ห่างหายจากโลกอินเตอร์เน็ตไปหลายวัน เนื่องจากเดินทางไปร่วมประชุมวิชาการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล ความตั้งใจในเบื้องแรกก็เป็นเพียงเพราะเห็นหัวข้อการบรรยายหลายๆเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นภารกิจหนึ่งในฐานะนักเทคนิคการแพทย์ที่จะต้องไปพัฒนาตนเองด้วยการร่วมประชุมวิชาการ (ตามระเบียบราชการที่เขาว่ากันไว้)
เนื่องจากเป็นการประชุมที่จัดโดยคณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล ซึ่งตรงกับวาระที่วิชาชีพนี้รวมทั้งคณะฯครบรอบ 50 ปีแห่งการก่อตั้ง จึงได้ร่วมประทับใจกับประวัติความเป็นมาของวิชาชีพ ได้ร่วมรับมงคลชีวิตจากปาฐกถาศาสตราจารย์นายแพทย์วีกูล วีรานุวัตติ์ครั้งที่ 8 จากท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ของเราช่าว GotoKnow นี่แหละค่ะในหัวข้อเรื่อง "การจัดการความรู้ในโครงการพระราชดำริ" ท่านอาจารย์ได้วิเคราะห์ให้เราเห็นถึงความชาญฉลาดของการดำเนินงานในโครงการพระราชดำริที่ใช้ KM เพื่อผสมผสานบูรณาการความรู้ในพื้นที่กับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญทฤษฎี ในศูนย์ศึกษาการพัฒนา ประทับใจและเห็นจริงถึงวงจร Knowledge from action ไปสู่ Knowledge for action ที่ความรู้ไหลวนเวียนแลกเปลี่ยนกัน ปรับเปลี่ยนได้ตามบริบทของตนเอง
การบรรยายอื่นๆจะเป็นในลักษณะที่เราพบเห็นได้ทั่วไปคือผู้บรรยายพูดๆไป คนฟังก็นั่งนิ่งๆรับฟังไปตามเวลา คิดว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบการอ่านเอาเอง หรือถ้าเป็นการบรรยายให้เราฟังก็อยากให้เป็นแบบที่กระชับและเล่าสิ่งที่ผู้พูดรู้อยู่ในตัวเองที่มากกว่าที่จะสามารถหาอ่านได้จากตัวหนังสือ ทำให้เป็นบทเรียนสำคัญในการเลือกเข้าร่วมการประชุมวิชาการในสายวิชาชีพของตัวเองครั้งต่อๆไป เพราะนี่คือครั้งแรกในรอบเกือบสิบปีที่เข้าร่วมประชุมวิชาการของเทคนิคการแพทย์ และคิดว่าการบรรยายลักษณะนี้อาจจะเหมาะกับคนส่วนมากที่ไม่ใช่เรา
สิ่งที่ตั้งใจจะเขียนในบันทึกนี้คือ ความประทับใจที่เกิดจากการไปร่วมงานครั้งนี้ ซึ่งเป็นเพราะจัดโดยคณะเทคนิคการแพทย์ ม.มหิดลเอง ดังนั้นคณาจารย์ของคณะแทบทุกท่านก็จะมาร่วมงาน จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้พบอาจารย์หลายๆท่านที่เคยสอนตั้งแต่ตอนเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ในปี 3 และปี 4 อาจารย์ที่พบแล้วตรงรี่เข้าไปกอดเลยนั้นมีหลายๆท่าน เป็นการกระทำที่เกิดโดยอัตโนมัติ มีโอกาสได้เก็บภาพกับเพียงไม่กี่ท่าน เพราะบางท่านก็พบเพียงไม่นานนัก หากจะเขียนชื่อของท่านก็คงจะยืดยาวทีเดียว ไม่เคยนึกเลยว่าจะรู้สึกอิ่มเอมใจอะไรได้ขนาดนี้
มานั่งนึกทีหลังว่า อะไรทำให้เรารู้สึกคิดถึงและรักท่านได้มากขนาดนี้ แม้จะไม่ได้เคยระลึกรู้ถึงความรู้สึกนี้มาก่อนเลย บางท่านนั้นต้องสารภาพเลยว่า จำไม่ได้ทันทีด้วยซ้ำว่าท่านสอนวิชาอะไร แต่สิ่งที่ทำให้เรารักและจำท่านได้ก็คือ....ความเป็นครู วิญญาณของครูที่ท่านสื่อถึงเรานั่นเอง ยิ่งคิดยิ่งเข้าใจได้เลยว่า ท่านที่เรารักมากๆนั้นคือท่านที่เห็นได้ว่าท่านทุ่มเทให้กับการสอน ท่านรักพวกเราเหมือนลูกเหมือนหลาน ท่านสอนเรามากกว่าเพียงวิชาความรู้ ท่านเป็นต้นแบบในสิ่งที่น่าเคารพศรัทธาด้วยความเป็นตัวตนของท่านเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งซึ้งว่า คนเป็นครูเป็นอาจารย์ที่เป็นครู...จริงๆนั้น ประทับอยู่ในใจและทำให้เราเป็นเราที่เป็นอยู่นี้จริงๆ วิชาการนั้นสอนกันได้ไม่ยาก แต่การสอนของครู....ที่เป็นครูให้อะไรลูกศิษย์ได้มากกว่านั้นมากมายนัก
ขอเป็นกำลังใจและชื่นชมคุณครูทุกๆท่าน ทุกระดับชั้น และอยากจะบอกว่า ผลงานของท่านนั้นมีค่ามหาศาล หากท่านเป็นครู....ที่เป็นครู ขอให้ภูมิใจเถิดค่ะว่า งานนี้ทำความดีใหญ่หลวงนักให้กับโลกใบนี้
สวัสดีค่ะพี่โอ๋ : )
อ.แอมแปร์ .. ดอกไม้ทะเล ครับ
พูดแบบนี้ทำให้ผมคิดถึง ครูสุวรรณ "ครูผู้ลิขิตชีวิตผม" ขึ้นมาอีกแล้วครับ .. คิดถึงทั้งครอบครัวของท่านเลย
อ่านบันทึกนี้แล้ว ดีใจที่เราเขียนทันทีเมื่อมีความคิด ความรู้สึกนี้ เพราะถ้าให้เขียนตอนอื่นๆก็คงสื่อออกมาไม่ได้แบบนี้ค่ะ นี่เป็นข้อดีอย่างยิ่งของ GotoKnow ที่เก็บความคิดของเราไว้ให้ บันทึกนี้เขียนเมื่อ 6 ปีที่แล้ว มาอ่านเองก็ยังมีความสุขค่ะ