การลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ


ทำให้เงินออมออกดอกออกผล

ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ การพยายามออมเงินที่ได้มา เพื่อสำรองไว้สำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอนเป็นเรื่องจำเป็น ในฐานะที่เป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง การที่มีรายรับที่แน่นอน ก็สามารถคำนวณปริมาณเงินที่จะออมได้ แต่การออมที่ดีเราต้องศึกษาความจำเป็นในการใช้เงินของเรา กับระยะเวลาที่ต้องการใช้เงิน และปริมาณเงินที่ต้องใช้ ให้สัมพันธ์กับรูปแบบการออม เพราะในปัจจุบันคนส่วนมากจะมีวิธีการออมที่ได้รับผลประโยชน์กับตัวเองไม่เต็มที่

ในฐานะที่เป็นพนักงานธนาคารคนหนึ่ง การได้เข้ามาอยู่ในองค์กรแห่งนี้ ทำให้เราสามารถรู้ถึงผลิตภัณฑ์ของธนาคารทุกชนิด ผลประโยชน์ที่ได้รับของแต่ละผลิตภัณฑ์ ระยะเวลาในการที่จะต้องออม เงื่อนไขของแต่ละผลิตภัณฑ์ เมื่อเรารู้ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดแล้ว คราวนี้เราก็มาดูถึงเงินออมของเราว่าเงินของเราจะต้องมาใช้เมื่อไหร่ ปริมาณเท่าไหร่ จากนั้นจึงแบ่งเงินออมออกเป็นกอง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารมีอยู่

อย่างเช่น เงินฝาก จะมีเงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ เงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี เป็นต้น ก็จะมีความแตกต่างกัน

ฝากแบบออมทรัพย์ จะเป็นเงินที่เราจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เราต้องคำนวณไว้บวกกับเงินเผื่อจำเป็นสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิดด้วย เงินฝากชนิดนี้ให้ผลตอบแทนต่ำ เพราะธนาคารไม่สามารถนำไปลงทุนในระยะกลางและยาวได้ เนื่องจากธนาคารไม่รุ้ว่าลูกค้าจะถอนเมื่อไหร่

ฝากประจำ แยกเป็น 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน ให้ผลตอบแทนสูงกว่าฝากออมทรัพย์ แต่มีเงื่อนไขด้านการฝาก คือ หากถอนก่อนครบกำหนด จะได้ผลตอบแทนน้อย หรือไม่ได้เลย เงินฝากประเภทนี้น่าสนใจ เพราะเป็นการออมที่ให้ผลตอบแทนในระดับปานกลาง และระยะเวลาไม่นานมากนัก

ฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี เป็นการฝากที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดสำหรับเงินฝาก มีเงื่อนไข คือ จะต้องฝากทุกเดือน ๆ ละเท่า ๆ กัน ห้ามผิดเงื่อนไขเกิน 4 ครั้ง ระยะเวลาการฝากอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนมาก ๆ เพราะเราสามารถนำเงินเดือนที่เราได้ มาฝากกับเงินฝากประเภทนี้ แต่ระยะเวลาในการฝากจะนานนิดนึง

หากใครต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการออมเพิ่มเติม ก็สอบถามมาได้ครับ ยินดีให้บริการ

หมายเลขบันทึก: 107780เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2007 12:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 08:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอข้อมูลฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน ด้วยค่ะ

แอน

เงินฝากประจำ 3 เดือน เป็นเงินฝากที่ธนาคารจะให้ตอกเบี้ยทุก 3 เดือน หากเราถอนก่อนครบกำหนด 3 เดือน เราจะไม่ได้ดอกเบี้ย เช่น ถ้าเราฝาก 10 เดือน แล้วถอน เราจะได้ดอกเบี้ย 3 ครั้ง ส่วนอีก 1 เดือนที่เหลือ เราจะไม่ได้ดอกเบี้ย

เงินฝากประจำ 6 เดือน จะเป็นเงินฝากที่ธนาคารจะให้ตอกเบี้ยทุก 6 เดือน หากเราถอนเงินก่อนครบ 3 เดือน เราจะไม่ได้ดอกเบี้ย แต่ถ้าเราถอนเงินหลังจากครบ 3 เดือนแล้ว เราจะได้ดอกเบี้ยเท่ากับดอกเบี้ยเงินฝากสะสมทรัพย์ แต่จะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15 % ต่อปีด้วย (เงินฝากสะสมทรัพย์จะไม่เสียภาษี แต่เงินฝากประจำจะเสียภาษี) เช่น ถ้าเราฝาก 10 เดือน แล้วถอน เราจะได้ดอกเบี้ย 1 ครั้ง ส่วนอีก 4 เดือนที่เหลือ เราจะได้ดอกเบี้ยเท่ากับเงินฝากสะสมทรัพย์ และเสียภาษี 15 % ต่อปี แต่ถ้าเราฝาก 8 เดือนแล้วถอน เราจะได้ดอกเบี้ย 1 ครั้ง ส่วนอีก 2 เดือนที่เหลือ เราจะไม่ได้ดอกเบี้ย

เงินฝากประจำ 12 เดือน และ 24 เดือน จะเหมือนกับเงินฝากประจำ 6 เดือน ในเรื่องของเงื่อนไขการถอนเงิน

อนึ่ง เงินฝากประจำจะมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดช่วงระยะเวลาของเงินฝากประเภทนั้น ๆ เช่น ถ้าเราฝากประจำ 3 เดือน ดอกเบี้ยขณะนั้นเท่ากับ 3 % ต่อปี แล้วหลังจากที่เราฝากได้ 1 วัน ธนาคารปรับลดดอกเบี้ยลงเหลือ 2 % ต่อปี เราก็ยังคงได้ดอกเบี้ย 3 % เหมือนเดิมจนกว่าจะครบกำหนด 3 เดือน จากนั้นเมื่อครบกำหนดแล้วดอกเบี้ยจะปรับใหม่โดยดูว่าดอกเบี้ยฝากประจำ 3 เดือน ณ วันนั้นคือเท่าไร เช่นถ้าดอกเบี้ยเท่ากับ 1.5 % ต่อปี ดอกเบี้ยก็จะคงที่ไปอีก 3 เดือน เป็นต้น

ดังนั้น หากเราคาดว่าดอกเบี้ยในอนาคตอยู่ในช่วงขาลง เราก็ควรจะฝากประจำในระยะยาว เพราะเราจะได้ดอกเบี้ยที่สูงเป็นเวลานาน

ถ้าเราคาดว่าดอกเบี้ยในอนาคตอยู่ในช่วงขาขึ้น เราก็ควรจะฝากประจำในระยะสั้น เพราะเราจะได้ปรับดอกเบี้ยขึ้นเมื่อครบกำหนดได้เร็วขึ้นครับ

********************************************************

สวัสดีครับน้องฝัด อยากทราบว่าการออมวิธีใดดีที่สุด กรณีวงเงินออมมีจำกัด

สำหรับคำถามของคุณจิรัฏฐ์ มามะ นะครับ ผมมองว่าจำนวนเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกว่าเราจะฝากรูปแบบไหน ผมมองว่าระยะเวลาที่เราไม่ต้องใช้เงินก้อนนั้น ว่านานแค่ไหนต่างหากที่เป็นปัจจัยหลัก เช่น ถ้าเรามีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง แล้วคิดว่าอีก 5 เดือนข้างหน้าเราจะต้องเอาเงินก้อนนี้มาใช้ ผมก็จะแนะนำว่าควรจะฝากประจำ 3 เดือน ส่วนอีก 2 เดือนอาจจะฝากแบบสะสมทรัพย์ก็ได้

หนูอยากทราบว่า

การฝากประจำ 12 หรือ 24 เดือน กับ การฝากเงินเพื่อการลงทุนที่เริ่มด้วย 2000 บาทเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรค้ะ

และ อยากทราบว่า

สินมัทธยะทรัพย์ทวี 1และ2 แตกต่างกันอย่างไร หรือ เหมือนหรือแตกต่างอย่างไรกับการฝากปะจำค้ะ

พอดีหนูเป็นนิสิตอยู่อะค้ะ อยากฝากเงินแบบลงทุนการฝากครั้งแรกไม่เกิน 5000 บาท แต่ได้ดอกเบี้ยที่มั่นคงและสูง ควรฝากแบบไหนดี

ช่วยแนะนำหน่อยนะคร้ะ

ขอบคุณพี่มากค้ะ

ตอบคำถาม คุณมัลลิตา ครับ

การฝากประจำ 12 เดือน หมายถึง การฝากเงินก้อนหนึ่งแล้วทิ้งไว้ในบัญชีนั้นเป็นเวลา 12 เดือน ก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่ประกาศไว้ ณ เวลาที่ฝากครับ

เช่น ฝากประจำ 12 เดือน ณ วันที่ 27 ส.ค.51 ยอดเงิน 5000 บาท ดอกเบี้ย ณ วันที่ฝากเท่ากับ 2.75% ต่อปี

ในวันที่ 27 ส.ค.52 (ครบ 12 เดือน)คุณจะได้รับดอกเบี้ยเท่ากับ 5000*2.75%*(12/12)=137.50 บาท

การฝากประจำ 24 เดือน หมายถึง การฝากเงินก้อนหนึ่งแล้วทิ้งไว้ในบัญชีนั้นเป็นเวลา 24 เดือน ก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยตามที่ประกาศไว้ ณ เวลาที่ฝากครับ

เช่น ฝากประจำ 24 เดือน ณ วันที่ 27 ส.ค.51 ยอดเงิน 5000 บาท ดอกเบี้ย ณ วันที่ฝากเท่ากับ 3.00% ต่อปี

ในวันที่ 27 ส.ค.53 (ครบ 24 เดือน)คุณจะได้รับดอกเบี้ยเท่ากับ 5000*3.00%*(24/12)=300 บาท

*** หากฝากไม่ครบตามกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ประกาศไว้

*** เงินฝากประจำของธนาคารกรุงเทพ ต้องฝากขั้นต่ำต่อครั้ง 2000 บาทครับ

สำหรับการลงทุนที่เริ่มต้นด้วยเงิน 2000 บาท ผมคิดว่าน่าจะเป็นเงื่อนไขในการฝากประจำนะครับ(ถ้าเข้าใจผิดต้องขอโทษด้วยครับ)

การฝากเงินประเภทสินมัธยะทรัพย์ทวี ผู้ฝากจะต้องฝากเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน โดยดูจากการฝากเงินครั้งแรก เช่น ถ้าครั้งแรกฝากเงิน 1500 บาท เดือนที่ 2,3,4... ก็จะต้องฝาก 1500 บาทจนกว่าจะครบสัญญาครับ

ส่วนความแตกต่างของเงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี 1 กับ 2 คือ เรื่องของระยะเวลาการฝากครับ กล่าวคือ สินมัธยะทรัพย์ทวี 1 จะมีระยะเวลาการฝาก 2 ปี ส่วนสินมัธยะทรัพย์ทวี 2 จะมีระยะเวลามากกว่า 2 ปี ครับ(อาจจะเป็น 3 ปี 4 ปี 5 ปี ขึ้นอยู่กับผู้ฝากจะเลือกครับ)

*** สำหรับข้อเสนอแนะ ในการนำเงิน 5000 บาทมาลงทุน นะครับ ควรจะฝากประจำ 3 เดือนครับ เพราะระยะเวลาการฝากไม่นานเกินไป และช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวสูงขึ้นครับ

เงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี 1:ระยะเวลาการฝาก 2ปี

สามารถทำการถอนได้เมื่อครบกำหนดเลยหรือเปล่าค่ะ

แล้วถ้าครบ 2 ปีแต่ไม่ถอนได้ไหม,จะเสียผลประโยชน์หรือเปล่า

ขอบคุณค่ะ

ตอบคุณ PiNK LAdY ครับ

การฝากแบบสินมัธยะทรัพย์ทวี เมื่อครบกำหนดแล้ว ไม่ทำการถอนออก จะไม่ได้รับดอกเบี้ยเพิ่มในส่วนของระยะเวลาที่เสียไปครับ ทำให้เสียโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทน

การถอนเมื่อครบกำหนด จะต้องให้ครบวันนะครับ ถ้า 2 ปี จะต้องฝาก 365*2 ครับ เช่นถ้าเปิดบัญชีวันที่ 21 ก.ย. 2551 จะถอนโดยไม่เสียผลประโยชน์ หรือไม่ผิดเงือนไข จะต้องถอนวันที่ 21 ก.ย. 2553 ครับ(สำหรับการฝากระยะเวลา 2 ปี)

ถ้าเราถอนเงินก่อนกำหนดในการฝากแบบสินมัธยะทรัพย์ทวี สามารถถอนก่อนได้ไหมครับ จะครบกำหนดในอีก9เดือนแต่จำเป็นต้องใช้เงินครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท