อ่านมาจากข่าว Medscape ถึงงานวิจัยของดร. Wilson ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neurology เดือนมิถุนายนนี้แล้ว อยากเอามาบอกต่อสำหรับคนที่ชอบบ่นและกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้กันค่ะ
ในงานวิจัยนี้เขาศึกษาติดตามในคนสูงอายุ 700 กว่าคน ติดต่อกันยาวนานถึง 5 ปี กลุ่มที่ไม่ค่อยได้ใช้สมองอยู่เรื่อยๆจะมีโอกาสเสี่ยงต่ออัลไซเมอร์มากกว่าคนกลุ่มที่มีกิจกรรมที่ใช้สมองบ่อยๆถึง 2.6 เท่า นอกจากนั้นคณะผู้วิจัยยังมีงานที่ตีพิมพ์ปีที่แล้ว (Bennett DA et al. Lancet Neurol. 2006;5:406-412) ที่แสดงว่ากลุ่มคนที่มีเครือข่ายสังคม ได้พบปะผู้อื่นมากๆ จะมีความจำดีกว่ากลุ่มที่ไม่ค่อยสังคมกับใคร กิจกรรมการพบปะผู้คนทำให้ต้องใช้สมองในการสนทนา จับตาดูคู่สนทนาและตอบสนอง ทำให้สมองได้ทำงาน
คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเราที่จะช่วยกันเอาไปบอกต่อว่าเขามีงานวิจัยยืนยันกันมาแล้ว และช่วยๆกันสร้างเครือข่ายเสียตั้งแต่วันนี้ ทั้งกับตัวเองและผู้เฒ่าผู้แก่รอบๆตัวเรา หากิจกรรมทำ เช่นการอ่านหนังสือ เขียนอ่านบล็อก เล่นเกมส์ต่างๆ
จำได้ว่าเคยหาวิธีช่วยฝึกสมองมาบอกคุณปู่ของเด็กๆ แต่จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหน ว่า เขาแนะนำให้ลองเขียนหนังสือด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด นับเลขถอยหลังทีละน้อย ค่อยๆเพิ่มขึ้น เช่นตอนแรกๆอาจจะนับจาก 50, 49, 48 ไปจนถึง 1 แล้วค่อยเพิ่มเป็นจาก 60 จาก 70 ลงไปเรื่อยๆ คิดว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจเหมือนกัน เลยเอามารวมไว้ตรงนี้ ใครมีอะไรดีๆก็แนะนำมารวมกันไว้ได้นะคะ
น่าสนใจครับ
และน่าสงสัยด้วยว่า การมีสังคมเหมือนใน G2K จะส่งผลต่อสมองเหมือนกับการมีสังคมแบบที่ต้องพบปะกันหรือไม่ ถ้าตอบว่าใช่ นั่นหมายความว่า การที่เด็กนิยมนั่งหน้าคอมแล้ว chat กันนั้น ก็ไม่ส่งผลเสียต่อทักษะการเข้าสังคม แต่ฟังดูก็แหม่งๆชอบกลนะครับ ผมคิดว่าอย่างไรเสีย การมีทักษะทางสังคม น่าจะมาจากการพบปะ พูดจากันมากกว่านั่งพิมพ์และอ่าน
ผลสัมฤทธิ์อย่างหนึ่งของสังคม G2K นั่นก็คือ ท้ายที่สุดแล้วก็มีบางกลุ่มนัดพบปะพูดจากัน โดยมีจุดเริ่มมาจากการพบปะกันในไซเบอร์ อย่างเช่นที่มหาชีวาลัยอีสานนั่นปะไร
นั่งรออยู่ว่า เมื่อไหร่จะมีทักษิณามหาชีวาลัยกับเขาบ้าง