าไป เด็กรู้คุณสมบัติของแสงแล้วเด็กเป็นคนดีขึ้นไหม
ครู “ตอนแสงเคลื่อนที่แสงแวะโน่น แวะนี่ ไปเที่ยวเล่นก่อนรึเปล่า”
เด็กตอบ “เปล่าครับ แสงไปถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว”
ครู “การบ้านที่ครูให้วันนี้ เมื่อถึงบ้านแล้วนักเรียนจะโอ้เอ้ ดูโทรทัศน์ก่อน หรือไปเล่นก่อนไหม”
เด็กตอบ “ไม่ครับ พวกเราจะทำการบ้านก่อน ถ้ามีเวลาเหลือค่อยไปเล่นครับ”
การสอนเด็กถ้ามีจุดที่แทรกเรื่องคุณธรรมได้ต้องแทรกเข้าไปทันที
เกมสะท้อนแสง
แบ่งเด็กเป็นกลุ่มละ ๔คน ให้แต่ละคนถือกระจกเงา ยืนอยู่ในตำแหน่ง 1-4 มีความโลภ ความโกรธ ความหลง ขวางทางเด็กๆอยู่ ให้เด็กๆสะท้อนแสงหลบหลีกจนไปถึงความเมตตา กลุ่มไหนสะท้อนแสงไปถึงความเมตตาได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด กลุ่มนั้นชนะ
ระหว่างที่เด็กๆแข่งขัน เด็กๆก็จะตะโกนเชียร์ “ขยับหนีความโกรธหน่อย” “สะท้อนหลบความหลงเร็ว” “อย่าให้ความโลภมาขวางทาง”
ส่วนคุณสมบัติข้อ ๓ของแสงก็คือ มุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อน ซึ่งเด็กๆจะได้เห็นจริงจากการทดลอง ครูก็แทรกคุณธรรมตรงนี้ได้อีก “นักเรียนปฏิบัติตัวกับคนอื่นอย่างไรคนอื่นก็จะปฏิบัติกับเราอย่างนั้น เหมือนกับแสง”
ครูฝังคุณธรรมมากมายในจิตสำนึกของเด็กระหว่างการเรียนเรื่องแสง
ชอบจัง
อ่านแล้วอยากนึกเอาไปประยุกต์ใช้กับการทำกิจกรรมเกมนพลักษณ์... จะออกมาได้แบบไหนบ้างน้า......