สิ่งดีๆที่มามอบให้ทุกคน


สูตรขนมไมตรี
สูตรทำขนมไมตรีเครื่องปรุงอภัย 1 ถ้วย ความหวังดี 1/2 ถ้วยความปราถนาดี 2/3 ถ้วยวาจาไพเราะพอประมาณความเห็นใจ 1/2 ถ้วยยิ้มแฉล้มตามต้องการความโอบอ้อมอารี 2 ถ้วยใหญ่ๆวิธีปรุง กวนความหวังดีและอภัยให้เข้ากันเตรียมวาจาไพเราะพอประมาณ

ค่อยๆผสมความปราถนาดีลงไป

ส่วนความเห็นใจกับความโอบอ้อมอารีบรรจงคนให้เข้ากับส่วนอื่นๆ

นำไปอบในหัวใจที่อบอุ่น

โดยมีน้ำใจ หรือยิ้มแฉล้ม เป็นครีมลาดหน้าแล้วแจกจ่ายรับประทานบ่อยๆโดยทั่วกัน 

แทนความรู้สึกที่ดี

เวลาที่เราได้รับรู้มาว่าใครคนนึงไม่สบายใจ ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นมามีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น เป็นห่วงซึ่งมันจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย

อยู่ๆมันก็วิ่งขึ้นมา ณ วินาทีที่เราได้รู้ว่า

จิตใจเค้าได้รับการกระทบกระเทือน อยากทำอะไรก็ได้ แค่ให้เค้ารู้สึกดี อยากทำอะไรก็ได้ แค่ให้รู้ว่าเค้ายิ้มแล้ว อยากทำอะไรก็ได้ ที่จะสามารถแบ่งเบาส่วนนั้นออกมาได้บ้าง อะไรก็ตามที่เพื่อนคนนี้ จะสามารถทำเพื่อเธอได้ รับรองเลยว่าจะไม่ลังเลที่จะทำ จะปฏิบัติ ฉันยินดีจะรับฟัง เพราะอย่างน้อยการที่เธอได้ระบายให้ฉันฟัง ฉันก็ภูมิใจที่ได้เป็นผู้รับรู้ปัญหา แต่ไม่รู้หรอกว่าจะช่วยอะไรได้มั้ย อาจไม่มีคำปรึกษา อาจไม่มีความช่วยเหลือ

แต่สิ่งที่มีให้คือกำลังใจ และรอยยิ้ม

เพราะฉันจะเป็นที่ว่างให้เธอได้นั่งลงพักผ่อน ก่อนที่เธอจะไปสู้กับปัญหานั้นอีกครั้ง ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็ง จะกุมมือเธอไว้เสมอ สุขง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง1.นึกไว้เสมอว่าาการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับตัว 3 ชั่วโมง 2.ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่3.ลองปลูกต้นไม้เองซักต้น การเติบโตของมันจะบ่งบอกตัวตนของคุณได้ 4.หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรที่อยู่ตรงหน้ามันช่างยากจัง 5.ระหว่างแปรงฟังถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบ จะทำให้ฟังสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ 6.เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลงจากที่รสชาติธรรมดาก้อจะอร่อยขึ้นเยอะเลย 7.ไม่ว่าผมจะสั้นหรือยาวแค่ไหนก้อต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด 8.การขึ้นบันไดสูงๆ แบบไม่ให้เมื่อย คือการไม่นับว่ากำลังยืนอยู่บันไดขั้นที่เท่าไหร่ 9.คนตาบอดจะเห็นว่าคุณสวยมากๆทันทีที่เธอถามเค้าว่า "ช่วยพาข้ามถนนไหมค่ะ" 10.เมื่อจะหยิบเศษเงินให้ขอทานไม่จำเป็นต้องนับก่อนที่จะหย่อนลงกระป๋องหรอก 11.ควรหัดพูดคำว่า "ไม่เป็นไร" ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า "จะเอายังไง" 12.ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น 15 นาที รับรองว่าจะไม่ค่อยไปสายเหมือนเมื่อก่อน 13.สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้จึงเล่าให้มันฟัง 14.อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด 15.เขียนชื่อคนที่เกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้ง ความเกลียดจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ 16.ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้งจะดูแทบไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้ 17.ตุ๊กตาและของเล่นเก่าๆ จะทำให้เรายิ้มออกเสมอเมื่อไปหยิบมาเล่นอีกครั้ง 18.ก่อนจะซื้ออะไรก้อตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันทำให้ได้อย่างน้อย 3ข้อก่อน 19.ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าใส่สลับกันไปเรื่อยๆก้อจะดูเหมือนมีเยอะขึ้น 20.ซาลาเปา 1 ลูกกินได้ 2 คน ลูกชิ้นปิ้ง 1 ไม้ กินได้ 4 คน ถ้าคุณคิดจะแบ่งเท่านั้นเอง 21.เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ดีกว่าให้คนที่ได้เยอะจนจำชื่อคนให้ได้ไม่ หมด 22.ในวันที่รู้สึกเศร้าๆเหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองสักดอกแล้วจะดีขึ้น 23.แอบรักใครซักคน ยังไงก้อดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึก รักมันเป็นยังไง 24.ถึงจะไม่ออกไปไหน แต่ก้อไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆไม่ได้นิ 25.ฝึกโรแมนติกง่ายๆ คนเดียวบ้าง ด้วยการนั่งนับดาวให้ครบ 100 ดวงก่อนนอน 26.ถ้าเธอเช็ดกระจกบานที่ขุ่นมัวที่สุดจนสดใสได้ ทำไมเธอจะเรียนดีกว่านี้ไม่ได้ 27.พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่ก้อมีประโยชน์แฝงอย ู่าง 28.วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายนะ 29.แค่เอาข้าวที่กินไม่หมดไปให้หมาที่เดินผ่านมาก็เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลง ทุนแล้ว 30.ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน คุณจะเก็บเงินเพิ่มขึ้นได้อีกหลายบาท  หัดพูดแต่ด้านบวก แล้วจะรู้ว่า มีคนอีกมากมายที่รักเรา
หัดยิ้ม แล้วจะรู้ว่า เราคือคนที่น่ารัก
หัดฟาดฟันกับอุปสรรค แล้วจะรู้ว่า เราคือคนที่เข้มแข็ง
ลองทน แล้วจะรู้ว่า เรามีความอดทนยิ่งกว่าใคร
ลองออกกำลังกายทุกวัน แล้วจะรู้ว่า เราคือมนุษย์เจ้าพลังคนหนึ่ง
ลองคิดเอาชนะ แล้วจะรู้ว่า เราสามารถเอาชนะตัวเองได้ไม่ยาก
ลองคิดให้ใหญ่ แล้วจะรู้ว่า เรามีความสามารถอย่างน่าแปลกใจ
 1. ยอมรับตัวเราเอง ดังที่เราเป็นอยู่2. คิดถึงสิ่งที่เราได้รับ มากกว่าสิ่งที่เราขาดแล้วจงขอบคุณ แทนการบ่นว่า3. จงยอมรับผู้อื่นอย่างที่เขาเป็นอยู่ เริ่มต้นจากผู้ที่อยู่ใกล้ชิดที่สุดโดยเฉพาะครอบครัวของเรา และเพื่อนบ้านของเรา 4. กล่าวถึงผู้อื่นในทางที่ดี และพูดให้ดังๆ   5. อย่าเปรียบเทียบตัวเราเองกับผู้อื่น      เพราะว่าการเปรียบเทียบนี้จะก่อให้เกิด  ความหยิ่งผยองว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น หรือ เกิดความรู้สึกหมดหวังว่าตัวเองด้อยกว่า คนอื่นและไม่ทำให้เรามีความสุขแต่อย่าง ใดเลย 6. ดำเนินชีวิตอยู่ในความจริงโดยปราศจากความหวดกลัวที่จะกล่าวว่า สิ่งที่ดี ดีและสิ่งที่เลว เลว7. แก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยอาศัยการเสวนา การเก็บความไม่พอใจไว้ คือการถอยหลังไปสู่ความโศกเศร้า 8. ในการเสวนานี้ ควรเริ่มต้นด้วยสิ่งที่ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ แล้วจึงกล่าวถึงสิ่งที่ขัดแย้งหรือปัญหาที่เกิดขึ้น 9. จงยึดมั่นว่า การให้อภัยมาก่อน การเป็นฝ่ายถูก 6 ขั้นตอนเพื่อพยุงตัวในวันที่จิตใจอ่อนล้า อย่ามัวแต่โอดโอยโหยไห้ และจมปลักอยู่กับเรื่องร้าย ๆ เลย ลุกมาเติมใจให้เต็มร้อยกันดีกว่า 1. ถ้าเธอเหนื่อยนัก หยุดพักเสียก่อน ถ้ารถที่ขับเกิดผิดปกติขึ้นมา คุณจะจอดขางทางก่อนใช่ไหม นี่ก็เช่นกัน เป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับคนที่ตกอยู่ ในห้วงทุกข์ ถ้าฝืนดันทุรังไปข้างหน้า วันแย่ ๆ อาจถึงกับเป็นวันวิบัติขั้นมาได้ 2. ร้องเถิดถ้าอยากร้อง แต่การร้องไห้นานเกินไปก็เป็นการบ่อนทำลายได้เช่นกัน เพราะความเศร้าสามารถหล่อเลี้ยงตัวมันเองได้ ยิ่งเศร้าก็ ยิ่งคิดมาก และความทรงจำไม่ดีจะยิ่งประดังประเดทับถมมากขึ้นไปอีก แต่ถ้ากลั้นน้ำตาไว้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เหมือนกัน ตอนนี้น่ะทั้งเศร้า ทั้งประสาท สิ้นหวังเต็มประดาแล้วจะทำอย่างไรดี ก่อนอื่นต้องหัดยอมรับความ รู้สึกเหล่านั้นให้ได้ แล้วร้องไห้แต่พอเหมาะพอควร จะให้คุณประโยชน์ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หายเครียด และ คุณจะรู้สึกสงบนิ่งขึ้น 3. หาที่มาที่ไปของเจ้าตัวร้าย ถึงแม้จะยังไม่มีข้อสรุปแน่นอนว่า ทำไมคนเราต้องรู้สึกหดหู่ ท้อแท้ ละเหิ่ยใจ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร มึนทึม และอีกหลาย ๆ ความรุ้สึกที่ไม่ดี คำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด คือ ธรรมชาติสร้างให้คนต้องมีความรู้สึกเหล่า นี้บ้าง เพื่อบอกให้เรารู้จักพักผ่อน และค่อย ๆ คิดว่าจะทำอะไรต่อไป 4. ตัดไฟแต่ต้นลม ลองสืบสาวถึงเหตุการ์ที่มักทำให้หัวใจป่วยดูหลาย ๆ ครั้ง แล้วจะเห็นว่าเกิดเป็นรูปแบบที่แน่นอน นั่นก็คือร่าง กายจะส่งสัญ ญาณเตือนภัยออกมา เวลาที่มีบางสิ่งบางอย่างมากระทบ กุญแจไขปริศนานี้สามารถได้มาด้วยการ ฝึกฝนจิตใจตัวเองหาทางออกไปทีละ ขั้น และเหมาะสมกับการเผชิญและบรรเทาปัญหาที่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละ ครั้ง 5. อย่าเอาแต่นอนซังกะตาย ที่ว่าบอกให้ค่อยเป็นค่อยไปนั้น ไม่ได้หมายความให้นอนแน่นิ่ง และปล่อยให้เรื่องเลวร้ายสุมทับตัวอยู่ตรงนั้นฝ่าย เดียว เราจะต้องลุกขึ้นและสู้กับมัน การจะควบคุมระบบความนึกคิดของตัวเองนั้น ต้องกระตุ้นตัวเองให้หลุดจาก ปลักที่จมอยู่ ขอแค่ให้ผ่านวันนี้ไปได้ แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง 6. อย่าโทษตัวเอง เคยสงสัยไหมว่า สิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นในวันเลวร้ายของคุณน่ะ เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของตัวเองหรือคนรอบข้าง ถึงแม้การทำ ความเข้าใจและแก้ไขปัญหาจะมีประโยชน์ แต่การย้ำคิดถึงทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปอย่างไม่หยุดหย่อน เป็นเสมือนการโษตัวเอง ที่ทำให้วันไม่ดี วันหนึ่งเป็นสัปดาห์แห่งความทุกข์ระทมได้ การจองจำตัวเองอยู่กับคำ คาดโทษตัวเองจะยิ่งเป็นอุปสรรคขวางกั้นการไปสู่หนทางแก้ปัญหาที่ ถูกต้อง ดังนั้นให้ลองถามตัวเองว่า กำลัง โหดร้ายกับตัวเองเกินไปรึเปล่า? และการทำเช่นนี้ช่วยขจัดปัญหา และเตรียมให้คุณพร้อมเผชิญ เหตุการณ์ยุ่ง ยากในคราวต่อไปได้ไหม? เราต้องยอมรับความจริงว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตกเข้าไปในหลุมดำแห่งความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่เวลาใดก็เวลา หนึ่ง แม้แต่ คนที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟ็กไปหมดทุกอย่าง ก็คงต้องเคยมีอากาของไข้ใจประเภทใดประเภทหนึ่งบ้าง ล่ะ ฉะนั้นสิ่งที่ทำได้คือถนอมตัวเองไว้ ให้ดี จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ (เป็นอย่างน้อยที่สุด)  
หมายเลขบันทึก: 108298เขียนเมื่อ 3 กรกฎาคม 2007 15:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขนมไมตรีอร่อยดีมีคุณค่า ขอให้แจกจ่ายกันให้ทั่วทุกคน

ขออนุญาตินำไปเผยแพร่ต่อได้ไหมคะ
พร้อมนำไปแจกจ่ายแล้ว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท