วันนี้ ท่านรองฯ โสภณ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้นัดหมายชาวกองทันตฯ ทันตบุคลากรศูนย์อนามัย กลุ่มพัฒนาทันตสาธารณสุขระหว่างประเทศ และภาคีเครือข่าย อาทิ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และอาจารย์จาก ม.ธรรมศาสตร์ ละค่ะ มาเสวนากัน ในเรื่องที่ได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับฟลูออไรด์ ... เพื่อที่ว่า ให้รู้เขา รู้เรา และรู้เรื่องกัน ว่าเราจะต่อยอด ในเรื่องฟลูออไรด์กันอย่างไรละค่ะ ...
ท่านรองฯ ได้เกริ่นนำก่อนค่ะ ว่า
- ... มีคนว่าเรื่องฟลูออไรด์ เหนื่อยใจ เพราะว่ามีทั้ง pro และ con เรื่องนี้พยายามทำกันมานานแล้ว
- ผมจึงว่า "เรื่องอย่างนี้สิดี ต้องเอามาเข้าประชุมวิชาการ ... เพราะจริงๆ แล้ว บางเรื่องของวิชาการมันไม่ได้ข้อสรุป ที่ว่าต่อให้ทุกอย่าง 100% แต่ว่า ณ ปัจจุบันนี้ ข้อสรุปออกมาเป็นยังไง และเราทำกันยังไง ทำกันด้วยความระวังได้อย่างไร ก็เป็นสิ่งที่ต้องเอามาคุยกัน ทั้ง pro และ con"
- ข้อสรุปนี้ ถามว่า ทำไมต้องหาข้อสรุปที่ดีที่สุด เพราะพูดถึงปัญหาต่างๆ ของบ้านเรา เรายังใช้วิธีเดิมๆ กันหรือเปล่า
- ผลของการทำงาน ... ก็ดีขึ้นบางเรื่อง บางเรื่องก็ไม่ดีขึ้น มีคนบอกว่า ถ้าเราหวังสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ใช้วิธีเดิมๆ เป็นเรื่องตลก … เพราะว่า "หวังผลใหม่ แต่ใช้วิธีการแบบเดิมๆ ก็จะเกิดสิ่งใหม่ๆ ได้ยังไง"
- จึงเป็นสิ่งที่น่าคิดว่า ณ ปัจจุบัน ฟลูออไรด์เกินคืออะไร ฟลูออไรด์น้อยไปจะทำยังไง หรือเรื่องของทันตฯ เรามีเรื่องที่ทำกันอยู่ก็คือ เรื่องพฤติกรรม เรื่องสภาพแวดล้อม เด็กไทยไม่กินหวาน เรื่องระบบบริการ เราก็ทำไม่ว่าจะเป็น Sealant หรือ วาร์นิช หรือ เคลือบหลุมร่องฟัน
- ที่นี้ ... พอทำไปแล้ว มันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ก็ต้อง surveillance ดู อาจด้วย 3 ระดับง่ายๆ คือ
1. สภาพแวดล้อมที่จะส่งผลไปถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟลูออไรด์ในน้ำดื่ม ขนมหวาน
2. เรื่องพฤติกรรม กินขนมหวานไหม พฤติกรรมที่จะแปรงฟันกันยังไง พฤติกรรมกินฟลูออไรด์มีไหม และ
3. เรื่องของที่เกิดกับคนเป็นอย่างไรบ้าง อาจจะเป็นเรื่องของทางแลป การเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพ หรือ clinical เป็นยังไง- ท่านอธิบดีได้มอบไว้ว่า เราต้องทำ 6 Keys Function ... เราก็มีทำเรื่องการสำรวจสภาวะทันตฯ ทุก 5 ปี หรืออื่นๆ อยู่แล้ว
- อีกเรื่องหนึ่งคือ R&D ถ้ามองว่าบางเรื่องยังมีปัญหา ก็ต้อง R&D แน่ๆ ว่า เราจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ประเด็นไหนยังมีปัญหา ต้องมีเครื่องมือ
- กองทันตฯ คงไม่จำเป็นต้องหาองค์ความรู้อะไรใหม่ๆ แต่ต้องดูว่า องค์ความรู้ที่มีอยู่จะมา implement อย่างไร จะทำเป็น pilot ทำ case study หรือ implement ทั่วประเทศ
- ... นั่นคือ บทบาทหลัก ซึ่งเป็นเรื่องของ innovation มากกว่า inventing (ก็คือคิดค้น แล้วไปถ่ายทอด) ... คงไม่ใช่อย่างนั้น เราได้ความรู้นั้นมาแล้ว มาทำ implement ในเรื่องของเราที่เกี่ยวข้องกับสังคม เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมคน
- เรื่องที่จะทำนี้ ก็ต้องมี Basic knowledge คือ พื้นฐานความรู้ เทคโนโลยีที่จะตรวจสอบ วัดง่าย
- เช่น เรื่องหมวกกันน็อค ต้องมีฐานองค์ความรู้ต่างๆ ว่า หมวกกันน็อคชนิดไหนใส่แล้วป้องกันสมอง ป้องกันกะโหลกได้
- อันที่สอง คือ มีเทคโนโลยีที่จะตรวจวัดไหม ใส่เทคโนโลยีนั้นไป แล้วเกิด หรือไม่เกิดผลอย่างไร ... บางเรื่อง เช่น เรื่องกลิ่น เป็นตัวเลขที่วัดไม่ได้ ถึงบอกว่า เอ้าออกนโยบายว่า ไม่ให้มีกลิ่นเหม็น แต่ไม่สามารถมีเทคนิคไปวัดกลิ่นเหม็นได้อย่างไร แต่ถ้าหมวกกันน็อคเป็นเรื่องพฤติกรรมก็วัดง่ายๆ
- อันที่สาม คือ พฤติกรรมคนในสังคมนั้น ก็เป็น event ได้เหมือนกัน
- เรื่องของทันตฯ เรามีเรื่องฟลูออไรด์ จะเอามาใช้ได้อย่างไร ก็ต้องมี basic knowledge
- อันที่สอง คือ เทคโนโลยีที่จะตรวจวัด วัดที่สภาพแวดล้อม วัดในคน หรือวัดการได้ใช้ หรือไม่ได้ใช้เป็นอย่างไรบ้าง
- อันที่สาม คือ เรื่องของพฤติกรรมเป็นยังไง เช่น ใช้เรื่องการอมฟลูออไรด์ แต่ว่าพฤติกรรมไม่พร้อมอม ก็ไม่เกิด พฤติกรรมเรื่องแปรงฟัน ถ้าทำให้เกิดในชีวิตประจำวันแล้วมันก็ยังได้
- วันนี้เป็นวันที่เราจะมาคุยกันในเรื่องของการใช้ฟลูออไรด์ เป็นเวทีที่มี pro และ con แต่ละด้านว่ากันอย่างไร ณ ปัจจุบันนี้ที่ดีที่สุด ควรจะทำอย่างไรต่อ จะต้องไปทำต่อตอนนี้ หรือว่าไปลอง pilot หรือไปทำอย่างไรกันต่อไป
- เรามาพูดกันเรื่อง
1. ประเด็นที่ฟลูออไรด์ว่า pro เป็นอย่างไร con เป็นอย่างไร
2. และถ้าเกิดว่าเราจะ manage ฟลูออไรด์ได้อย่างไร ถ้าฟลูออไรด์เกินจะทำอย่างไร ถ้าฟลูออไรด์น้อยจะต้องทำยังไง และใช้ในด้านสาธารณสุขได้ไหม ได้อย่างไร
3. ถ้าเราใช้วิธีการที่ท่านอธิบดีพูดถึง คือ
... surveillance เป็น fluoride mapping ดีไหม
... เรื่อง M&E ได้ไหม ที่เราทำกันอยู่ ทั้งที่ไปทำให้ฟลูออไรด์จากสูงลงมาต่ำทำอย่างไรได้บ้าง หรือที่มันน้อยไปจะเติม แล้ว M&E เป็นอย่างไร คือ วัดในเรื่องของสภาพแวดล้อม ทั้งพฤติกรรม และผลที่เกิดขึ้น
... และเรื่อง R&D มีประเด็นไหนที่ต้อง R&D ต่อ- มันไม่หยุดนิ่ง และคงไม่ใช้ที่สุดท้ายที่จะจบตรงจุดนี้ ... ก็ต้องมองว่า ออกมาแล้วควรจะเป็นอย่างไร
ก็เป็นมิติใหม่ละค่ะ ที่เรามารวมตัวกันในเวทีนี้ เพื่อคุยเรื่องการใช้ฟลูออไรด์อย่างจริงๆ จังๆ
ไม่มีความเห็น