เล่าเรื่องจดหมายต่อนะ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้รับเด็กมาทำงานบ้าน
ซึ่งเป็นลูกของพนักงานที่บริษัท อายุ 17 ปียังไม่สามารถทำงานโรง
งานได้แต่ต้องการทำงานหาเงินช่วยครอบครัว ชื่อหนู โดยปกติแล้วหนู
จะเป็นคนที่เงียบไม่ค่อยพูดและยังไม่เคยทำงานแต่ก็เป็นเด็กที่เรียบ
ร้อยในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันเคยชวนหนูไปทานข้าวข้างนอกหลายครั้ง
แต่หนูก็ไม่เคยไปด้วยกัน ก็เลยต้องใช้การซื้อมาฝากเป็นส่วนใหญ่ซึ่ง
หนูก็ไม่ได้ปฎิเสธ ชวนกินข้าวด้วยกันก็ไม่ยอม จัดไปทานที่ห้องเอง
โดยปกติแล้วหนูจะทาน ข้าว 2 มื้อ คือเช้าและบ่าย โดยให้เหตูผลว่า
ต้องการลดความอ้วน ผมก็บอกให้ออกกำลังกาย แต่ก็ไม่เคยเห็นทำ
การทำงานนั้นอยากให้ทำอะไร ก็สอน หนูก็จะทำได้จนก่อนที่หนูจะลา
ออกหนูก็ทำกับข้าวให้น้องไปโรงเรียนได้และช่วยทำงานบ้านอื่นๆตาม
แต่จะบอก แล้วในที่สุดหนูก็มาลาออก โดยบอกว่าจะไปทำงานที่ปั้ม
น้ำมันโดนทำงานในร้านซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งลุงหาให้โดยจะไปทั้งครอบ
ครัว เพราะว่าแม่มีหนี้เยอะต้องการหาเงินมากกว่านี้ ปกติที่หนูมาอยู่ที่
บ้านผมก็ได้ให้เงินแม่เดือนละ 4000 บาท ผมก็สอนอยู่บ่อยๆว่าชีวิต
คนเราไม่ได้อยู่ที่มีรายได้เท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่าเราสามารถเก็บได้มากเท่า
ไหร่ และต้องเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่าในอนาคตเราต้องไม่ลำบากและ
ลงมือออมเงินทันที ในวันนั้นคุยกับหนูแล้วก็รับปากว่าจะลองไปคุยกับ
ทางคุณแม่อีกที หลังจากคุยกับแม่แล้วก็เหมือนกันต้องการหาเงินให้
มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในปัจจุบันทำงานสองคนผัวเมียมีเงินเหลือจากการ
ใช้จ่ายแล้วเดือนละ 8000 บาทซึ่งก็ได้แนะนำว่าชีวิตทุกๆชีวิตจะดีขึ้น
ได้ต้องมีความอดทน และเริ่มที่ต้องเก็บออมในวันที่เรายังสามารถทำ
งานได้แล้วในอนาคตเราก็จะสบาย เพราะว่าเราเริ่มจากความไม่มีต้อง
ใช้ความอดทนและความพยายามมากกว่าคนอื่นแต่เราก็สามารถ ทำ
ในสิ่งที่คนอื่นทำได้ มีในสิ่งที่คนอื่นมีได้
ผ่านไปไม่กี่วันผลคือออกเหมือนเดิม ซึ่งผมก็ไม่ค่อยแปลกใจเพราะว่า
คนงานระดับล่างส่วนมากก็เป็นเช่นนี้ น้อยคนที่จะคิดถึงชีวิตในอนาคต
มีแต่เอาเงินของอนาคตมาใช้จ่ายก่อน มันเป็นการยากมากจริงๆที่จะ
ทำให้คนๆหนึ่งเข้าใจได้ในความปราถนาดีของเราต่อเขา
ได้ไปดูห้องที่หนูพักในตู้เสื้อผ้า พบจดหมายเล็กๆที่หนูเขียนไว้มีใจความว่า รักและเคารพคุณวิทย์และคุณหมอเสมอนะค่ะ หนูขอขอบพระคุณที่คุณวิทย์และคุณหมอให้ความอบอุ่นและความหวังดีต่อหนูเสมอมา อาดมีบางสิ่งที่หนูทำให้คุณวิทย์และคุณหมอไม่พอใจ หนูขอโทษนะค่ะ ขอขอบพระคุณสำหรับสิ่งที่ดีที่มีให้ตลอดมานะค่ะ ขอให้ครอบครัวของคุณวิทย์มีความสุขนะค่ะ ขอเรียกในใจได้ไหมคำว่า พ่อและแม่
ด้วยรักและเคารพเสมอ
ผมก็ได้แต่หวังว่าชีวิตของหนูจะไปได้ด้วยดีตามเส้นทางที่หนูเลือก
และมีความสุขเช่นกัน จะเห็นได้ว่าจดหมายสามารถส่งผ่านสิ่งที่เรามี
ให้แก่คนอื่นๆได้ในขณะที่เราไม่พร้อมที่จะพูดกันโดยตรง
อ่านแล้วเข้าใจ
ซึ้ง.......
การเลือกไม่คุย และเลือกสื่อทางจดหมาย เป็นเรื่องที่น่าสนใจดีนะ
แต่ก็เห็นความเคารพรัก
ยินดีที่ได้รู้จักครับอาจารย์และขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยม
จริงด้วยหน่อย...การเขียนทำให้คนเราได้พูดในสิ่งที่ใจ
ต้องการจะพูด....