โรงเรียนห้องสอนศึกษา ได้งดการใช้สัญญาณ(กริ่ง)บอกเวลา ในการเปลี่ยนชั่วโมงเรียน การเข้าแถว การรับประทานอาหาร มานานถึง 19 ปี ปีหน้าเราก็จะงดใช้สัญญาณครบ 20 ปีแล้วค่ะ เพราะจำได้ว่าโครงการนี้เริ่มสมัยที่ตัวเองยังเรียนชั้นมัธยมปลาย ซึ่งวันหนึ่งท่าน ผอ. ก็ได้บอกว่า ต่อไปนี้เราจะงดใช้สัญญาณ(กริ่ง)ในโรงเรียน โดยที่ทุกคนจะต้องดูนาฬิกาเอาเอง ตอนนั้นคิดว่ามันต้องยุ่งแน่ๆ สิ่งแรกที่เตรียมคือต้องไปซื้อนาฬิกาข้อมือ แต่ทางโรงเรียนได้ติดนาฬิกาไว้ที่ห้องเรียนทุกห้องแล้วค่ะ แต่นาฬิกาข้อมือก็ยังจำเป็นเพราะบางที่ก็ไม่มีนาฬิกาให้ดู เวลาเข้าแถวตอนเช้าเมื่อใกล้ถึงเวลา 08.00 น โรงเรียนจะเปิดเพลงมาร์ชของโรงเรียนเป็นสัญญาณว่า ให้ทุกคนเตรียมตัวไปเข้าแถวเคารพธงชาติและทำกิจกรรมหน้าเสาธง แต่เมือถึงเวลาเปลี่ยนชั่วโมงทั้งครูและนักเรียนก็จะต้องช่วยกันดูเวลาเอาเอง โรงเรียนห้องสอนศึกษา ได้ปฏิบัติเช่นนี้มา 19 ปีแล้ว วันนี้เลยตั้งใจสืบเสาะหาประวัติที่ไปที่มาของโครงการนี้ จึงได้รับการเล่าเรื่อง"การงดใช้สัญญาณ" จากท่านรองฯวิชัย จิตสว่าง ท่านเล่าให้ฟังว่า ในปี พ.ศ. 2531 ท่าน ผอ. นิคม เจริญศรี ท่านได้มีแนวคิดในการงดใช้สัญญาณบอกเวลา ซึ่งท่านได้ให้ข้อคิดแก่คณะครู นักเรียน นักการภารโรงว่า "ไก่ที่ออกเสียงขันในยามเช้า ยามรุ่งสาง ยังไม่มีใครมาให้สัญญาณกับมัน ไฉนมนุษย์เราประเสริฐยิ่งกว่าไก่ ควรเตือนตนได้ดีกว่าเป็นแน่แท้" จากวันนั้นถึงวันนี้เรายังคงใช้แนวปฏิบัตินี้มาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในโรงเรียนรู้สึกภูมิใจ การงดใช้สัญญาณในโรงเรียนเราถือว่าเป็นการสร้างนิสัยให้แก่เด็กทุกคน รวมทั้งบุคลากรในโรงเรียนให้รับผิดชอบช่วยเหลือตนเอง รู้คุณค่าของเวลา รู้จักการแบ่งเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดระเบียบวินัย มีคุณธรรมและตรงต่อเวลา ส่วนสาเหตุของการงดใช้เสียงนั้นมาจากแนวคิด "ทุกเวลามีค่าต่อชีวิต ทุกชีวิตจำกัดด้วยเวลา ทุกเวลามีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตนี้เหลือเวลาน้อยนัก" นักเีรียนคือทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญยิ่งของประเทศ โรงเรียนคือสถานที่จุดสว่าง เป็นสถานที่ที่จะอบรมสั่งสอนเด็กให้เรียนรู้ความเป็นจริงที่ถูกต้องรู้คุณค่าของเวลา (มหาเศรษฐีก็ซื้อเวลาและโอกาสไว้ไม่ได้) ด้วยธรรมชาติในสังคมเมื่อออกจากโรงเรียนไปแล้วไม่มีใครคอยบอก คอยให้สัญญาณ ความเป็นจริงและแนะนำอะไรมากนัก ต้องคิดต่อสู้ดิ้นรนหาโอกาสและแก้ปัญหาด้วยความคิดความรู้ประสบการณ์ของตัวเองตลอดเวลา จึงเป็นการเตรียมเยาวชนให้ออกไปสู่สังคมอีกวิธีหนึ่ง
เอะ เรารุ่นใกล้กันเลยนะครับ ฮ่าๆ ๆ ยังจำสมัย ผอ.นิคม ได้ เป็นผอ. ที่น่ารักดี บอกกับนักเรียนทุกคนว่า มีอะไรเข้าไปคุยกับครูที่ห้องได้เลยนะ
สุดยอดเลยคะครู